ข่าว

ตำรวจ 'ถ่ายรูปร่วมเฟรม' กับ 'ฝรั่งเตะหมอ' ชี้แจงแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ผู้การภูเก็ต' เผย ยังไม่พบต่างชาติทำตัวเป็น 'มาเฟีย' ด้าน ตำรวจ 'ถ่ายรูปร่วมเฟรม' กับ 'ฝรั่งเตะหมอ' ชี้แจงแบบนี้

วันที่ 4 มี.ค.2567 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ รองผบก.และผกก.สถานีต่างๆในพื้นที่จ.ภูเก็ต รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เกี่ยวกับการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพ ใน จ.ภูเก็ต และมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล และจะต้องทำการเพิกถอนวีซ่า ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการเพิกถอนวีซ่าของชาวต่างชาติ และการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการร้องเรียนของชาวต่างชาติว่าถูกข่มขู่ จากชาวต่างชาติด้วยกันเอง หรือคนไทยที่ถูกข่มขู่โดยชาวต่างชาติ จึงยังไม่พบการกระทำที่เข้าข่าย มาเฟีย

 

พล.ต.ต.สินเลิศ กล่าวว่า ส่วนคดีล่าสุด คือ คดีปล้นทรัพย์โดยชาวรัสเซีย 5 คน และมีการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว ถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา 1 เดือน จากนั้นมาก่อเหตุ สอบถามทราบว่า น่าจะมีประเด็นกันมาก่อนตั้งแต่ประเทศรัสเซียแล้ว ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับมาเฟียนั้น ต้องบอกว่าสำหรับ ภูเก็ต คงไม่มี มาเฟีย อย่างที่ผู้ว่าฯ ได้แจ้งไปแล้ว แต่จะเป็นลักษณะของการแย่งอาชีพคนไทย ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจตรวจสอบ เนื่องจากในความเป็นจริง คำว่า มาเฟีย จะต้องเป็นองค์กรอาชญากรรมซึ่งทำการผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.สินเลิศ กล่าวต่อว่า โดยคดีเกี่ยวกับคนต่างชาติใน ภูเก็ต นั้น ได้เก็บตัวเลขไว้แล้ว ทั้งความผิดคดีอาญา ซึ่งมีไม่มาก และคดีจราจร มีจำนวนค่อนข้างมาก

 

“กรณีของ นายตำรวจ ที่ถูกกล่าวถึงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนิทสนมกับชาวต่างชาติคนดังกล่าวนั้น ขณะนี้จากการพูดคุยทราบว่า มีเพื่อนชวนไปรับประทานอาหาร และมีการถ่ายภาพร่วมกันตามที่ปรากฏในข่าว ไม่ได้สนิทสนมเป็นกรณีพิเศษ ในส่วนการทำคดีนั้น ไม่ได้กังวล สั่งให้ สภ.ถลาง ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบ ทั้งในส่วนของสายตรวจหรือพนักงานสอบสวน โดยเราให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และมีการดำเนินการตั้งแต่วันแรกที่คุณหมอเข้าแจ้งความแล้ว” ผู้การภูเก็ต กล่าว

 

พล.ต.สินเลิศ กล่าวด้วยว่า สั่งกำชับให้มีการทำข้อมูลชาวต่างชาติ เมื่อกระทำความผิด จะสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ถลาง ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายไปแล้ว โดยผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ในส่วนทางคดีอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 2-3 ปาก ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สินเลิศ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเพิกถอนวีซ่าชายชาวสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ว่า ขั้นตอนการเสนอเพิกถอนวีซ่านักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่มาประกอบอาชีพใน จ.ภูเก็ต นั้น คือ คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน , มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นรองประธาน และมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต เป็นเลขานุการ

 

คณะกรรมการจะทำความเห็นต่อที่ประชุม จากนั้นเลขานุการ คือตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต จะนำเสนอต่อ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 เพื่อพิจารณาการเพิกถอนวีซ่าต่อไป จากนั้นถ้ามีการเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติคนดังกล่าว แล้ว ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 จะส่งเรื่องกลับมายัง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต เพื่อนำเรื่องการพิจารณาดังกล่าวไปแจ้งต่อชาวต่างชาติคนดังกล่าวต่อไป กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่มีคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองพฤติกรรมชาวต่างชาติที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต เพื่อเสนอเพิกถอนวีซ่าของประเทศไทย" พล.ต.ต.สินเลิศ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ