Lifestyle

แก่แต่วัย...กาย & ใจยังเป๊ะ!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โซไซตี้ : แก่แต่วัย...กาย & ใจยังเป๊ะ!!

 
                       ขิงแก่เผ็ดร้อนฉันใด คนรุ่นใหญ่บางคนแม้วัยจะล่วงเลยเข้าสู่บั้นปลายชีวิต แต่ยังไว้ลายด้วยการดำรงตัวให้สดใสได้ประหนึ่งวัยรุ่นแรกแย้ม...เรามาดูกันซิว่า "ท่านสูงวัย" เหล่านี้มีวิธีการปรุงแต่งกายใจตัวเองให้มีความสุขด้วยวิธีใดบ้าง!!!
 
                       ประเดิมที่ไฮโซพันล้าน สุมณี คุณะเกษม แม้วันนี้เธอมีอายุนำหน้าด้วยเลข 7 เข้าไปแล้ว แต่ด้วยหลักการดำเนินชีวิตที่ว่า ในขณะนี้ถือว่าเป็นกำไร จึงต้องมีความสุขในทุกวินาทีที่ยังเหลือ หลายคนอาจจะคิดว่าเธอชอบทำอะไรสุดขั้ว แต่นั่นเจ้าตัวก็บอกว่า คือ ความสุข และในเมื่อสามารถค้นพบค้นพบความสุขในชีวิตแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องคำนึงถึง...ส่วนการเติมเต็มความสุขให้ตัวเองในช่วยบั้นปลายชีวิตเจ้าตัวเลือกเทเวลาให้กับกิจกรรมเต้นรำเป็นประจำ (เกือบ) ทุกวันหากไม่ติดภารกิจอื่นใด 
 
                       มาต่อกันที่เจ้าแม่ความงาม "แจ่มจันทร์สมุนไพร" "ป้าต้อย" วันเพ็ญ เจิมประไพ เผยเคล็บลับการทำให้กายใจเป๊ะแบบไม่แคร์วัยว่า ทุกเช้าเธอต้องวิ่งเหยาะๆ วันละ 2 กิโลเมตร ภายในบริเวณบ้านเนื้อที่ 6 ไร่ ควบคู่กับการทานผักผลไม้ให้ครบ 9 ชนิด แต่ต้องแช่เกลือก่อนปั่นเพื่อล้างสารเคมีออก ต้องบอกเลยว่าอยากอายุยืนให้ทานผักผลไม้เยอะๆ  ขณะเดียวกันก็หลีกของมัน เนื้อสัตว์ ส่วนใครบอกว่าคนสูงวัยไม่จำเป็นต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง สาวสองพันปีอย่างป้าต้อยบอกว่า เธอนี่ล่ะยึดปฏิบัติตั้งแต่สาวยันแก่ และที่สำคัญอย่าเครียด หรือถ้าห้ามไม่ได้ก็ต้องทำใจด้วยการนั่งสมาธิบ่อยๆ  วันละ 10 นาทีก็ได้ มองคนในแง่ดี อย่าโกรธ อย่าอาฆาตแค่นั้นก็ใจสบาย ใครว่าอะไรก็ช่างเขาถ้าเราไม่เก็บมาใส่ใจ และที่ขาดไม่ได้จริงๆ ก็ต้องออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ พี่น้องตามงานสังคม แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 
 
                       สาวสองพันปีอีกรายที่ไม่อาจละเลย "ซูซี่" หทัยเทพ ธีระธาดา ตัวเลขแห่งวัย ไม่เคยทำอะไรผู้หญิงคนนี้ได้ เพราะเธอยังคงสวย เซ็กซี่ สง่า จนทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หลายๆ คน ต้องแอบอิจฉาในรูปร่างและความงามสุดเปรี้ยวของเธอเลยทีเดียว  ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยังมีความชัดเจนในการดำเนินชีวิต ด้วยมีสโลแกนเด็ดเข็ดฟัน...ขยะในใจใครอื่น เก็บไว้ก็รังแต่จะรกใจ เปลืองสมอง “ความสุขของฉัน คือความสุขของฉัน" เธอชัดเจนในทุกถ้อยที่พูด “คนเราถ้าจะด่าก็มักด่ากันลับหลัง ซึ่งดิฉันไม่แคร์ เพราะถ้ามัวแคร์คำพูดคนอื่นจะหาความสุขในชีวิตไม่ได้....อย่างนี้ก็เข้าทำนองว่าอย่าได้แคร์ ชิมิคะ!!" 
 
                       "ทำอะไรที่ตัวเองชอบ ไม่ชอบไม่ทำ" คือ หลักการใช้ชีวิตที่ จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์ ลิขิตให้ตัวเอง นอกเหนือจากการเข้าวัดไหว้พระ นั่งวิปัสสนา และการออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักด้วยกำหนดให้ 1 วันในสัปดาห์จะทานแต่ผลไม้รสไม่หวานจัดเพื่อเป็นการล้างกระเพาะ ส่วนในเรื่องอารมณ์แม้คนใกล้จะการันตีว่าเธอลดดีกรีความแรงลงไปเยอะแล้วก็ตาม แต่เจ้าตัวก็บอกว่า ทุกวันนี้ยังต้องท่องคัมภีร์ "ปล่อยวางหนอ ปล่อยวางหนอ..." กระนั้นก็มีบางครั้งที่แอบปรี๊ดบ้าง นอกจากนี้การได้แต่งตัวสวยในสไตล์ที่ชอบ แต่ไม่โป๊จัดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ "สาวสูงวัยแต่กายใจยังเป๊ะ" รู้สึกสดใส กระฉับกระเฉงและมั่นใจ ไม่ต่างจากในวัยสาวเชียวล่ะ
 
                       อีกหนึ่งสาวสูงวัยใจเป๊ะ "หลี" จรินทร์ สุมานนท์ ประกาศตูม...ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ร่างกายยังฟิตแอนด์เฟิร์มกว่านี้ วิถีแห่งสุขของเธอคือการได้ออกลีลาเต้นรำ แต่ถึงจะกลับไปทำกิจกรรมสุดโปรดนั้นไม่ได้แล้ว เธอก็ยังมีช่องทางสร้างสุขให้ตัวเองด้วย การแต่งตัว อยู่กับเครื่องเพชร พวกเครื่องประดับเหมือนเป็นเครื่องเติมเต็มให้ผู้หญิงสวย วันหนึ่งได้หยิบมาใส่ให้ครบทั้งสร้อยแหวน ต่างหู กำไล เพียงแค่นี้ก็รู้สึกมั่นใจมีความสุขอย่าบอกใครเชียว ส่วนใครจะนึกยังไง จะว่าอะไร "ตู้เพชรเคลื่อนที่" เชิดใส่บอกไม่ค่อยสนใจ คนชอบก็มีคนไม่ชอบก็มีเช่นกันเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา...เธอว่าอย่างงั้น 
 
                       ฟากอดีตประธานสภาสตรี "นิ่ม" ยุวดี นิ่มสมบุญ ถึงวันนี้ด้วยวัยจะเฉียดหลัก 7 แล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด ทำงานด้านสังคมควบคู่กับการบริหารงานบริษัทส่วนตัว และนี่ล่ะคือ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่นอกจากไม่เป็นภาระใคร แถมยังได้ช่วยเหลือสังคมตามกำลังอีกด้วย ส่วนเรื่องหลักการดูแลตัวเองให้สุขกายสบายใจ เจ้าตัวมีหลักอยู่ว่า สำหรับคนสูงอายุการตรวจสุขภาพตามวาระถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการทำจิตใจให้สงบสุข พยายามแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังกาย กำลังใจ หรือกำลังทรัพย์ เพราะสุดท้ายคนเราไม่สามารถเอาอะไรติดตัวได้เลย รวมถึงการรักษาอารมณ์ให้สม่ำเสมอ พยายามบอกตัวเอง เราจะเป็นคนแก่ที่มีความสุข ไม่เป็นภาระให้ใคร และที่เด็ดยิ่งกว่า เจ้าตัวบอกว่าอย่าลืมทำพินัยกรรม ถ้ามีอะไรที่จะต้องมอบให้ลูกหลานก็ทำให้ชัดเจนซะ..อืมม์!!! ชัดเจนจริงด้วย
 
                       หันหน้าแลหลังกลับมามองฝั่งชายหนุ่มสูงวัย กาย & ใจ เป๊ะเว่อร์บ้างหน่อยประไร....หนุ่มใหญ่สุดฮอต ตอนนี้ต้องยกให้ "ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ (คนใกล้ตัวเล่าว่า) ด้วยความที่ลุงกำนันเป็นอารมณ์ดี หัวเราะได้ทุกสถานการณ์ ไม่เครียด ไม่คิดเล็กคิดน้อย สู้ไม่ถอย หากต้องเผชิญกับปัญหาก็แก้กันไป ปัญหาไหนลุล่วงก็ยิ้มได้ ส่วนอันไหนแก้ไม่ตกก็ปล่อยวาง บวกกับต้นทุนซึ่งเป็นคนแข็งแรง กินง่ายกินได้ทุกอย่าง เล่นกีฬาและออกกำลังกายบ้างในบางครั้งเท่าที่โอกาสจะอำนวย จึงเหมือนเป็นยาดี...เรียกว่า เลข (อายุ) 64 ปีนี่จิ๊บๆ ไม่ได้ระคายผิวผู้ชายลูกน้ำเค็มเขาซักนิ้ดล่ะ บรรดาแฟนคลับทั้งหลายสบายใจได้
 
                       อดีตผู้กำกับมือทองหลังจากโบกมือลาวงการแผ่นฟิล์ม แล้วผันตัวเองมาเป็นศิลปินวาดภาพเหมือนตามใจรัก คือ ความสุขสุดๆ ของ "ตุ๊" สมบูรณ์สุข นิยมศิริ หรือ เปี๊ยก โปสเตอร์ ในวันผ่านหลักไมล์ชีวิตไปถึง 82 ปีแล้วก็ตาม ยิ่งเมื่อรวมกับการออกแบบอาหารทานเอง ควบคู่กับการได้อยู่ในที่อากาศดี ปล่อยอารมณ์แจ่มใส  ออกกำลังกาย ปฏิบัติธรรมบ้าง ก็ไม่เครียด นอกจากนี้ทุกสองอาทิตย์เขาจะรวมตัวกับน้องๆ (อายุ 60 กว่าปี) ทำอาหารทานกัน เล่นดนตรี ร้องเพลง ยิ่งมีความสุข ส่งผลให้เขายังฟิตเปี๊ยะ กระนั้นผู้กำกับหนังชื่อทิ้งท้ายอย่างคนอารมณ์ดีว่า ความจริงก็แอบกลัวว่าถ้าตัวเองอยู่เกินร้อยปี แล้วคนดูแลจากไปเสียก่อน ตอนนั้นคงไม่มีใครดูแล...
 
                       อีกหนุ่ม (ใหญ่) พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วัย 70 กะรัตพอดิบพอดี ที่ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างจริงจัง โดยศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมถึงทุ่มทุนสร้างห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครัน โดยวางตารางออกกำลังกายครั้งละ 45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน อย่างสม่ำเสมอ แม้กระทั่งเวลาไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็ต้องทำให้ได้ ยิ่งเรื่องสุขภาพจิต เจ้าตัวโอ่ว่า "สบายมากหายห่วง" เพราะไม่ยึดติดกับศักดินาอะไรทั้งนั้น ธุรกิจไม่มีเลย โชคดีได้มรดกตกทอดมาตลอด ตระกูลสมาชิกน้อย ตัวเองเป็นลูกคนเดียวก็ได้มรดกที่ดินมาเยอะ ก็เลยมีงานอดิเรกคือการปลูกต้นไม้  รู้จักสั่งต้นไม้มาจากเมืองนอกตั้งแต่ 8 ขวบ สำหรับสาวคนสนิทที่เห็นตามข่าวนั้น ก็เพราะไม่มีลูก แล้วไม่มีพี่น้องแท้ๆ  อีกอย่างภรรยาก็อายุมากเท่าๆ กัน เมื่อเป็นแบบนี้จำเป็นต้องมีคนเป็นตาแทน เป็นไม้เท้าให้ เป็นสมองอีกข้างเท่านั้นเอง 
 
                       ปิดท้ายที่ "คุณชายนก" ม.ร.ว.สมชนก กฤดากร บอกว่า ในวัยปลายชีวิต แค่รับประทานอาหารให้พอดี เช้าหนัก กลางวันเพลาๆ หน่อย มื้อเย็นนิดเดียว รวมถึงหาหมอที่เข้าใจคนแก่และศึกษาอาการของตัวเองไว้บ้าง เพราะหมอเก่งที่สุดในโลกคือตัวเอง นอกจากนี้ "คุณชายอารมณ์ดี๊ ดี" มีหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่าง พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา (สำคัญที่สุด) นำทางให้อายุยืนนานถึง 84 ปี เช่นเดียวกับหลัก "อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว" (สำคัญที่สุดในโลกถัดจากพรหมวิหาร 4) และพุทธโอวาทของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพาน ที่ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา จงอยู่ด้วยความไม่ประมาท" หากพิจารณาสิ่งเหล่านี้กระจ่างแจ้งแล้ว "คุณชาย...ก็จะไม่กังวลใจต่อสิ่งใดอีกแล้ว
 
                       ...แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดว่าจะออกแบบความสุขให้ กาย&ใจ ตัวเองอย่างไรบ้าง???...
 
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ