มาร์คชี้บึ้มรางน้ำแค่สร้างสถานการณ์

(30ก.ค.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดกองขยะหน้าบ้านเลข ที่ 27 และ27/15 ซอยรางน้ำ ตรงข้ามคิงพาวเวอร์คอมเพล็กซ์ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.ว่า สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนนครบาล 1 และฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงแล้วพร้อมติดตามพยานแวดล้อม ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุมาสอบสวน และให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและจุดใกล้เคียงโดยรอบอย่างละเอียดแล้ว

 เบื้องต้นได้รับรายงานจากผู้ปฏิบัติว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ยังไม่พบสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสง สัยปรากฎในภาพวงจรปิดแต่อย่างใด โดยกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวนั้นมีอยู่ 9 จุดด้วยกันแต่ยังไม่เห็นภาพที่คนร้ายนำระเบิดมาวางไว้ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางสัญจรไปมามีผู้คนพลุกพล่านต้องตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง

 ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของผู้ประสบเหตุ 1 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าวในห้องผู้ป่วยหนัก ตึกศัลยกรรมประสาท เตียง 6 โรงพยาบาลราชวิถี พร้อมให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบหาญาติของผู้บาดเจ็บ ตอนนี้ยังไม่รู้เป็นใครชื่ออะ ไร ทราบเพียงว่าเป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปีเท่านั้น เนื่องจากไม่มีหลักฐานตามตัวว่าเป็นผู้ใด

 "ผู้บาดเจ็บอาการยังสาหัสเพราะถูกสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ในลำตัว ใบหน้า และดวงตา แพทย์ต้องผ่าตัดตาขางซ้ายอีกครั้ง และเสี่ยงที่จะสูญเสียตาข้างซ้ายไป ซึ่งอาการยังสาหัสมาก กระดูกขาขวาแตก และมีแผลเพราะถูกสะเก็ดระเบิดจำนวนมากด้วย อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุได้รายงานสถานการณ์ไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบแล้วรวมถึง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงด้วย " พล.ต.ต.วิชัย กล่าวในตอนท้าย

ก่อนหน้านั้นเวลา 01.20 น.วันนี้(30ก.ค.) ร.ต.ต.นิติ นิรุตติวัฑน์ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่หน้าบ้านเลขที่ 27/15 ตรงข้ามกับคิงส์พาวเวอร์ ซ.รางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน นครบาล 1 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

 ที่เกิดเหตุพบชายอายุ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดสีกรมท่า สวมเสื้อคลุมอีกชั้นหนึ่ง ใส่กางเกงเล สีชมพูออกแดง นอนหงายครวญครางอยู่ด้านหน้าบ้านรถตู้ สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮต 7693 กทม. ซึ่งเป็นรถตู้วิ่งวินระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ลพบุรี ใกล้กันพบรถซาเล้งจอดอยู่ โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุระเบิดซ้ำซ้อน ระหว่างคนเจ็บได้พยายามลุกขึ้นในสภาพศีรษะเต็มไปเลือด ที่ใบหน้าที่เลือดออก แขนขาได้รับบาดเจ็บ ประมาณ 20 นาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจึงเข้าไปอุ้มและช่วยเหลือชายคนดังกล่าว นำตัวส่งรพ.ราชวิถีอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวน นายบุญรอด ชาญพล อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ คิงส์ พาวเวอร์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่เห็นอะ ไรเลย เห็นแต่เพียงเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาพร้อมกับเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็เกิดกลุ่มควันไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด โดยตนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา

ขณะที่นายสำรวย ทบภักดิ์ อายุ 37 ปี  โชเฟอร์แท็กซี่ อยู่บ้านเลชขที่ 25 หมู่ 7 ต.เขวไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนจอดรถห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร  จากนั้นเห็นประกายไฟที่ต้นไม้ พร้อมเสียงดังไปทั่วบริเวณ  จากนั้นเห็นรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ซึ่งตอนเกิดเหตุจอดอยู่ด้านหลังรถซาเล้ง ได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว น่าจะเป็นเพราะความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"ตอนเกิดเหตุผมตกใจมากในชีวิตไม่เคยเห็นระเบิดที่น่ากลัวขนาดนี้ มองไปเห็นแสงไฟและเกิดเสียงดังมาก จากนั้นเกิดกลุ่มควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ น่ากลัวมากที่สุด แต่ก็พอตั้งสติได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 ทันที" นายสำรวยกล่าว 
 
ด้านนายเดช แจ้งมงคล อายุ 42 ปี คนขับรถตู้คันดังกล่าว เปิดเผยว่า ขับรถวินวิ่งระหว่างอนุสาวรีชัยสมรภูมิ ไปลพบุรีทุกวัน ก่อนหน้านี้ได้มาจอดรถที่จุดเกิดเหตุเวลาประมาณ  20.00 น. จากนั้นได้เดินออกไปคุยกับเพื่อนที่ขับวินด้วยกันที่จอดรถห่างจากรถตนไปประมาณ 20 ม. ต่อมาประมาณ 21.00 น.ได้เดินกลับมาที่รถ และนอนหลับในรถตามปกติ

"ผมรู้สึกตกใจตื่นตอนได้เสียงดังสนั่นไปทั่ว จากนั้นเห็นเศษดินกระเด็นขึ้นมาที่หน้ารถตู้ของผม ผมตกใจรีบออกมาจากรถ ตอนที่ออกมาเห็นคนเจ็บนอนเจ็บร้องโอดโอยอยู่ใต้ท้องรถ แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวว่าจะเกิดระเบิดขึ้นอีก" นายเดชกล่าว

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 พ.ต.อ .คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.น.1 พ.ต.อ.กิตติพันธ์ จุนทการ ผกก.สน.พญาไท รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร รถฮัมวี่ ประมาณ 2-3 คัน

สำหรับอาการผู้บาดเจ็บ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รพ.ราชวิถี พบว่า ยังอยู่ในอาการไม่รู้สึกตัว ขณะนี้ทางแพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

มาร์คเชื่อบึ้มซ.รางน้ำแค่สร้างสถานการณ์

 เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า เท่าที่ตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. พบว่ารูปแบบของตัวระเบิดจะไม่เหมือนกับครั้งที่ผ่านมา และดูจากเวลาของเหตุการณ์ก็น่าจะเป็นการมุ่งไปในเรื่องของการสร้างสถานการณ์มากกว่า แต่บังเอิญว่ามีคนอยู่ตรงนั้นในระยะที่ใกล้จึงได้รับบาดเจ็บ รายละเอียดอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน ส่วนจะเป็นฝีมือของกลุ่มไหนอย่างไรนั้นยังไม่สามารถบอกได้ เพราะครั้งนี้ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ป้ายรถเมล์ หน้าบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.

 เมื่อถามว่าจะเชื่อมโยงกับกรณีที่นายกรัฐมนตรีตัดสินเรื่องการคงไว้ซึ่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมว่าคงไม่” เมื่อถามว่าคิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะกลับมาเกิดเหตุแบบรายวันเหมือนแต่เดิม และเหตุการณ์ครั้งนี้มีการรู้ล่วงหน้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า มีการประเมินและวิเคราะห์ในภาพรวมว่าจะเกิดเหตุการณ์ในระยะนี้

 เมื่อถามว่าสถานที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุจะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าก่อนหน้านี้ 2-3 วันว่าลักษณะของเหตุที่จะเกิดนั้นมีความพยายามในเชิงสัญลักษณ์