ล้วงข้อมูลลึก ช่องทางใช้ ‘วัด’ ฟอกเงิน

กลายเป็นประเด็น ที่มีการตั้งคำถามจากสังคม เมื่อทนายความชื่อดังคนหนึ่ง แจ้งความ บิ๊กตำรวจ คนหนึ่ง ฐาน ฟอกเงิน โดยกล่าวหาว่า ใช้บัญชีม้า โอนเงิน ทำบุญ ให้ วัด และมี ใบอนุโนทนาบัตร ออกมา ที่สามารถนำไปใช้ ลดหย่อนภาษี ได้

 

กรณีดังกล่าว เข้าข่าย ฟอกเงิน ยังไง ?

การ ฟอกเงิน อธิบายง่ายๆ คือ การทำให้ เงินผิดกฎหมาย หรือ เงินดำ กลายเป็น เงินถูกกฎหมาย หรือ เงินขาว โดยผู้ที่ ฟอกเงิน คือผู้ได้รับผลประโยชน์จากการเงินจำนวนดังกล่าว

 

กรณี เงินทำบุญ จากบัญชีม้า แล้วทาง วัด มีการออก ใบอนุโมทนาบัตร ให้ โดยบุคคลผู้นั้นสามารถนำไป ลดหย่อนภาษี ได้ ก็ถือว่าได้ผลประโยชน์จาก เงินทำบุญ นั้นๆแล้ว

ในทางกฎหมายกรณีนี้ ถ้าเป็น เงินทำบุญ ที่ได้มาถูกกฎหมาย จะไม่ถือว่าเป็นการ ฟอกเงิน แต่เข้าข่ายการหลอกลวง โดยมี สรรพากร เป็นผู้เสียหาย เพราะผู้นั้นนำ ใบอนุโมทนาบัตร ไปใช้ ลดหย่อนภาษี

 

แต่เมื่อ เงินทำบุญ  ได้มาผิดกฎหมาย แล้วนำไปออก ใบอนุโมทนาบัตร เพื่อใช้ ลดหย่อนภาษี ถือว่า เข้าข่าย ฟอกเงิน ได้

 

อย่างไรก็ดี กรณีใช้ วัด ฟอกเงิน มี ช่องทาง ซิกแซก หลายวิธี และบางกรณีพระสงฆ์ หรือเจ้าหน้าที่ใน วัด อาจเข้าไปพัวพันการทุจริตนั้นๆด้วย

 

โดยเริ่มจากเงินผิดกฎหมาย หรือเงินดำ ที่มาจากการกระทำความผิดต่างๆ อาทิ เงินจากบัญชีม้า เว็บพนันหรือแก๊งคอลเซนเตอร์ ฯลฯ จากนั้นมีการ โอนเงิน เข้า วัด เพื่อ ทำบุญ เป็นการฟอกจากเงินดำให้เป็นเงินขาว เพื่อบางคนนำไป ลดหย่อนภาษี ได้

 

ขณะที่ หลายกรณี มุ่งผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองจำนวนมหาศาล อาทิ

 

• วัด กำลังก่อสร้างพระอุโบสถ โดย เจ้าของ เงินทำบุญ นำบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่ตัวเองมีผลประโยชน์ด้วยมารับงาน
• วัด ซื้อที่ดิน จากบริษัทแห่งหนึ่ง ในราคาแพง โดยเจ้าของ เงินทำบุญ ชักใยอยู่เบื้องหลังบริษัทผู้ถือครองที่ดิน โดยซื้อที่ดินในราคาถูก มาตั้งราคาแพง ให้ วัด ซื้อ
• วัด ดำเนินการคืนเงิน ให้กับผู้ ทำบุญ ในลักษณะ เงินทอนวัด รูปแบบต่างๆ อาทิ อุดหนุนซื้อของร้านค้า หรือ บริษัทของผู้ ทำบุญ
• วัด จัดทำพระเครื่องให้เช่าบูชา โดยจ้างบริษัทของผู้ ทำบุญ จัดทำพระเครื่อง

ฯลฯ

 

เหล่านี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วน ของ แท็กติก ซิกแซก ของการใช้ วัด เป็นสถานที่ ฟอกเงิน จาก สีดำ เป็น สีขาว และส่ง กลับเข้ากระเป๋า ผู้ ทำบุญ

 

กลายเป็น คนบาป ในคราบ นักบุญ