นักศึกษา ม.หัวเฉียวฯ ถ่ายทอดความรู้สึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9
ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะมองว่าคนรุ่นใหม่รู้จัก “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” หรือไม่ วันนี้สังคมได้รับคำตอบแล้วจากภาพถ่าย 89 ภาพในหลากหลายมิติของนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อร่วมจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่าย “ถวายอาลัยจากดวงใจปวงประชา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” ตั้งแต่วันนี้-20 พฤศจิกายน บริเวณโถงกลาง สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
วุฒิชาติ กัลยาณมิตร
วุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ประธานพิธีเปิดนิทรรศการฯ กล่าวว่า นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยความร่วมมือของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ช่างภาพไทย จำกัด และคณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ในการนำภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของความรัก และความอาลัยที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาจัดแสดงเพื่อให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสบันทึกเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ผ่านภาพถ่าย และนำผลงานมาจัดแสดงให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ แก่สังคม
ผศ.รัตนา ทิมเมือง รักษาการคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า ถ่ายภาพที่นำมาจัดนิทรรศการเป็นภาพถ่ายที่บันทึกเหตุการณ์ความโศกเศร้าอาลัยและความดีงามในห้วงเวลาหลังการสวรรคต จากผลงานที่ได้รับคัดเลือกจากนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ได้มีโอกาสทำงานถวาย และเป็นผู้สื่อสารความรักที่ประชาชนชาวไทยมีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแต่ละภาพจะมีการตั้งชื่อภาพเพื่อสื่อความหมายของภาพความอาลัย ความประทับ รวมถึงการมีจิตอาสาช่วยเหลือกัน ที่ปวงชนชาวไทยมีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9
อ.ทวีชัย เจาวัฒนา อธิบายความหมายของภาพแต่ละภาพ
ด้าน อ.ทวีชัย เจาวัฒนา ผู้สอนวิชาการถ่ายภาพเพื่อการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียว อดีตบรรณาธิการศูนย์ภาพเนชั่น กล่าวว่า ด้วยคำถามที่หลายคนมองว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั่นจึงเป็นที่มาของโครงการ เพราะต้องการสื่อสารว่าเด็กๆ เห็นอะไรบ้างจากถ่ายภาพในวันที 14 ตุลาคม 2559 บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ตอนนั้นยังทำใจไม่ได้ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 จากเราไปแล้วจริงๆ เพราะทั้งชีวิตได้มีโอกาสถ่ายภาพตามเสด็จในที่ต่างๆ ได้เห็นพระอัจฉริยาภาพที่ทรงใช้กล้อง ซึ่งถือเป็นโชคดีเป็นบุญของชีวิต
“วันนั้นคนไทยสวมใส่เสื้อสีดำออกมารอกราบสักการะพระบรมศพเป็นแสนคน แต่พอกลับมาเล่าให้นักศึกษาฟังกลับไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด จึงอยากให้เขามาเรียนรู้และเห็นด้วยตัวเอง ว่าทำไมคนไทยรักพระองค์ท่านมากมายเหลือเกิน เด็กๆ ทั้งหมด 126 คนตั้งใจลงพื้นที่ แม้ว่ามหาวิทยาลัยหัวเฉียวจะอยู่ไกลจากสนามหลวงมาก แต่พวกเขามากันถึง 5-7 ครั้งเพื่อรอเก็บภาพมาเล่าประสบการณ์ จำนวนภาพที่ส่งมากันเกือบ 3,000 ภาพ หลายภาพน่าสนใจมาก หลายภาพดูแล้วน้ำตาซึม แต่ในฐานนะครูผู้สอนกลับดีใจและมีความสุข ที่คำตอบจากโจทย์ที่ว่าเด็กรุ่นไม่ไม่รู้จักพระองค์ท่านนั้นเป็นคำตอบที่ผิด เพราะวันนี้นักศึกษาได้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าทุกคนรู้จัก และรักพระองค์ท่านมากเพียงใด" อ.ทวีชัย เล่าถึงที่มาของโครงการ
วัชรพล รวยโฆษิต
หนึ่งในเจ้าจองผลงานที่นำมาจัดแสดง วัชรพล รวยโฆษิต เผยว่า ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เกิดในรัชกาลที่ 9 อาจจะไม่ได้เห็นการทรงงานแต่ก็รัก เทิดทูนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะได้เรียนรู้เรื่องราวมาตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่สอนผมเสมอว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงรักคนไทยและมีพระมหากรุณาธิคุณ คนไทยทุกคนจึงควรทำความดีถวาย
“ช่วงเวลานับแต่วันเสด็จสวรรคต ผมและเพื่อนๆ เดินทางไปที่สนามหลวงเพื่อบันทึกภาพ “เล่าเรื่อง” ความจงรักภักดีที่คนไทยมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 การเดินทางไปถ่ายภาพครั้งนั้นเปิดโลกอีกใบที่ผมไม่เคยเห็น แม้ฝนจะตก แดดจะร้อน แต่ก็ไม่อาจจะทำลายความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อพระองค์ได้ ผู้คนมากมายมารวมกัน แสดงความรัก หยิบยื่นน้ำใจให้กัน ช่วยเหลือกันในรูปแบบต่างๆ ทั้งแจกอาหาร หรือแจกโบว์สีดำ ย้อมเสื้อสีดำ หรือการเก็บขยะเพื่อรักษาความสะอาดภาพเหตุการณ์ที่ผู้คนมารวมตัวกัน ด้วยรัก ด้วยภักดี ด้วยจิตใจ เป็นความซาบซึ้งและความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกผม” ตัวแทนนักศึกษา เล่าประสบการณ์การลงพื้นที่
ขณะที่ นันทสินี พีระสุพเศรษฐ เล่าความประทับใจถึงภาพที่ชื่อว่า “ด้วยความอาลัย” รูปนี้ถ่ายเมื่อเวลาประมาณสี่ทุ่ม บริเวณประตูทางออกของสนามหลวงเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าแม้ผู้คนจะอยู่ในอาการโศกเศร้า แต่สีหน้า และแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทึี่จะเดินทางมาถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี บริเวณท้องสนามหลวง
การจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกผ่านมุมมองของช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นแล้ว ยังเป็นการน้อมลำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทัยและโปรดการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จากการที่ทรงสะพานกล้องถ่ายภาพติดพระองค์ไปทุกที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง