หนังสือที่เธอถือมา : จดหมายจากแดนประหาร ความฝันจากจากผู้ถูกจองจำ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม
..........
1.
ตั้งแต่มีอีเมล และเฟซบุ๊ก ผมได้รับจดหมายลายมือจากใครต่อใครน้อยมาก...
แต่ไม่กี่วันมานี้ ผมได้รับจดหมายลายมือสองฉบับ เป็นลายมือไม่คุ้น หน้าซองมีคำว่า “ตรวจแล้ว” พร้อมลงลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ เมื่ออ่านชื่อผู้ส่ง จึงรู้ว่าส่งมาจากแดนประหาร เรือนจำบางขวาง นนทบุรี
ครับ-สืบเนื่องจากการได้เข้าไปเป็นครูพิเศษในเรือนจำบางขวาง ลูกติดพันเหล่านี้ เป็นเพราะได้ไปพูดเรื่องบทเพลง เรื่องบทกวี เรื่องสุนทรียะ เรื่องศิลปศาสตร์ เรื่องเพลงกวีเปลี่ยนชีวิต และพบว่าผู้ต้องขังจำนวนไม่น้อยที่เข้าอบรม “โครงการเรื่องเล่าจากแดนประหาร” เขามีพื้นฐานรักชอบทางนี้มาก่อน บางคนพิมพ์เนื้อเพลงด้วยพิมพ์ดีด เข้าเล่มไว้อย่างดี จดลิขสิทธิ์ไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว
บางคน-ก่อนจังหวะชีวิตจะเปลี่ยนแดนจากนอกคุกเข้าไปอยู่ในคุก เขาก็มีบทบาทในทางนี้มาแล้ว และสิ่งที่เขาหอบติดตัวไปในทุกแดนก็คือ ต้นฉบับผลงานที่เขารัก จดหมายลายมือสองฉบับจากแดนประหาร เป็นความฝันจากผู้ถูกจองจำ [จะด้วยคดีความใดก็ตาม] อ่านแล้วก็สะท้านใจอยู่เงียบๆ ยินดีที่เขาไว้วางใจฝากความฝันผ่านผม ขณะเดียวกันผมก็ไม่มั่นใจตัวเองว่าจะสามารถสานฝันให้พวกเขาได้
คนหนึ่งเขียนมา- “เรียนมายังครูเพื่อขอความอนุเคราะห์ และเปิดโอกาสให้กระผมได้ติดต่อกับครูหรือครูเพลงท่านอื่นๆ เพื่อเสนอบทเพลงซึ่งกระผมแต่งไว้ประมาณ 120 เพลง เพื่อโปรดพิจารณาและติชมสั่งสอน กระผมเพียงหวังว่าจะเป็นอีกหนทางหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้กระผมนั้นสามารถที่จะสร้างรายได้ เพื่อเลี้ยงดูมารดาและบุตร...”
คนหนึ่งเขียนมา- “ถ้าผมอยากจะเสนอผลงานเพลงไปยังค่ายเพลง อาจารย์พอจะแนะนำผมได้อย่างไร...ไม่รู้ว่าผมนั้นจะมาสร้างความลำบากและอึดอัดใจให้กับอาจารย์หรือเปล่า ถึงแม้ในอดีตผมเคยพอรู้จักคนในวงการเพลงอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ผมคงหมดโอกาส ผลงานของผมตอนนี้มีอยู่ประมาณ 200 เพลง ผมได้ส่งออกนอกเรือนจำ โดยมอบอำนาจให้กับภรรยานำไปจดลิขสิทธิ์...ผมอยากหาทางหาเงินหาทองช่วยทางภรรยา และเป็นค่าใช้จ่ายในเรือนจำ รวมทั้งในบั้นปลายของชีวิต...”
หนึ่ง-ความจำเป็นทางเงินทองในภาระความรักครอบครัว สอง-ความรักความฝันในผลงานศิลปะ สองอย่างนี้ผมอยู่ในสภาพทำความเข้าใจได้ แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบแก่ความฝันของขาได้ เพราะไม่ได้อยู่ในวงการเพลงโดยตรง อย่างมากก็เป็นได้เพียงสะพานส่งไปถึงผู้ที่สนใจ
แต่ก่อนอื่นใด ผมจะต้องปิดอีเมล์และเฟซบุ๊กชั่วคราว เพื่อเขียนจดหมายลายมือถึงพวกเขา...
2.
ก่อนหน้านี้มีเพลงลูกทุ่งเพลงหนึ่งชื่อ “หนีรักมาพักดอยตุง” ขับร้องโดย ไทด์ ธนพล
เป็นเพลงรักอกหักธรรมดา แต่ตอนเผยแพร่ทางโทรทัศน์ มีวงเล็บใต้เพลงว่า “บทเพลงจากแดนประหาร” คำนี้เองที่ทำให้ผมสนใจพิเศษ เมื่อติดตามรายละเอียดจึงพบว่าผู้แต่งเป็นนักโทษประหารในเรือนจำบางขวาง จากวันหดหู่สิ้นหวังในพื้นที่และเวลาอันจำกัด ถึงวันเกิดแรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อม เขาจำได้ว่าครูภาษาไทยเคยสอนแต่งกลอน และก่อนหน้านี้เขาเคยแต่งเพลงร้องเล่นในหมู่เพื่อน จึงหยิบกระดาษและปากกามาแต่งเพลง เข้าใจว่าบันทึกใส่ตลับเสียงส่งไปยังรายการวิทยุคลื่นหนึ่ง กระทั่งค่ายเพลงแห่งหนึ่งสนใจ นำไปบันทึกเสียงเผยแพร่ทั่วประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ น.ช. คนนั้น นอกจากเงินค่าลิขสิทธิ์และความภูมิใจในตัวเองแล้ว เขายังบอกว่า-อย่างน้อยก็ได้ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวเขา
เรื่องนี้-ผมเล่าให้ผู้ต้องขังที่เข้าอบรมฟัง ปรากฏต่างก็รู้จักและภูมิใจกับ น.ช. นักแต่งเพลงคนนั้น...
3.
แม้ยังมองไม่ออกว่าความฝันจากแดนปะหารจะเป็นไปเช่นไร แต่ผมกำลังเริ่มต้นตอบจดหมายลายมือ...
ตั้งใจ-จะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องพื้นฐานความเป็นไปได้กับเขาก่อน ไม่ให้เขาคาดหวังไว้สูงเกินไป และระหว่างนี้คงต้องลองถามๆ พี่น้องที่อยู่ในวงการโดยตรง บางคนก็แนะนำว่าให้ส่งเนื้อเพลงพร้อมกับบันทึกทำนองไป ซึ่งก็มีทางเป็นไปได้ตามนั้น
บางทียังหวัง-บางบทเพลงจากหลายร้อยเพลงของนักโทษประหาร อาจมีแสงสว่างแวววาวในตัว!
--------------------
(หนังสือที่เธอถือมา : จดหมายจากแดนประหาร ความฝันจากจากผู้ถูกจองจำ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง