Lifestyle

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

: “ภาพ มิกกี้เมาส์กับซูเปอร์แมน" เป็นการยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่าง มิกกี้เมาส์ซึ่งไม่เคยคิดว่าต่อสู้กับใครเลย ต่างจากซูเปอร์แมน ทำหน้าที่เป็นนักต่อสู้

     ด้วยความรักในงานด้านศิลป์บวกกับความเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกถึงจะมีความแตกต่างกันแต่สามารถเอามารวมกันได้และที่สำคัญคือสามารถเชื่อมโยงกันได้อีกด้วย ศิลปินหนุ่มมากพรสวรรค์ชาวฝรั่งเศสนามว่า “โคสตาร์” จึงเลือกใช้ช่วงระยะเวลากว่า 2 ปีที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยสร้างสรรค์ผลงานศิลปะทั้งในรูปแบบประติมากรรมลอย, จิตรกรรม, ภาพถ่าย และภาพยนตร์ ด้วยการเลือกใช้วัสดุใหม่ๆ มาใช้เป็นพื้นผิวของการวาดภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น นีออน เป็นต้น ภายใต้หัวข้อ “พาราด็อกซ์ส (Paradoxes)” สะท้อนความฉลาดแหลมคมของสติปัญญาและอารมณ์ขันอันลึกซึ้งของตัวเอง พร้อมกับนำผลงานกว่า 15 ชิ้นมาจัดแสดง ณ เอส แกลเลอรี่ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท เมื่อค่ำวันก่อน
     โคสตาร์ เจ้าของผลงานอารมณ์ดี เล่าให้ฟังว่า ตัวเองเริ่มสนใจงานศิลปะในด้านสตรีทอาร์ตหรือศิลปะข้างถนน และงานกราฟฟิตี้ หรือภาพวาดที่เกิดจากการขีดเขียนลงบนผนัง ซึ่งเขาเองได้วาดภาพลงบนกำแพงและพื้นผิววัสดุต่างๆ อาทิ รถไฟ รถบรรทุก รถไฟฟ้าใต้ดิน และแน่นอนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้ตระเวนไปตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์ผลงานแนวคิดในมิติใหม่ โดยมีเป้าหมายในการถ่ายทอดอารมณ์ขันและความคิดเชิงบวก ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น โครงการ PSCIYL : เติมสีสันให้กับชีวิตของคุณ เป็นต้น

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์

                                                                      ผู้ไม่เคยต่อสู้กับผู้พิทักษ์โลก
     “อย่างภาพจิตรกรรม “มินนี้เม้าส์กับวันเดอร์วูแมน” และ "มิกกี้เม้าส์กับซูเปอร์แมน" เป็นการยกตัวอย่างความแตกต่างที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เคยคิดว่าต่อสู้กับใครเลย ซึ่งไม่เหมือนกับซูเปอร์แมนหรือวันเดอร์วูแมน ทำหน้าที่เป็นนักต่อสู้กับพวกเหล่าร้ายอยู่ตลอดเวลา ทว่าในเวลาเดียวกันไม่ว่าจะเป็นมินนี้เมาส์และมิกกี้เมาส์ หรือ วันเดอร์วูแมนกับซูเปอร์ต่างกับทำหน้าที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมทั้งสิ้น เฉกเช่นเดียวกับภาพจิตรกรรมที่นำเสนอเรื่องราวระหว่างแบรนด์ดังก้องโลกอย่าง “หลุยส์วิตตองกับชาเนล” หรือ “แอร์เมสกับดิออร์” เพราะใครๆ ก็รู้ว่าแบรนด์หรูเหล่านี้ต่างเป็นคู่แข่งทางธุรกิจซึ่งกันและกัน แต่ในมุมของผมถือว่านี่เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด อีกหนึ่งผลงานคือ “แผ่นป้ายติดอักษรไฟนีออน” ชิ้นนี้เป็นความชอบอัลเบิร์ตไอสไตล์ ผมจึงหยิบเอาคำนิยามหรือคำพูดของเขาซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรู้ที่แท้จริงมาบวกกับจินตนาการทว่าไม่ลืมเติมสีสันของผลงานด้วยสีสันให้กลายเป็นความสนุกสนาน หรือ “ธนาบัติ” ที่ผมเลือกใช้สีเงินและสีทองให้เป็นผู้ทำหน้าที่สะท้อนความแตกต่าง โดยสีเงินนั้นคล้ายๆ กระจกส่องผู้คนในเรื่องของการใช้เงินว่าสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เพราะเงิน ส่วนสีทองคือ ตัวแทนความดีงามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ศิลปินหนุ่มอารมณ์ดีกล่าว

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์
แผ่นป้ายติดอักษรไฟนีออน 

   ขณะเดียวกัน ศิลปินหนุ่มชาวฝรั่งเศส ยังชี้ชวนให้ดูอีกหนึ่งผลงานจิตรกรรมที่เจ้าตัวนำเอาความต่างของสีสันความบันเทิงของ “หน้ากากจากอุปรากรจีน” ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มาวางสลับกับหน้ากากจากเทศกาล “Days of the Dead” หรือ วันแห่งความตาย ของประเทศเม็กซิโก แม้ว่าอารมณ์จะดูต่างขั้วทว่าแต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วกลับทำให้เห็นถึงความสอดคล้องกันอย่างไหลลื่น นอกจานี้ยังมีผลงานประติมากรรมลอย “เด็กถือลูกโป่ง” ซึ่งเจ้าตัวขยายความให้ฟังว่า เปรียบเสมือนตัวเขาเองที่มีความเป็นอิสระเมื่ออยู่ในประเทศไทย ส่วนดวงตาใหญ่นั้นคือการมองเห็นโลกกว้างและพร้อมจะออกไปเรียนรู้อย่างสนุกสนาน นับเป็นไฮไลท์ของการแสดงนิทรรศการครั้งนี้ โดยทำจากอลูมิเนียมและเรซิ่น 

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์

คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ

    หลังจากร่วมโทสแก้วเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการแล้ว วิลเลี่ยม ฮานดริกแมน ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท กล่าวว่า โคสตาร์ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับ เออร์เบิน อาร์ต หรือ เมืองแห่งศิลปะ โดยศิลปินนักปฏิวัติผู้นี้ได้ขับเคลื่อนพวกเราให้เข้าสู่ความหลากหลายมโนภาพที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความคิดที่กระตุ้นให้เกิดถ้อยคำมากมาย ซึ่งเขาได้มองข้ามศรัทธา ขณะเดียวกันเลิกที่จะมุ่งเน้นในเรื่องของอารมณ์หลงใหล และสิ่งที่ไม่รู้จัก มากกว่าที่จะมุ่งเน้นในด้านความปลอดภัยและการทำตามผู้อื่น

 

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์

 หน้ากากหลังความตายกับหน้ากากของอุปรากรจีน ความแตกต่างอย่างลงตัว 

   “การทำงาน แรงบันดาลใจ และผลงานศิลปะของโคสตาร์นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นกระจกสะท้อนภาพของสังคมได้เป็นอย่างดี เป็นการมองเห็นสิ่งต้องห้ามและความคิดที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ ซึ่งเขาเองมั่นใจว่า ผู้ที่หลงรักในงานศิลปะจะต้องสนใจและชื่นชอบนิทรรศการศิลปะชุดล่าสุดนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ตรงตามวัตถุประสงค์ของโรงแรมซึ่งพยายามคัดสรรศิลปินทั้งชาวไทยและต่างประเทศคุณภาพที่มีผลงานโดดเด่นให้มาจัดแสดงสลับหมุนเวียนกันไป และสำหรับนิทรรศการ “พาราด็อกซ์ส” นี้เปิดให้ชมแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2559 เวลา 10.00-22.00 น.” ผู้จัดการหนุ่มกล่าว

สอดผสานความต่างผ่านงานศิลป์

ส่วนหนึ่งของนิทรรศการ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ