นิทานกล่อมนอน...สานสายใยรัก...พัฒนา EF ให้ลูกน้อย

    นิทานจัดเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กเล็ก พ่อแม่หลายครอบครัวเลี้ยงลูกด้วยการใช้นิทานหลากหลายประเภทในการพัฒนาทักษะต่างๆ ของลูก หรือแม้กระทั่งใช้ในการกล่อมลูกน้อยนอน แม้ว่าเทคโนโลยีต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทกับการเลี้ยงดูเด็กมากขึ้น แต่การได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างคนในครอบครัวย่อมเป็นกิจกรรมสานสายใยรักที่ดีที่สุด

    ครูก้า กรองทอง บุญประคอง ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็ก เจ้าของโรงเรียนจิตเมตต์ กล่าวถึงความสำคัญของทักษะ EF ว่า  “ทักษะ EF เป็นทักษะสมองที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านทักษะการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมให้เป็นสุขและมีประโยชน์ ด้านการเรียนรู้ ด้านการทำงาน และด้านอื่นๆ  ทักษะ EF นั้นประกอบไปด้วยทักษะหลักๆ 9 ด้านที่จะช่วยพัฒนาเด็กๆ ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ซึ่งการที่เด็กจะมีทักษะเหล่านี้ได้ต้องขึ้นอยู่กับโอกาสและบทบาทของผู้ใหญ่รอบข้างว่าจะช่วยส่งเสริมหรือไปลดทอนทักษะส่วนนั้น บ่อยครั้งที่พ่อแม่คิดว่ากำลังมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกแต่แท้จริงแล้วกลับไปปิดกั้นโอกาสให้ลูกมีทักษะ EF โดยไม่รู้ตัว  เช่น การที่พ่อแม่เข้าไปจัดการทุกอย่างจนลูกไม่มีโอกาสได้คิดหรือทำอะไรด้วยตนเองเพราะกังวลกับผลลัพธ์ สิ่งสำคัญคือพ่อแม่และครูจะต้องมีทักษะ EF ที่สำคัญก่อน นั่นคือ ทักษะในการยับยั้งชั่งใจ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้มีอิสระทางความคิดและการกระทำในเรื่องที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง”

    คุณโน้ต ณัฐกานต์ ประสพสายพรกุล พิธีกรสาวมากความสามารถ คุณแม่น้องพอใจวัย 6 ขวบ และน้องดีใจวัย 4 ขวบ เผยถึงกระแสทักษะ EF ที่เข้ามามีส่วนในการเลี้ยงดูลูกว่า  “โน้ตจะสอดแทรกกิจกรรมประจำวันที่ส่งเสริมทักษะ EF ของลูก ซึ่งสิ่งที่ลูกชอบและขอให้ทำบ่อยๆ คือการเล่านิทาน ดังนั้นสำหรับครอบครัวเรา นิทานที่ส่งเสริมทักษะ EF จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตัวแม่เองก็ได้ฝึกทักษะต่างๆ ไปในตัวด้วย  นิทานเล่มล่าสุดที่เพิ่งอ่านกับพอใจดีใจไป คือ กล่องสุดถนอม เป็นนิทานที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ เห็นตัวอย่างการรู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทนมานะฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้  ผู้แต่งจะวางอุปสรรคที่ท้าทายและเหมาะสมกับวัยอย่างชาญฉลาดเป็นช่วงๆ เพื่อให้เด็กได้ฉุกคิด เกิดกระบวนการคิดแก้ไขปัญหา วางแผนต่อยอดด้วยตัวเอง พออ่านจบ เราก็ชวนกันคิดว่าถ้าลูกเจอเหตุการณ์แบบนี้ ลูกจะทำอย่างไร คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยไม่มีการตัดสินว่าคำตอบของลูกนั้นถูกหรือผิดค่ะ” 

    นอกจากทักษะ EF ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่สำคัญแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนประสบปัญหาจนปวดหัวคงหนีไม่พ้นเรื่องลูกน้อยไม่ยอมนอนหรือนอนไม่หลับ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาที่นอกเหนือจากการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และกำหนดเวลากิจวัตรประจำวันของลูกอย่างเป็นแบบแผนแล้ว การมีช่วงเวลากิจกรรมเล่านิทานก็จัดเป็นเคล็ดลับในการทำให้ลูกเข้านอนได้เช่นเดียวกัน
    ครูก้า กล่าวถึงการใช้กิจกรรมเล่านิทานกล่อมลูกนอนว่า  “พ่อแม่ต้องกำหนดช่วงไฮไลต์ของวันคือ Bed time story ที่เด็กจะได้อ่านนิทานในอ้อมกอดของพ่อแม่ซึ่งเป็นนิทานที่เด็กๆ เลือกเอง จบแล้วก็ให้เขาเป็นคนปิดโคมไฟที่เราเตรียมไว้บนหัวเตียงเพื่อให้เขารู้สึกภูมิใจที่ได้ปิดกิจกรรมก่อนนอน ได้ดูแลขอบเขตเวลาการนอนที่เหมาะสมด้วยตนเอง ทำเช่นนี้ทุกวัน แต่ต้องอย่าลืมว่าการที่จะเป็นช่วงไฮไลต์ของวันได้นั้นต้องเป็นการอ่านหรือฟังนิทานที่สร้างความสุขความอบอุ่นแก่เด็กๆ ไม่ใช่การอ่านที่สอนสะกดคำหรือพยายามสอดแทรกความรู้เชิงวิชาการ มิเช่นนั้นคงไม่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ อยากเข้านอนได้ ถ้าเป็นเด็กอายุห้าขวบขึ้นไป เราสามารถให้เด็กลองวางแผนจัดตารางเวลาด้วยตนเองว่าจะทำอะไรก่อนหลังโดยมีเราเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะ EF หลายๆ ด้าน เช่น ทักษะการวางแผนจัดระบบดำเนินการ การยั้งคิดไตร่ตรอง เป็นต้น”
    นอกจากนี้ ยังมีหนึ่งเสียงช่วยยืนยันจากคุณโน้ตซึ่งเป็นคุณแม่ที่ใช้นิทานในการกล่อมลูกนอนว่ากิจกรรมนี้ช่วยแก้ปัญหาลูกไม่ยอมนอนได้จริงๆ  “โน้ตจะเล่านิทานโดยเลือกนิทานเล่มโปรดของลูกมาเล่า ใช้น้ำเสียงโมโนโทน เรียบๆ และคุยถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน 3 เรื่องก่อนนอนในบรรยากาศสบายๆ หรี่ไฟเล็กน้อย เข้านอนด้วยความรู้สึกที่ดีมีพลังบวก ตื่นมาก็สดชื่น ซึ่งนิทานที่เลือกมาอ่านก็มีส่วนต่อลูกมากค่ะ อย่างนิทานเล่มล่าสุดที่อ่านแล้วชอบมากคือเรื่อง หาวอย่างนี้ดูสิจ๊ะ ภาพวาดน่ารักอบอุ่น โทนสีที่ใช้และลายเส้นก็ดูอบอุ่น เนื้อหาเหมาะกับการเล่าให้ลูกฟังก่อนนอนมาก  โน้ตเองใช้นิทานเป็นสื่อบอกรักลูก อ่านไปกอดกันไป อุ้มลูกนั่งตักสื่อรักผ่านตัวหนังสือ และที่เด็กๆ ชอบมากอีกอย่าง คือการทำท่าทางเลียนแบบการหาวของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ในเรื่อง พออ่านเล่มนี้จบ แค่บอกลูกว่าได้เวลานอนแล้ว เด็กๆ ก็เข้านอนอย่างว่าง่าย สบายใจแม่มาก หลับไปยิ้มไป เหมาะกับการอ่านก่อนนอนในบรรยากาศอบอุ่นสบายๆ มากค่ะ”
    หาวอย่างนี้ดูสิจ๊ะ นิทานเล่มใหม่จากชุดนิทานกล่อมนอนที่จัดพิมพ์โดยนานมีบุ๊คส์คิดดี้ ทำให้เด็กเพลิดเพลินไปกับการเลียนแบบท่าทางการหาวนอนของลูกสัตว์ต่างๆ เด็กๆ จะได้เห็นสภาพแวดล้อมในการนอนของลูกสัตว์แต่ละชนิด นอกจากนี้ยังแนะเคล็ดลับการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนของลูกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน  นิทานชุดนี้มีทั้งหมด 4 เล่ม โดยอีก 3 เล่มมีกำหนดการจัดพิมพ์ออกมาเร็วๆ นี้

    ได้เห็นถึงข้อดีของการใช้หนังสือในการพัฒนาทักษะสมองและเลี้ยงลูกกันแล้ว รอช้าอยู่ไย รีบไปหาหนังสือดีๆ มาส่งเสริมพัฒนาการลูกกันเถอะ เพราะการเลี้ยงดูที่ดีของพ่อแม่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ 
    พ่อแม่และครูท่านใดที่สนใจนิทานพัฒนาทักษะ EF นานมีบุ๊คส์มีหนังสือเด็กที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะ EF ทั้งหมด 26 เล่ม ได้แก่ ฉันชื่อ...เจน, จุ๊ดจิ๊ดกับจิ๊ดจุ๊ด, ยิ่งกว่าชนะเลิศ, ก้อนเมฆมีน้ำใจ, แพนเค้กของบุ๋มบิ๋ม, หมีจอมซ่ากับกระต่ายเจ้าปัญญา, ถู แตะ เป่า เขย่า สนุกจัง, อายอายคนเก่ง, ฉันชอบตัวเองจังเลย, ฉันชอบเธอจังเลย, มืดตึ๊ดตื๋อ, เพื่อนผมเป็นหนุมาน, ขนฟูอยากเหมือนเพื่อน, ปูยักษ์อยากสวย, บ้านไร่สามัคคี, มะลิกับไมโลเตรียมตัวเที่ยวทะเล, ถ้วยฟูกลัวจังเลย, ถ้วยฟูโกรธแล้วนะ, ห่านน้อยนักแก้ปัญหา, หมีน้อยจอมพลัง, รออีกนิดนะคนดี, ข้าวตังตามหาข้าวตู, โจโจ้ขี้โมโห, กล่องสุดถนอม, วันหนึ่งผมจะโต และต้องดีขึ้น (อีกนิดนึง) ทุกท่านสามารถติดต่อสอบถามและสั่งซื้อได้ทั้ง 26 เล่ม รวมถึง หาวอย่างนี้ดูสิจ๊ะ ที่คุณโน้ตแนะนำด้วยค่ะ