สร้างศิลป์แด่ 'องค์อัครศิลปิน'

         

        ขณะที่นอกรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กำลังนองด้วยน้ำตาของประชาชนผู้อาลัยรักในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กลุ่มนักศึกษาคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง และคณาจารย์ที่กำลังโศกเศร้า  ค่อยๆ ตั้งสติและปาดน้ำตาทิ้ง... พวกเขาเริ่มจับพู่กันอีกครั้งด้วยหัวใจมุ่งมั่นภักดี ปาดป้ายสีสันลวดลายแสดงออกถึงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในแบบฉบับของ "ชาวศิลปากร" ทั้งวัน...ทั้งคืน 

 

        “ภาพที่วาดเร็วที่สุด และงดงามที่สุด” โปรเจคนี้นักศึกษาเริ่มคิดกันตั้งแต่วันที่เคลื่อนพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 มาถึงพระบรมหาราชวัง หลังประชุมกันเรียบร้อยภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ภาพแรกก็วาดเสร็จภายใน 1 คืน  ตามด้วยอีกหลายภาพที่เริ่มขึ้นเค้าโครงเส้นสายภายในลานอาจารย์ศิลป์ พีระศรี   ตัวแทนนักศึกษาเผยว่าเป็นการวาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีหลายความรู้สึกทั้งเศร้าเสียใจ แต่มีแรงพลักดันแรงกล้าที่จะสร้างผลงานมุ่งมั่นเชิดชูความเป็น"อัครศิลปิน" ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ  ทั้ง 9 ภาพ แบ่งเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ที่แสดงพระอัจฉริยภาพในด้านที่ทรงเป็นอัครศิลปิน ทั้งด้านศิลปะ วาดรูป  เล่นดนตรี ฉายพระรูป ฯลฯ  มีพระอิริยาบทผ่อนคลายไม่เคร่งขรึม ไม่ทรงเหนื่อยพระวรกาย มีต้นแบบมาจากพระบรมฉายาลักษณ์ที่เหล่านักศึกษาในที่นี่ประทับใจกันอยู่แล้ว   

   

  

             ตามที่ ธานี บุญรอดเจริญ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ร่วมด้วย จักรพันธุ์ อุนอนันต์, ณภัทร์ จันทรพรเลิศ, วัฒนันท์ พัดลม, ทภากร สอนศรี นักศึกษาชั้นปีที่ 3  ส่วนหนึ่งของศิลปินที่วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ร่วมกันกล่าวถึงผลงานที่จัดทำในครั้งนี้ ว่า ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 หัวสวรรคต ก็ช่วยกันคิดงานที่จะทำอะไรถวายพระองค์ท่านเพื่อแสดงความอาลัยจึงได้คอนเซ็ปต์ที่ชื่อว่า “อัครศิลปิน" เนื่องจากพวกเราเรียนด้านจิตรกรรม จึงมีความประทับใจที่พระองค์วาดภาพจิตรกรรมได้งดงาม และถ่ายภาพโดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นแบบให้ ภาพถ่ายของพระองค์มีความสวยงามทุกภาพ มีผลงานอีกมากที่ทรงทำไว้เพื่อส่วนรวม ดังนั้นพวกเราจึงอยากทำเพื่อส่วนรวมบ้าง โดยการนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์มาวาดเสมือนภาพจริงทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายความอาลัยได้ชม และถ่ายภาพกับพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์

        “ภาพทั้ง 9 ภาพ มีนักศึกษาปี 1-3 ร่วม 50 คน ทุ่มเทมาก ร่วมกันวาด 3 วัน จากนั้นได้นำมาติดไว้ที่บนกำแพงหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อให้ประชาชนได้ชม นอกจากนี้ ยังได้วาดภาพเก่าหายากเพื่อติดไว้ภายในตึกต่างๆ ของมหาวิทยาลัยด้วย เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน” ธานี กล่าวที่มาของผลงานสำคัญของชีวิต 

 

(ขอบคุณภาพจาก Silpakorn University) 

          คืนวันที่ 17 ต.ค. 59  พระบรมสาทิสลักษณ์เริ่มเสร็จสมบูรณ์เกือบทั้งหมด นักศึกษาทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง ศิษย์เก่า และประชาชนที่ทราบข่าวต่างมารวมตัวกันช่วยเหลือให้กำลังใจ จนพื้นที่อบอวลไปด้วยความสามัคคี ความอบอุ่น ของพี่น้องศิลปากร  เมื่อวาดเสร็จภาพผืนผ้าใบสูง 2เมตร กว้าง 4 เมตร วาดด้วยสีน้ำพลาสติกทนทานต่อแดดและฝน จะถูกยกมาประกอบเรียงต่อกันเป็นเรื่องราว "อัครศิลปิน" ล้อมด้วยกรอบไม้สีทอง เหล่านักศึกษาใช้เวลาทั้งคืนเพื่อทยอยนำผลงานมาติดตั้งยังบริเวณกำแพงมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ให้เสร็จทันในเวลาเช้ามืด พร้อมมอบความประทับใจแก่ปวงประชาชนชาวไทยและแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่าน ตามความตั้งใจ “ให้ประชาชนรู้สึกได้ใกล้ชิดองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ผู้เป็นที่รักยิ่งมากที่สุด” รูปแบบการแสดงงานศิลปะจึงอยู่ในระยะที่มองเห็นและใกล้ชิดได้  เหนือจากการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ คือการคลายความเศร้าหมองให้กับประชาชนที่คิดถึงองค์เหนือหัวในดวงใจได้บ้าง 

                                                              

        “ชอบภาพที่พระองค์ท่านทรงเปียโน แล้วเอื้อมพระหัตถ์ไปจับแมว แสดงถึงความอ่อนโยนต่อสัตว์ ซึ่งคนที่จะเล่นเปียโนได้ดีต้องมีสมาธิสูงมาก วอกแวกไม่ได้เลย จริงๆ " ความตื้นตันของ ณัฐปภัสร์ ธนเกียรติหิรัญ อายุ 18 ปี บอกหลังมาร่วมชมผลงานพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เธอบอกว่า รู้สึกประทับใจที่ได้เห็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นมาก่อน ขอบคุณในความตั้งใจของพี่ๆ นักศึกษาที่ทำกิจกรรมนี้ทุกคนมีความตั้งใจสูง อดหลับอดนอนทำเพื่อพระองค์ท่านและปลอบโยนให้ประชาชนได้ในเวลาเดียวกัน 

         ส่วน ชานนท์ ชนะ ชาวชุมพร เจ้าของธุรกิจร้านเบเกอรี่วัย 27 ปี เดินทางมาพร้อมกับแฟนสาวเพื่อร่วมถวายสักการะพระบรมศพ จากนั้นจึงมามาร่วมชื่นชมพระบรมสาทิศลักษณ์ผลงานของนักศึกษาด้วย เผยความรู้สึกว่า ชื่นชอบภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกำลังรัชกาลที่ 9 ยกกล้องฉายพระรูป เพราะตัวเองก็ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน พระองค์ทรงมีความสามารถรอบด้าน ทรงถ่ายรูปพระราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยพระองค์เอง แสดงว่าทรงใส่ใจทุกรายละเอียด

         “ทั้งที่ความจริงมีคนมากมากมายพร้อมจะถ่ายให้พระองค์ แต่ก็โปรดที่จะทำเอง เราจึงได้เห็นพระองค์ไม่ว่าจะเสด็จไปที่ไหนก็มักมีกล้องถ่ายรูปห้อยพระศออยู่เสมอ ที่ชอบอีกอีกรูปคือขณะทรงเปียโน ดูอบอุ่น ทรงมีพระปรีชาสามารถเชิงศิลปะทุกด้าน ในหลวงทรงเป็นทุกอย่างของคนไทยจริงๆ เป็นตัวอย่าง เป็นคนที่เราต้องเดินตามรอย เป็นผู้นำ เป็นมากกว่าพ่อ ตอนนี้ยังเสียใจอยู่ แต่อย่างที่ท่านเคยบอกไว้ยังไงทุกขีวิตยังต้องดำเนินต่อไป” ชานนท์ กล่าว

 

         ไม่ต่างจาก ทรรศนีย์ เพ็งสุวรรณ ชาวชัยนาท ที่ชื่นชอบภาพในหลวงขณะทรงฉายพระรูป เจ้าตัวเผยว่าเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ตอนทราบข่าวในโลกออนไลน์ว่าท่านสวรรคต ใจหายอึ้งไปเลย เลยเดินทางคนเดียว ขับรถมาจากชัยนาทมาถึงแต่เช้า อย่างน้อยก็เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่จะได้ถวายความอาลัย

         “ยังทำใจไม่ได้เลย ปกติตัวเองก็สะสมสิ่งที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพจากปฏิทินที่ธนาคารต่างๆ ทำออกมา บางภาพใส่กรอบสวยๆ ไว้เลย รู้สึกว่าเป็นภาพที่เขาคัดมาแล้วและตั้งใจทำมากๆ หรือหนังสือพิมพ์ช่วงนี้ก็ซื้อเก็บทุกฉบับ จะเก็บไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีข่าวพระองค์แล้ว เป็นสิ่งที่เราทำได้” ทรรศนีย์ เผย

 

         ขณะที่ วราภรณ์ เพ็ดกลัด ชาวสมุทรปราการ วันนี้เดินทางมาพร้อมแฟนเพื่ออธิษฐานจิตส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย และแวะมาชื่นชมภาพวาดของเหล่านักศึกษาที่ต้องการแสดงความอาลัยผ่านงานศิลปะที่ถนัด 

         “สำรวจทั้ง 9 ภาพแล้วรู้สึกชื่นชอบภาพในหลวงผมยาวขณะทรงประดิษฐ์เรือ ทรงสมาร์ทมาก ทรงตั้งใจอย่างมากในการทำในสิ่งที่พระองค์รัก 6 วันแล้วที่ท่านจากไป ยังคิดเสมอว่าพระองค์ยังอยู่ ไม่ไปจากประชาชน เหมือนฝัน แต่ก็ต้องทำใจ”  วราภรณ์บอก พร้อมกล่าวขอบคุณนักศึกษาทุกคนที่วาดรูปพ่อหลวงขึ้นมาให้คนไทยชื่นชม 

         ภาพวาดทั้งหมดจะจัดแสดงยังบริเวณกำแพงมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง และด้านในมหาวิทยาลัย โดยตั้งใจจะจัดแสดงทุกวันต่อเนื่องแบบไม่มีกำหนด