'ลุงเปี๊ยก' ลุคใหม่ หลังเลิกเหล้า เปิดปาก'ตำรวจ' คนไหนใช้ 'ถุงดำคลุมหัว'

วันที่ 5 มี.ค.2567 ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย  พร้อม นายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 รองหัวหน้าคณะทำงาน เเละคณะพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เดินทางมาสอบปากคำ นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ในคดีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง

จากกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในคดีฆาตกรรม ป้าบัวผัน หรือป้ากบ วัย 47 ปี หญิงสติไม่ดี เเละ ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีกับ ลุงเปี๊ยก ในข้อหาฆาตกรรม โดยตำรวจเเจ้งว่า ลุงเปี๊ยก รับว่าลงมือฆ่าเเละกระทำด้วยความมึนเมา ต่อมามีการปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนหามาได้จากจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ป้ากบ เป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ในจำนวนนี้มี 2 คนเป็น ลูกตำรวจ

ภายหลังการสอบปากคำ ลุงเปี๊ยก แล้ว นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การสอบสวนในวันนี้ มีทั้งแพทย์และพยาบาลอยู่ด้วยเป็นครั้งเเรก โดย ลุงเปี๊ยก ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีอย่างมาก มีการยืนยันถึงคนที่ได้กระทำต่อตนเองว่ามีใครบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดย ลุงเปี๊ยก กล้าชี้รูปถ่ายและกล้าให้การว่าใครทำอะไร อย่างไร ในวันนั้น สามารถจดจำได้หมดเลย ถือว่าเป็นคนที่มีสติปัญญา ให้การดีมาก รู้เรื่องหมดเลย จำเรื่องราวได้ทั้งหมด จากการสอบสวนวันนี้ยังทราบว่า ลุงเปี๊ยก เคยบวชเรียนถึง 7 พรรษาและตอนนี้อดเหล้าได้หมดเลย แพทย์รับรองว่าอาการดีขึ้น แต่ยังต้องอยู่ในความคุ้มครองของโรงพยาบาลอีก 4 เดือน ถึงจะหมดโปรแกรมรักษา

“นอกจากนี้ ลุงเปี๊ยก ยังยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์กับป้ากบเหมือนที่ปรากฎเป็นข่าวว่าเป็นสามีภรรยากัน เพียงแต่ว่าแม่ค้าแถวนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสามีภรรยากัน เนื่องจากว่าเป็นบุคคลเร่ร่อนเหมือนกัน และบางครั้ง ป้ากบ ชอบมายืนที่ศาลพระสยามเทวาธิราชจำลอง  ลุงเปี๊ยก เป็นคนไปไล่ ป้ากบ ก็เลยมีประเด็นทะเลาะถกเถียงกันบ้าง ทั้งสองคนกินเหล้ากัน เหมือนสนิทสนมกัน แต่ไม่มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา เหมือนที่เป็นข่าว” นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ กล่าว และว่า

ลุงเปี๊ยก ยังประสงค์ที่จะอยู่ในการคุ้มครองพยานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากนี้หากออกจากโรงพยาบาล จะเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยาน และหลังจากเสร็จเรื่องคดีทั้งหมด ลุงเปี๊ยก มีความประสงค์ที่จะกลับไปบวชต่อ

เมื่อถามว่าประเด็นถูก ถุงดำคลุมหัว จริงหรือไม่ เเละมีการทรมานเเบบอื่นด้วยหรือไม่ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์  กล่าวว่า ลุงเปี๊ยก ให้การยืนยันว่ามีการใช้ ถุงดำคลุมหัว และบังคับให้รับสารภาพจริง แต่ยังไม่อยากระบุว่าเป็นใคร ส่วนการทรมานใช้วิธีการขู่เข็ญ บังคับโดยใช้อุปกรณ์บางอย่างในการขู่เข็ญ และเปิดแอร์ให้เย็น และพาไปบังคับให้รับสารภาพและทำแผนจริง

ขั้นตอนต่อไปจะสอบพยานอย่างอื่น เป็นพยานเเวดล้อม เเละพยานที่เกี่ยวข้องกับคดี แล้วจะพิจารณาแจ้งข้อหากับ ตำรวจ ที่กระทำความผิด คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.2567 นี้ โดยจะเรียกผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.อุ้มหาย มาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป หากพยานหลักฐานเกี่ยวพันถึงใครจะดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ระดับไหนก็ตาม