
ชาวปทุมกว่า 200 คน บุกร้อง "บิ๊กแจ๊ส" คดีลูกพีชทำจังหวัดเสียชื่อ
ชาวปทุมธานี รวมตัวร้องเรียนคดีลูกพีชทำจังหวัดเสียชื่อ ด้าน "บิ๊กแจ๊ส" รับปากไม่ยอมให้มีอิทธิพลในปทุมพื้นที่ ขอเวลา 1 วัน เดินเกมส์การเมืองท้องถิ่นต่อ
21 เม.ย. 2568 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ชาวบ้านกว่า 200 คน ทยอยรวมตัวกันจากหลายอำเภอเรียกร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับคดีหนุ่มขับรถหรู BMW ป้ายแดง เบียดชนรถกระบะลุงกับป้าจนพุ่งชนแบริเออร์บาดเจ็บสาหัส บนมอเตอร์เวย์สาย 9 โดยคู่กรณี คือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ลูกชาย นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ "นายกเบี้ยว" อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลธัญบุรี เขต 2 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หมายเลข 1
โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ส.อบจ.ปทุมธานี เข้ารับเรื่อง มีการเชิญตัวแทนชาวบ้านจำนวน 5 คน เข้ามาพูดคุยที่ห้องทำงานของ นายก.อบจ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อร้องเรียน
นางอาภรณ์ ชาวบ้าน อ.ธัญบุรี กล่าวว่า วันนี้เข้ามาเพื่อสอบถามท่าน นายก.อบจ.ปทุมธานี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าทาง อบจ.ปทุมธานี จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นข่าวดังที่ทุกสำนักเสนอเป็นข่าวใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชื่อเสียงของคนปทุมธานีเสียหาย เนื่องจากผู้กระทำผิดอ้างอิทธิพลของพ่อแม่และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คู่กรณีกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากให้นายก.อบจ.ปทุมธานี กำจัดพวกมาเฟียในคราบของนักการเมืองให้หมดไปจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อที่จะได้เดินหน้าต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเกรงกลัวผู้มากบารมี เหมือนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า พี่น้องประชาชนจากทั่วทั้งจังหวัดมารวมตัวกันเยอะมาก ผมจึงได้เชิญผู้แทน จำนวน 5 คน ขึ้นมาพูดดคุยหาข้อสรุปกัน พอทราบวัตถุประสงค์ก็ลงไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชน พวกเขาไม่สบายใจ เพราะมีเหตุการณ์ที่ทำให้คนปทุมธานีเสียชื่อที่แสดงพฤติกรรม เหิมเกริม ก้าวร้าว ไร้จิตสำนึก เขาก็เลยรวมตัวกันมา ซึ่งตนก็ยืนยันว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้บอกผ่านสื่อไปแล้วว่า ไม่มีใครใหญ่ไปกว่ากฎหมาย ลูกใครก็ไม่สน ดำเนินคดีถึงที่สุด
ซึ่งสอดคล้องกับทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทางนายพีชมีการพูดในลักษณะอ้างถึงความสัมพันธ์ฉันญาติ โดยเรียกว่า "อาต่าย" พร้อมโชว์หลักฐานเป็นรูปภาพที่ถ่ายร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งยังมีรายงานว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และยังมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง เป็นผู้มากอิทธิพล ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพราะเป็นพื้นที่ของครอบครัวหนึ่งมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ซึ่งประชาชนก็สอบถามว่าทำไม ทีมคนรักปทุมถึงไม่ส่งผู้สมัครลงในพื้นที่เทศบาลตำบลธัญบุรี ตนก็ตอบไปว่า เราไม่มีตัวที่จะลงแข่ง เนื่องจากทุกคนกลัว บารมีและอำนาจเงินของครอบครัวนี้
ซึ่งครอบครัวคนรักปทุมได้เปิดตัว ทีมผู้สมัครนายกเทศบาลและสท. ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยน เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น พี่น้องประชนก็มาเรียกร้องให้ส่งคน แต่ตอนนี้เราส่งคนใหม่ก็ไม่ได้ แถมมีบางกลุ่มเข้ามาหาและขอให้สนับสนุน โนโหวต อันนี้ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ในระบอบประชาธิปไตย ตนอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ ไม่ต้องการให้ โนโหวต ดังนั้นถ้าจะให้ครอบครัวคนรักปทุมส่งลงไป ตนขอเวลาปรึกษากับทีมงาน 1 วันว่าเราจะเดินเกมส์อย่างไร ถ้าเป็นความต้องการของประชาชน เราอาจจะส่งลงก็ได้ โดยอาจจะไปสนับสนุนผู้สมัครท่านอื่น
ทั้งนี้ในส่วนของคดี ตนมองว่า ไม่ได้ยุ่งยาก ถ้าตนเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตนจะให้ทำคดีส่งฟ้องให้ได้ใน 15 วัน เพราะมันไม่ได้ยุ่งยาก เราสามารถเร่งได้ตรวจพยานวัตถุ รถ สถานที่เกิดเหตุ วัตถุพยานต่างๆ ก็เห็นอยู่แล้ว คลิปต่างๆ ที่ ประชาชนถ่ายมาก ต้องขอบคุณเพราะตรงนั้นถือเป็นพยานชั้นดี มันชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณกระทำผิดตั้งแต่ก่อนเข้าด่าน ขับผ่าเส้นขาวแดง ซึ่งเป็นเสมือนเกาะกลาง อันนี้ก่อนเกิดเหตุน่ะ ช่วงที่ 2 จาก 3 เลน ออกด่านมาเหลือ 2 เลน ตรงนั้นมันเป็นเส้นปะ ไม่ใช่เส้นทึบ ลุงเขาเข้ามาครึ่งคันแล้ว และไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรด้วย เพราะตรวจจากสภาพรถ bmw และ บาริเออร์ แต่ที่เกิดเหตุจริง "คุณขับรถตบเค้าขนาดนั้น มันหวังผล ถ้าไม่มีบาริเออร์ แล้วรถลุงข้ามไปอีกฝั่งคุณว่าลุงจะรอดไหม" อย่างไรก็ดี ต้องขอบคุณกันจอมพลั งที่ออกมาช่วยเหลือคดีนี้ ไม่ปล่อยให้ครอบครัวลุงโดดเดี่ยว