เอเชีย พลัส เปิดเวทีสร้างสรรค์งานศิลป์
ดีใจกันท่วมท้นสำหรับศิลปินที่มีโอกาสโชว์ผลงาน แล้วยังได้รางวัลเมื่อผลงานที่เป็นที่ต้องตาถูกใจคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิถึง 9 คน ผ่านนิทรรศการ “จิตกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 6” ที่จัดโดยบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนและเผยแพร่ผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ออกสู่สาธารณชน รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้ที่สนใจศิลปะ โดยนำผลงานภาพที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแสดงจำนวน 48 จากทั้งหมด 154 ผลงาน มาจัดแสดงนิทรรศการที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) พูดถึงการจัดแสดงงานในครั้งนี้ว่า มีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนผู้มีแนวคิดและทักษะในการสร้างสรรค์งานด้านจิตรกรรมเพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพและมีคุณค่าในสุนทรียภาพ และต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ได้ภาพที่คว้ารางวัลที่ 1 เป็นภาพสีขาวเพราะตั้งแต่จัดการประกวดมา ภาพที่จะผ่านเข้ามาในรอบตัดสินส่วนใหญ่จะเป็นสีโทนดำแทบทุกปี ซึ่งทางคณะกรรมการก็พยายามตั้งโจทย์ให้เกิดผลงานที่มีสีสันแล้วก็ไม่สำเร็จ จนมาในปีนี้ศิลปินตอบโจทย์มากขึ้น เพราะทุกผลงานที่ผ่านเข้ารอบรวมทั้งภาพที่ได้ร่วมแสดงต่างเข้าคอนเซ็ปต์เฉิดฉายประกายแดด
ผลงาน “แสงแห่งความสุข”
"ผมมองว่าศิลปินหลายคนสามารถปรับตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ศิลปินมีความสามารถในการประยุกต์ การพัฒนาผลงานตลอดเวลา ในฐานะคนจัดงานถ้ามีการเปลี่ยนแปลง การพัฒนา เราก็ดีใจ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของเราอยู่แล้วที่ต้องการส่งเสริมให้ศิลปินมีการพัฒนางาน ผมว่านี่เป็นจุดสำคัญ ไม่ว่าสังคมหรือประเทศจะมีอายุยาวนานแค่ไหน ศิลปะคือสิ่งที่คู่กับสังคมและประเทศ วิวัฒนาการของศิลปะจะปรับรูปแบบตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม ศิลปะเลยเป็นเหมือนสิ่งเก็บประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับประเทศเรา อยากให้คนไทยร่วมกันส่งเสริม โดยเริ่มจากเห็นความสำคัญ ซึมซับความรู้ทางด้านศิลปะ คงไม่ต่างจากความรู้ทางด้านการเงิน เศรษฐกิจ ศิลปะก็เป็นความรู้ด้านหนึ่งที่ควรจะซึมซับลงไปในสายเลือดด้วยซ้ำไป ถ้าถึงจุดนั้นได้ คนไทยก็จะสะสมงานส่งผลให้ศิลปินไทยที่มีฝีมือดีๆ ได้รับการสนับสนุน ศิลปินเกิดใหม่ก็จะได้มีงานให้พัฒนาฝีมือ” ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
ผลงาน “แดดส่องฟ้าเป็นสัญญาวันใหม่”
ส่วนผลการประกวดรางวัลยอดเยี่ยมได้แก่ ผลงาน “แสงแห่งทิพย์ หมายเลข 2” ของ ธวัชชัย สาริสุทธิ์ จากการประกวดจิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 6 ซึ่งหนึ่งในคณะกรรมการ อาจารย์ปรีชา เถาทอง วิจารณ์ผลงานนี้ไว้ว่า ครั้งนี้ภาพรางวัลที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เรียกว่าเฉือนกัน คือมีศักยภาพที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ในเรื่องของการตีความ หยิบเอาโจทย์ของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม หรือ ความเชื่อ แล้วก็ออกมาใช้แทนค่าด้วยสี ด้วยวัสดุที่เป็นส่วนตัวเอามารวมตัวกันแล้วก็เกิดเป็นเอกภาพที่ตอบโจทย์เฉิดฉายประกายแดด แต่รางวัลที่ 1 มันชัดถึงโจทย์ มันค่อนข้างนามธรรม หมายความว่า เขียนเรื่องสวรรค์ แล้วไม่รู้ว่าสวรรค์เป็นอย่างไร ถามว่าสวรรค์มีแดดมั้ย ไม่รู้ แต่แดดในความหมายของเขาคือความสว่าง ความอลังการ ความขาว ความบริสุทธิ์ แล้วใช้วัสดุที่เป็นวัสดุพื้นผ้ามาติดประดับ ให้ความขาวในขาว แล้วความแวววาวของกระจกสี เวลาดูรูปนี้มันกลับเป็นตัวล่อแสงอาทิตย์ แสงที่เป็นความเป็นจริงเข้าไปเล่น จนเกิดเอฟเฟกท์ออกมา ตรงนี้เป็นความฉลาดที่ทำก็เกิดปฏิกิริยาระหว่างแสงแดดกับภาพที่ไปทำเอฟเฟกท์กับคนดู ภาพมันถึงเฉิดฉายความงามออกมา
ผลงาน “แสงในความทรงจำ”
รางวัลที่ 2 ได้แก่ผลงาน “แสงในความทรงจำ” ของ นอเดียนา บีฮิง รางวัลที่ 3 ผลงาน “แสงแห่งความสุข” ของ สิทธิวุธ ยาวิชัย และรางวัลชมเชยจำนวน 3 รางวัลได้แก่ ผลงาน “แดดส่องฟ้าเป็นสัญญาวันใหม่ 1” ของ นิโรจน์ จรุงจิตวิทวัส, ผลงาน “จิตรกรรมวิถีอีสาน หมายเลข 2” ของ สกล มาลี และ ผลงาน “ซากสำพันธุ์” ของ ศุภวัฒน์ วิมลศิลป์
ผลงานยอดเยี่ยม “แสงแห่งทิพย์ หมายเลข 2”
ทั้งนี้ศิลปินที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากผลงาน “แสงแห่งทิพย์ หมายเลข2” กล่าวว่า เป็นปีแรกที่ส่งงานเข้าประกวด โดยหัวข้อเฉิดฉายประกายแดด ทำให้คิดถึงการทำบุญ แสงในความหมายนั้นไม่ใช่แสงแดดจากธรรมชาติ แต่เป็นแสงแห่งความดี แสงแห่งทิพย์ ที่วิจิตรงดงามสะดุดตระการตา ด้วยพื้นฐานทางบ้านพ่อรับเหมาก่อสร้าง แม่เป็นแม่บ้านชอบถักผ้าทำงานฝีมือ ในภาพนี้จึงดึงพ่อแม่มาร่วมสร้างบุญไปด้วย
“ถ้าหากวันหนึ่งทีใครต้องจากโลกนี้ไปก็อยากให้เจอที่ดีๆ วัสดุที่เลือกใช้จึงมีการเอาปูน เอาตะแกรงวัสดุก่อสร้างที่พ่อใช้ทำงานมาประยุกต์ใช้ในการทำงานศิลปะชิ้นนี้ ส่วนลูกไม้การเย็บปักถักทอสื่อถึงแม่ ส่วนสีขาวก็คือตัวเราที่มีส่วนหล่อหลอมมาจากพ่อและแม่” ธวัชชัย ศิลปินที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมเล่าที่มาที่ปของผลงาน
ผลงาน “ซากสำพันธุ์”
6. ผลงาน “จิตรกรรมวิถีอีสาน”
นอกจากนี้ภายในงานนิทรรศการจิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 6 ทางบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยังจัดเวิร์กช็อป (Asia Plus Art Contest Workshop) สืบสานศิลปะวัฒนธรรมไทยให้กับผู้ที่สนใจ โดยเปิดอบรม “เทคนิคการทำหนังใหญ่ประยุกต์ผสมผสานการทำกล่องไฟตบแต่งลวดลาย โดยวิทยากร อ.นิโรจน์ จรุงจิตวิทวัส อาจารย์ประจำสาขาวิชา จิตรกรรรมไทย วิทยาเขตเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคมนี้ เวลา 13.00-16.00 น. ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (ถ.ราชดำเนินกลาง)
สำหรับผู้ที่สนใจงานนิทรรศการจิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 6 เฉิดฉายประกายแดด สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 กรกฎาคม 2559 (ยกเว้นวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง