'สาว' อดีตว่าที่ ผู้สมัคร สส. เปิดใจครั้งแรก สาเหตุหอบ ลูก หนี สามี นักธุรกิจ

จากกรณีที่ นักธุรกิจ เมืองโคราช ได้โพสต์ข้อความ ประกาศตามหา หญิงสาว ซึ่งเป็น ภรรยาและลูก คือ นางสุพรรณี เชื้อดี (มะเหมี่ยว) อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ กับ ด.ญ.พิมพ์พิศา เชื้อดี (มินนี่) ลูกสาววัย 5 ขวบ ซึ่งหายไปนานกว่า 13 วัน พร้อมตั้งรางวัล 30,000 บาท สำหรับคนพบเบาะแส จนพาไปเจอตัว หรือพามาส่งได้ถึงบ้าน

ล่าสุด (29 ก.พ. 2567) นางสุพรรณี เชื้อดี อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ พาลูกสาววัย 5 ขวบ เดินทางเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม โดยถือว่าเป็นการเปิดใจครั้งแรก ถึงสาเหตุที่ต้องหนีออกจากบ้าน จนสามีประกาศตามหา ซึ่งระหว่างที่เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายช่วงหลายตอน ถึงกับหลั่งน้ำตา ด้วยความหวาดกลัว และเป็นห่วงลูกสาว 

 

 

นางสุพรรณี เล่าว่า เธอกับสามี อยู่ด้วยกันมานาน 8 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายเป็นคนโมโหร้าย มักด่าทอ และไล่เธอออกจากบ้าน ซึ่งล่าสุดเกิดเหตุวันที่ 15 ก.พ. 2567 ถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย ในขณะที่ ที่บ้านมีงานทำบุญบ้าน สามีเข้ามาที่บ้านตอน 2 ทุ่มกว่า แต่เธอไม่ทันสังเกต เพราะดูลูกอยู่ พอเสร็จจากดูลูกเลยเข้าไปหา แต่กลับถูกไล่ให้ไปไกลๆ

จากนั้น เธอจึงพาลูกขึ้นไปบนห้องนอน สักพัก สามีก็ตามขึ้นมา โดยเอาคัตเตอร์ ถือติดเข้ามาในห้องนอน และเดินวนไปมา ซึ่งเธอกับลูก นั่งอยู่ในห้องแต่งตัว ก่อนที่สามี จะเริ่มใช้คัตเตอร์กรีดเสื้อผ้าของเธอ และลูกสาว รวมถึงชุดนักเรียน พร้อมกับพูดจาหยาบคาย จนเธอรู้สึกกลัวมาก ทำให้ต้องตัดสินใจหนีออกมาในวันรุ่งขึ้น

 

 

นางสุพรรณี เล่าต่อว่า เธอถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด ตั้งแต่ปี 2561 ขณะที่เธอใกล้จะคลอดลูก ก็ถูกเตะ แต่มาบ่อยขึ้น ในช่วงปี 2566-2567 และในหลายเหตุการณ์ ลูกก็อยู่ด้วย ทั้งถูกตบ จนแว่นหัก ตอนนั้นลูกกลัว ร้องไห้ ผวา ทุกอย่างมันสะสมมาเรื่อยๆ เลยทำให้เธอตัดสินใจออกจากบ้าน เพราะเจอหนักขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมาเห็นออกข่าว เลยตัดสินใจโทรหามูลนิธิฯ เพราะต้องการความช่วยเหลือ

                  

 

ที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุ เธอไม่เคยไปแจ้งความ มีเพียงการลงบันทึกประจำวัน ปี 2561 ที่ สภ. เมืองนครราชสีมา ขณะที่ตั้งครรภ์ และก็เพิ่งไปลงบันทึกประจำวันไว้ในวันที่หนีออกมา ที่ สภ. รัตนาธิเบศร์ ก่อนที่เมื่อคืนนี้ ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ว่า เธอไม่ได้หายไปไหน และที่ไม่ได้แจ้งความเพราะเป็นห่วงลูก แต่สุดท้าย ฝ่ายชายกลับพูดจาหยาบคาย เธอเลยรู้สึกว่าลูกเริ่มไม่ปลอดภัย คิดแค่ว่าต้องออกจากที่นี่ ส่วนโทรศัพท์ 2 เครื่อง ก็ถูกฝ่ายชายยึดไปหมด

 

 

ทั้งนี้ เธอเคยนัดไปหย่าหลายครั้ง เพราะฝ่ายชายบอกว่า อยากได้ชีวิตอิสระ และอยากให้เธอออกไปจากชีวิต เพราะที่ผ่านมาเธอก็รับรู้ว่า ฝ่ายชายมีผู้หญิงอื่นมาโดยตลอด แต่สุดท้าย เขาก็ไม่มา โดยหลังจากนี้ เธอ ต้องการที่จะหย่าให้ถูกต้องตามกฏหมาย และจะไม่มีการไปดำเนินคดีเรื่องทำร้ายร่างกาย แต่จะขอดำเนินการขอเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว เพราะไม่สามารถให้ลูกไปอยู่กับฝ่ายชายได้ เนื่องจากมีพฤติกรรมด้านอารมณ์ 

 

 

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะฝ่ายชายต้องการให้ทางมูลนิธิเป็นกาวใจให้ แต่อยู่ระหว่างการพูดคุยเจรจากับฝ่ายหญิง ว่าจะยินยอมที่จะพบฝ่ายชายหรือไม่