เส้นสีจากสำนึก “รัก” พระเจ้าแผ่นดิน

     

      พระบรมฉายาลักษณ์หลากพระอิริยาบถของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินศิษย์เก่า-ปัจจุบัน คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นำมาถ่ายทอดลงบนเฟรมไม้อัดและผ้าใบขนาด 2.2x2.2 เมตร เกิดเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณซึ่งแต่ละคนทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยกันรังสรรค์ผลงานให้งดงามที่สุด

 อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ

    ในฐานะหัวขบวน อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ คณบดีคณะจิตรกรรมฯ ม.ศิลปากร เล่าว่า สมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรมฯ พร้อมด้วยนักศึกษาปัจจุบันของคณะ ได้ร่วมเขียนภาพพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยนัดกันเขียนภาพบริเวณลานอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี หน้าคณะจิตรกรรมฯ ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม มีเวลาทำงาน 3 วัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จากนั้นได้นำภาพจำนวน 30 ภาพติดตั้งรอบๆ ลานอนุสาวรีย์เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชม แต่เป้าหมายจริงๆ ปรารถนาจะเขียนภาพให้ได้ทั้งหมด 89 ภาพตามพระชนมพรรษาของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 100 วัน

    “ตั้งแต่พระองค์ท่านสวรรคตประชาชนต่างหลั่งไหลเดินทางมาสักการะพระบรมศพและแสดงความอาลัยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่อง หน้าพระลานก็เป็นต้นทางสู่พระบรมมหาราชวัง ก่อนหน้านี้นักศึกษาคณะจิตรกรรมฯ ร่วมกันวาดภาพเป็นเรื่องราวพระองค์ติดตั้งบนกำแพง ส่วนกิจกรรมนี้ศิลปินร่วมกันเขียนภาพยึดหัวข้อ ในหลวงของประชาชน จากแนวคิดและความรู้สึกของแต่ละคน ศิลปินศิษย์เก่า เช่น สมภพ บุตรราช, สุรเดช แก้วท่าไม้, สมยศ ไตรเสนีย์, สุธี คุณาวิชยานนท์, ชาญณรงค์ ขันทีท้าว หรือ “ติ๊ก กลิ่นสี”, วัชระ ประยูรคำ กระทั่งศิษย์เก่ารุ่น 26 จบปี 2516 อย่าง สันทนา ปลื้มชูศักดิ์ ก็ร่วมเขียนภาพด้วย” อำมฤทธิ์ กล่าว

ร่างเงาในเยาว์วัย

    อาสาสมัครศิษย์เก่ารุ่นแรกๆ วัย 68 ปี สันทนา ปลื้มชูศักดิ์ ที่เขียนภาพ “ร่างเงาในเยาว์วัย” เล่าว่า แม้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของประชาชนจากไปแล้ว แต่จะขอเป็นข้ารองเบื้องพระยุคลบาทไปตลอดชาติ  ภาพนี้ใช้เทคนิคสีอะคริลิกบนไม้ วาด 2 วัน ทำงานด้วยสีและรูปทรงเรียบง่ายเป็นภาพเงาสะท้อนขณะทรงจักรยานเมื่อพระเยาว์ วาดให้มีความรู้สึกเหมือนงานภาพพิมพ์ ในภาพยังมีริบบิ้นสีดำเพื่อน้อมรำลึกพระองค์ท่านตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ไพร่ฟ้าอยู่เย็นเป็นสุข ทรงแก้ปัญหาความยากจนความเดือดร้อนทุกข์ยาก อยากให้คนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นทางรอดของชีวิต

    โดดเด่นด้วยเทคนิคสีน้ำพลาสติกแต่งแต้มเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงหอมแก้มพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องอาจ โล่ห์อมรปักษิณ ตัวแทนกลุ่มเพื่อน รุ่น 55 อีกหลายคนที่ช่วยกันรังสรรค์ภาพนี้บอกว่า มองแล้วรู้สึกอบอุ่น เป็นภาพในหลวงในมุมของความรักที่มีต่อแม่ ต่างจากคนอื่นที่อาจมองในมุมที่ทรงเป็นกษัตริย์

    “ผมมองว่าถ้าครอบครัวมีความอบอุ่น เข้มแข็ง คือถ้าเราใส่ใจตั้งแต่ระดับเล็กๆ ก็จะส่งต่อมาถึงสังคมและประเทศชาติ ส่วนตัวมีโอกาสรับเสด็จที่ รพ.ศิริราช บ้าง เพราะอาศัยอยู่แถวนี้ เห็นท่านแล้วรู้สึกบอกไม่ถูก ทรงเป็นต้นแบบหลายๆ เรื่อง ซึ่งเราคนไทยรับทราบกันอยู่แล้ว” ศิลปิน กล่าว

     เช่นเดียวกับ อุทัย นพศิริ ตัวแทนศิษย์เก่ารุ่น 48 ที่อยากเติมรอยยิ้มให้คนไทยในห้วงเวลาทุกข์โศก เขาและเพื่อนๆ จึงตั้งใจวาดภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแย้มพระสรวลเล็กๆ ดูแล้วมีความสุข โดยภาพต้นฉบับเป็นภาพเก่าสีออกน้ำตาล นำมารังสรรค์เพิ่มเติม ปรับเป็นสีชมพูอมน้ำตาลให้ความรู้สึกมีความสุขยามเห็น

    “ตอนมีคนชวนมาวาดตัดสินใจมาทันที ภาพนี้อยากให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นแล้วรู้สึกมีความสุขแม้จะซ่อนอยู่ในความโศกเศร้า ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป การมีส่วนสร้างรอยยิ้มและความสุขเล็กๆ แค่นี้ก็ถือว่าได้ทำประโยชน์ให้สังคมแล้ว” อุทัย กล่าวด้วยความภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมกับโครงการนี้

 อุทัย นพศิริ 

    ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีไทยแลนด์ ฟิลฮาร์โมนิก ออเคสตรา “ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน” ณ หอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อหลายปีก่อน เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินอิสะ วิศเวศ วัฒนสุข ศิษย์เก่าจิตรกรรมรุ่น 49 และเพื่อนร่วมรุ่นนำมาเป็นแบบวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พร้อมตั้งชื่อว่า “ความรักคือ แรงบันดาลใจ” ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า น่าจะเป็นภาพสุดท้ายที่ฉลองพระองค์ด้วยสูททักซิโด้สีดำ แล้วเสด็จลงมาให้พสกนิกรได้ชื่นชมพระบารมี เห็นได้ชัดเจนว่าสายพระเนตรของพระองค์มีความเมตตา อบอุ่น รู้สึกได้ถึงความห่วงใยเหมือน “พ่อห่วงลูกๆ” แม้ว่าในช่วงเวลาที่ประชวรก็ยังทรงงาน นั่นแสดงให้เห็นว่าทรงไม่เคยทิ้งประชาชน

วิศเวศ วัฒนสุข 

     “คนอื่นอาจจะนึกถึงภาพขณะทรงพระเยาว์หรือพระราชกรณียกิจ แต่พวกเราเลือกภาพนี้เพราะอยากสื่อว่าพระองค์ท่านไม่ได้จากไปไหน ยังประทับอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดไป ภาพนี้เหมือนพระองค์กำลังมองพวกเราอยู่ ทรงรักพวกเรา เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า ผมเองเคยมีโอกาสรับเสด็จในงานพระราชทานเพลิงศพ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หลายปีก่อน พระองค์ประทับบนพลับพลา สัมผัสได้ถึงพระบารมี นอกจากนี้ยังเคยร่วมงานศิลปะในโอกาสราชาภิเษกสมรสครบ 50 ปี โดยนำผลงานภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงและพระราชินีออกประมูลแล้วนำเงินขึ้นทูลเกล้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ตัวแทนศิษย์เก่า ศิลปากรกล่าวพร้อมกับเผยความตั้งใจส่วนตัวว่า เร็วๆ นี้ได้เตรียมภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ที่วาดไว้ 4 แบบอัดลงกระดาษจำนวน 1 หมื่นใบเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งในจำนวนนี้จะใส่กรอบอย่างดีจำนวน 500 ชิ้นมอบให้เฉพาะผู้สูงอายุที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วยทราบว่าโอกาสที่จะได้ภาพในหลวงสวยๆ ไปบูชาคงมีไม่มาก

    ทั้งนี้ ผู้สนใจร่วมชื่นชมพระบรมสาทิสลักษณ์ที่กลั่นจากใจเหล่าศิลปินหลากรุ่น สามารถแวะเวียนไปได้ โดยภาพทั้งหมดจะติดตั้งอยู่โดยรอบลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ภายในมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...