Lifestyle

สายน้ำในความคิดถึง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่องฟากฟ้า...นภาเดียวกัน ของ อ.ไพรวัลย์ ชัยรัตน์ 

สายน้ำในความคิดถึง

          ต้องมีสักหนแห่งที่ประดับด้วยความประทับใจ ให้ทุกคนคิดถึงได้ไม่มีเบื่อไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในวัยเยาว์  เมืองที่เคยอาศัย หรือสถานที่ท่องเที่ยวโดนใจ เรื่องราวเหล่านี้มักพร้อมถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียดแบบอัตโนมัติเมื่อได้เอ่ยเล่า หรือถ่ายทอดในเชิงศิลปะอย่างในนิทรรศการแสดงภาพสีน้ำ  “ส่องฟากฟ้า...นภาเดียวกัน” ของ อ.ไพรวัลย์ ชัยรัตน์ โดยก้าวแรกเข้ามา ใครที่เคยไปเยือนเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ต้องมีใจพองๆ คิดถึงบรรยากาศสวยงามในเมืองแห่งนี้กันบ้าง เพราะเจ้าของผลงานรวบรวมภาพความประทับใจเมืองแห่งสายน้ำและศิลปะ ตวัดเป็นผลงานสีน้ำเทคนิคแพรวพราวให้ได้ชมกันกว่า 80 ชิ้น ภายใน หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

สายน้ำในความคิดถึง  

 อ.ไพรวัลย์ ชัยรัตน์

       ความสุขความเศร้า ความคิดถึง ถูกระบายออกมาผ่านสีสันสว่างและหม่นหมอง สำคัญเกือบทุกรูปมีสายน้ำเป็นตัวเชื่อมเรื่องราวได้อย่างนุ่มนวล โดย อ.ไพรวัลย์ เล่าถึงแรงบันดาลใจ ว่า เพราะเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี จึงมีความผูกพันและมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสายน้ำ และภาพเขียนที่มาจัดแสดงในงานนี้ แต่ละภาพแรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากการที่ตัวเองได้มีโอกาสเดินทางไปเวนิส ประเทศอิตาลี และได้มองเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นชาติใดก็ตาม แม้จะอยู่กันคนละฟากฟ้า น้ำก็ยังมีส่วนหล่อเลี้ยงวิถีชีวิต หล่อเลี้ยงวัฒนธรรมให้มีความสอดคล้องกัน 

สายน้ำในความคิดถึง

      “ผมใช้เวลาวาดภาพเหล่านี้หลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศแล้ว พอรู้สึกคิดถึงก็หยิบสี พู่กัน  มาวาดทันทีส่วนมากใช้เวลาภาพละประมาณ 1 ชั่วโมง  ความยากอยู่ที่การควบคุมสี ความชุ่มของสี เนื้อสีน้อยไปการกระจายตัวของสีก็ไม่สวย มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตลอดการทำงานนี่คือเสน่ห์ของการระบายสีน้ำ รอยสีที่ซึมเข้าหากันมักจะมีลวดลายที่น่าหลงไหลไม่ซ้ำกันสักครั้ง ในภาพชุดนี้ผมเน้นการสร้างลวดลายให้ไม่มีรูปทรงชัดเจนถ่ายทอดบรรยากาศรวมๆ ตามสีสัน เรื่องราวของสถานที่  อารมณ์ภาพจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกขณะที่วาด เช่น รูปคลองเวนิสบางรูปก็วาดขณะเหงา และนึกถึงเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ สีภาพจึงออกมาหม่นเทา อยู่บนความสวยงามของบรรยากาศเมืองสวยของอิตาลี” ศิลปินคนเก่งเล่าถึงแรงบันดาลใจ 

สายน้ำในความคิดถึง

       บรรยากาศภายในนิทรรศการคลอด้วยการบรรเลงเสียงเพลงจากเชลโล่ตามความชื่นชอบของศิลปิน ขณะเดียวกันเหล่าเพลงคลาสสิกก็ช่วยปลุกเร้าความคิดถึงขณะจ้องมองรูปเมืองลอยน้ำสุดคลาสสิก อาทิ “คลองเวนิส อิตาลี” นำเสนอวิถีชีวิตริมคลองในอิตาลี โดยเน้นบรรยากาศแสงและเงา ที่สะท้อนในน้ำเด่นชัด   ผลงาน “แสงไฟยามค่ำคืน อิตาลี” เสนอความแตกต่างของบรรยากาศยามพระจันทร์ขึ้น โดยใช้สีเหลืองแทนแสงไฟ ใช้สีม่วงแทนความมืด เพื่อให้เกิดความแตกต่างของคู่สี ลดทอนรายละเอียดที่เห็นทั้งหมด และผลงานชิ้นพิเศษมาเปิดประมูลในงานครั้งนี้ มีชื่อว่า “ของขวัญจากเวนิส” เป็นมุมที่ศิลปินยืนมอง ในสถานที่จริงแล้วรู้สึกประทับใจ จึงนำมากำหนดโครงสร้างของภาพ ส่วนความรู้สึกและอารมณ์เป็นตัวกำหนดสี ใช้เวลาวาดประมาณชั่วโมงครึ่ง เหมือนเป็นเทคนิคด้านเวลาที่ศิลปินเผยว่า ภาพที่วาดเสร็จเร็วในช่วงที่มีอารมณ์ความรู้สึก ดื่มด่ำในบรรยากาศในเวลานั้น มักเป็นภาพที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าภาพที่ใช้เวลาวาดนาน

 

สายน้ำในความคิดถึง

      นอกจากเวนิสแล้ว อ.ไพรวัลย์ ยังนำรูปภาพของสายน้ำไทย อาทิ ผลงาน  “ค่ำคืนที่อัมพวา” นำเสนอแสงไฟในยามค่ำคืน วิถีชีวิตริมคลองอัมพวา โดยถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึก อบอุ่น และชีวิตเรียบง่ายของชุมชนบ้านริมคลอง ในมุมต่างๆ ทั้งที่หลายคนเคยเห็น และมุมที่น้อยคนเคยได้ไปสัมผัส พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศ.คลินิก น.พ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร มอบผลงานภาพวาดลายเส้นบนก้อนหิน จำนวน 4 ชิ้น มาเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมประมูลภายในพิธีเปิดงานอีกด้วย โดยลวดลายของก้อนหินมีเนื้อหาเกี่ยวของกับคติ และหลักธรรมสอนใจ แนวทางการใช้ชีวิติ พร้อมรูปทิวทัศน์สวยๆ ที่คุณหมอคนเก่งฝึกฝีมือมานานกว่า 5 ปี  จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นขณะอยู่เวรแพทย์ประจำพระองค์ที่วังไกลกังวลเป็นระยะเวลาหลายเดือน วันหนึ่งได้สังเกตเห็นว่ามีหินที่โคนต้นไม้ใกล้ที่พัก ผิวเรียบ สีขาว ขนาดพอเหมาะ จึงลองวาดลายเส้นบนก้อนหิน แต่เมื่อวาดเสร็จก็ต้องนำไปคืนที่โคนต้นไม้ตามเดิมเพราะเห็นว่าเป็นการไม่สมควรที่จะเก็บไว้ และเมื่อกลับมาบ้านจึงเริ่มซื้อก้อนหินผิวเรียบมาวาดรูป ประกอบกับความสนใจในธรรมะ จึงเป็นที่มาของบทแห่งธรรมเขียนลงบนพื้นด้านหลังของก้อนหินแต่ละก้อน ให้ก้อนหินนี้เป็นมากกว่าแค่ศิลปะสำหรับประดับตกแต่งและยังมีบทเเห่งธรรมให้ได้ประโยชน์

สายน้ำในความคิดถึง

 

     โดยการโชว์งานเดี่ยวครั้งที่ 5 ของ อ.ไพรวัลย์ ชัยรัตน์ ตั้งใจนำรายได้จากการประมูลภาพสีน้ำ และ ภาพวาดลายเส้นบนก้อนหิน สมทบทุน “มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ” ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ที่สนใจสามารถาร่วมทำบุญและร่วมชม นิทรรศการ “สองฟากฟ้า….นภาเดียวกัน” โดยไม่เสียค่าเข้าชม  ตั้งแต่วันนี้ - 11 ตุลาคม   ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00–19.00 น. และ เสาร์–อาทิตย์ เวลา 12.00–18.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ 09-9392-4195

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ