พระเครื่อง

ปาฏิหาริย์พระของ'พ่อ'พระสมเด็จจิตรลดา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปาฏิหาริย์พระของ'พ่อ'พระสมเด็จจิตรลดา พระกำลังแผ่นดิน : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

              "พระสมเด็จจิตรลดา" หรือ "พระกำลังแผ่นดิน" นั้น เข้าใจว่าท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จะเป็นผู้ขนานพระนามตามพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช คำว่า "ภูมิ" แปลว่า "แผ่นดิน" ส่วนคำว่า "พล" แปลว่า "กำลัง" จึงเป็นที่มาของพระนาม "พระสมเด็จจิตรลดา" ว่า "พระกำลังแผ่นดิน"

              ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กประมาณไม่เกิน ๓,๐๐๐องค์ พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือน ตั้งแต่ใน พ.ศ.๒๕๐๘ จนสิ้นสุดใน พ.ศ.๒๕๑๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานด้วยพระหัตถ์พระองค์เอง มีเอกสารส่วนพระองค์ (ใบกำกับพระ) ซึ่งแสดงชื่อ นามสกุล วันที่รับพระราชทาน หมายเลขกำกับทุกองค์ โดยทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้รับพระราชทานว่า "ให้ปิดทองที่หลังองค์พระปฏิมาแล้วเอาไว้บูชาตลอดไป ให้ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ"

              "ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเลยสักครั้งเดียว หลายครั้งเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ก็เป็นแค่อุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงถึงชีวิต ที่เป็นเช่นนี้ความรู้สึกส่วนตัวมองว่าเป็นความไม่ประมาทของตัวเองมากกว่าเป็นเรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีถ้าประมาท อีกทั้งคนเราถ้ารู้จักคิดก่อนทำอะไรอย่างมีสติรอบคอบก็ย่อมผ่านพ้นนาทีวิกฤติไปได้" นี่คือคำยืนยันของ พล.ต.ต.จักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งแขวนพระ ๗ องค์ ได้แก่ พระสมเด็จจิตรลดา พระสมเด็จบางขุนพรหม พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นหลังเตารีด พระท่ากระดาน วัดท่าเสา พระทุ่งเศรษฐี เหรียญหลวงปู่แหวน และพระโคนสมอ

              พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่าเป็นเรื่องจริงที่ทหารออกรบเป็นกองร้อย แต่ขนพระเครื่องไปเป็นกองพัน ไม่ว่าจะเป็นพระเกจิดังหรือไม่ดังก็ถูกนิมนต์ขึ้นคอไปช่วยรบทั้งนั้น โดยปัจจุบันนี้แขวนพระอยู่เพียง ๒ องค์ คือพระหลวงพ่อโสธร และพระสมเด็จจิตรลดาโดยได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๑๓ ซึ่งตรงกับวันเกิดพอดี ระหว่างพระราชทานพระให้นั้น พระองค์ท่านมาจับมือพร้อมกับรับสั่งประมาณ ๕ นาที โดยมีใจความสรุปว่า พระองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า พระจะอยู่กับเราก็ต่อเมื่อเราทำดี การไปรบคือการไปทำดีเพื่อประเทศชาติ จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้วพระจะคุ้มครองเอง

              นายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าสถาบันในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล บอกว่า "ตั้งแต่ผมแขวนพระสมเด็จพิมพ์จิตรลดาองค์นี้มา ชีวิตการทำงานก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทำอะไรก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่มีอุปสรรคอะไรมาทำให้เกิดปัญหาเลย เมื่อทำให้ชีวิตผมดีมาแบบนี้ผมก็เลยแขวนพระองค์นี้ติดตัวมาตลอด ใครที่เช่าพระองค์นี้ไปส่วนใหญ่ก็จะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุร้ายแรงมาได้หลายคน ใครจะว่าอย่างไรผมก็คิดว่าเป็นความเชื่อความศรัทธาของแต่ละคนด้วย

              ในขณะที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต ๒ จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เล่าว่า ครั้งหนึ่งเดินทางไปว่าความที่ จ.นครนายก ระหว่างออกจากบ้านก็คิดในใจว่าวันนี้ได้อาราธนาพระองค์ใหม่ติดตัวน่าจะมีเรื่องปาฏิหาริย์เกิดขึ้นบ้าง เมื่อขับรถเข้าเขตมีนบุรีก็เห็นรถบีเอ็มดับเบิลยูที่แซงขึ้นมาก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถคันอื่นๆ รวดเดียว ๗ คัน ขวางถนนทั้งหมด รถอื่นๆ ไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ ถ้าวันนั้นไม่มีปาฏิหาริย์วันนี้คงไม่มีชื่อของ ส.ส.พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ครั้งนั้นเขาแขวน พระสมเด็จจิตรลดา ปัจจุบันพระองค์นี้ได้มอบให้ พล.ต.ท.บุญชู วังกานนท์ อดีตผู้บังคับการตำรวจกองปราบ (ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการเป็นผู้ช่วยอธิบกรมตำรวจ)

              นอกจากนี้แล้วนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งแขวนพระสมเด็จจิตรลดาเพียงองค์เดียวบอกว่า "พระสมเด็จจิตรลดา ถือเป็นพระเครื่องที่เป็นมงคลให้ชีวิต ทำให้ผมมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อสังคมโดยส่วนรวม ผมว่าพระเครื่องเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องให้เกิดปาฏิหาริย์ถึงจะเชื่อว่ามีอยู่จริงในสังคม เพียงแต่ให้ใส่พระแล้วไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงต่อชีวิต ผมว่านั่นแหละเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากที่สุดของผมแล้ว" 


เจ้าของรัง "สมเด็จจิตรลดา"


              ปัจจุบันนี้มีผู้ครอบครองพระสมเด็จจิตรลดาในระดับที่เรียกว่า "รังพระสมเด็จจิตรลดา" หลายคน เช่น นายสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง หรือเสี่ยสมชาติ เจ้าของธุรกิจรังนก มีอยู่ในครอบครองประมาณ ๗๐-๘๐ องค์ ถือว่ามากที่สุดในวงการพระเครื่อง โดยได้ไล่เก็บตั้งแต่ยังไม่ได้รับความนิยมและมีราคาไม่แพง ในขณะที่นายไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ หรือ "โป๊ยเสี่ย" เจ้าของพระสมเด็จองค์ลุงพุฒิ (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) แว่วข่าวมาว่ามี พระสมเด็จจิตรลดาอยู่ในรังประมาณ ๓๐ องค์ เช่นเดียวกับ "เสี่ยเผด็จ หงษ์ฟ้า" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) บริษัทในเครือ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีพระสมเด็จจิตรลดา ประมาณ ๓๐ องค์ เท่ากัน

              พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไล่เก็บสะสมมาตั้งแต่ราคาไม่แพง แต่เก็บได้กว่า ๒๐ องค์เท่านั้น นายสันติ วิลาสศักดานนท์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มีพระสมเด็จจิตรลดา อยู่ในครอบครองประมาณ ๒๐ องค์ นายปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าสัวตัวจริงเมืองอุดร ที่คนอุดรมักเรียกสั้นๆ ว่า "เสี่ยปรีชา" มี ๑๕ องค์ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรอง ผบ.ตร สะสมไว้ประมาณ ๑๐ องค์ ส่วนนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยโนอาร์ ก็มีพระสมเด็จจิตรลดาหลายองค์เช่นกัน

              เสี่ยสมชาติบอกว่า เริ่มเช่าพระสมเด็จจิตรลดามาตั้งแต่ พ.ศ. ๕๕๒๐ ขณะนั้นมีค่านิยมประมาณ ๒-๓ หมื่นบาทเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้ผู้นับถือในเทศกาลและโอกาสสำคัญๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจำนวนมาก และเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ พระสมเด็จจิตรลดาค่านิยมขึ้นไปหลักแสนจึงเช่าเก็บอย่างเดียว โดยเก็บที่สร้าง พ.ศ.๒๕๐๘-พ.ศ. ๒๕๑๒ ส่วน พ.ศ.๒๕๑๓ ไม่ได้เก็บ เพราะขนาดองค์ใหญ่ และในจำนวนพระสมเด็จจิตรลดาทั้งหมดมีพิมพ์เล็กเพยง ๑ องค์เท่านั้น

              ในจำนวนพระสมเด็จจิตรลดาทั้งหมดกว่าครึ่งหนึ่งมีใบพระราชทาน หรือใบกำกับองค์พระ ซึ่งในอดีตนั้นการขายพระสมเด็จจิตรลดา ส่วนใหญ่ผู้ครอบครองจะขายพร้อมใบกำกับ การแยกขายองค์พระกับใบพระราชทานเพิ่งเกิดขึ้นในรอบ ๑๐ ปี ที่ผ่านมานี่เอง เท่าที่ทราบเฉพาะใบกำกับองค์พระมีการขายตั้งแต่ราคา ๓๐,๐๐๐ บาท จนถึงเกือบ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนการขายพระสมเด็จจิตรลดา พร้อมใบพระราชทานนั้น จะขายได้ราคาสูงกว่าพระสมเด็จจิตรลดา ที่ไม่มีใบพระราชทานประมาณ ๓๐-๔๐% ซึ่งปัจจุบันนี้พระสมเด็จจิตรลดา มีราคาหลักล้านทุกองค์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ