ข่าว

เปิดทุกแชท เพื่อนสนิท 'น้องนุ่น' คุยกับ ทอย สามีโหด ฝ่ายหญิงถูกขู่ล่าตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจเพื่อนสนิท 'น้องนุ่น' และเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหาร สามีโหด เผยแชทนุ่นถูกทำร้าย ขู่ล่าตัว เปิดพิรุธ ทอย เล่าเรื่องวันเกิดเหตุไม่เหมือนกับที่ให้ข้อมูลในข่าว

KEY

POINTS

เพื่อนสนิทนุ่น

 

เพื่อนสนิทนุ่น

 

เพื่อนสนิทนุ่น

เพื่อนสนิทนุ่น

 

 

เพื่อนสนิทนุ่น

 

เพื่อนสนิทนุ่น

 

 

 

 

 

 

เปิดใจเพื่อนสนิท 'น้องนุ่น' และเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหาร สามีโหด เผยแชทนุ่นถูกทำร้าย ขู่ล่าตัว เปิดพิรุธ ทอย เล่าเรื่องวันเกิดเหตุไม่เหมือนกับที่ให้ข้อมูลในข่าว

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 21 ก.พ.67   ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.มิ้น อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ของ น.ส.ชลลดา หรือ น้องนุ่น อายุ 27 ปี และเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหารกับ นายศิริชัย หรือ ทอย อายุ 33 ปี สามีโหด ได้นำแชทของของ น้องนุ่น ที่เคยทักขอความช่วยเหลือเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว หลังถูก นายศิริชัย ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บตาปูด มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า รวมถึงเอามือถือ IPhon12 Pro max ไปทุบทิ้ง จึงนำเรื่องราวมาเปิดเผยให้กับผู้สื่อข่าวถึงพฤติกรรมของนายศิริชัยที่ชอบทำร้ายร่างกายแฟนสาวหลายคนที่เคยคบหา

 

น.ส.มิ้น กล่าวว่า ตนรู้จักกับ นายศิริชัย หรือ ทอย เนื่องจากเคยเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหารกับตน ส่วน น้องนุ่น ตนมารู้จักทีหลังเนื่องจากเพิ่งมาคบกับทอยได้เมื่อประมาณต้นปี 2564 ก่อนหน้าที่ทอยจะคบกับน้องนุ่นตนรู้จักแฟนเก่าของทอยได้ทักมาหาตนว่าถูกนายทอยทำร้ายร่างกาย  ขอความช่วยเหลือ ปรึกษาว่าไม่อยากอยู่กับคนแบบนี้ จากนั้นก็ได้เลิกรากันไป  

 

ต่อมาประมาณ 2-3 เดือน ทางน้องนุ่นก็ได้เข้ามาแล้วทั้งคู่ก็คบกันมาจนกระทั่งมีลูก หลังจากนั้นก็มีเรื่องทะเลาะกันมาโดยตลอด ซึ่งทางน้องนุ่นก็จะคอยทักมาบอกตนว่าถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งทั้ง 2 คนเคยเป็นแฟนเก่ากันมาก่อน โดยน้องนุ่นเล่าว่าระหว่างคบกันถูกทำร้ายร่างกายจนตาปูดบวม มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า รวมถึงเอามือถือ IPhone 12 Pro max ของน้องนุ่นไปทุบทิ้ง  

น.ส.มิ้น เล่าอีกว่า มีเหตุการณ์เมื่อประมาณวันที่ 8 ก.ค.66 ทางน้องนุ่นเคยโทรหาตนให้ไปรับเพราะถูกนายทอยร้ายร่างกายจนฟันหัก ตนจึงรีบไปรับที่บ้านแล้วรีบเก็บของพาน้องนุ่นและลูกมานอนพักที่บ้านประมาณ 5 วัน ระหว่างนั้นตนก็ได้พูดปลอบว่าถ้าไม่ไหวก็ออกมา เพราะว่าตนสงสารลูกของนุ่นมาก 

 

เรื่องนี้ตนพยายามพูดคุยทั้งด่า ทั้งเตือนนายทอยว่าอย่าทำแบบนี้ แต่นายทอยเป็นคนที่พูดไม่ค่อยจะฟัง โดยทอยจะเป็นคนที่เงียบ ๆ พออยู่กับเพื่อนพี่น้อง และเป็นคนพูดจาไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ทำเป็นคนมีเงินมีอำนาจ แต่เท่าที่รู้จักจะเป็นคนที่ไม่กล้าด่าใคร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง นอกจากแฟนที่จะด่าทอและทำร้ายร่างกาย ส่วนนิสัยของน้องนุ่นก็จะเป็นคนขี้น้อยใจ งองแงบ้างตามประสาแฟน แต่เป็นคนน่ารัก แต่ทุกครั้งเวลาที่ 2 คนทะเลาะกันผ่านไปไม่ถึง 1-2 วัน ก็กลับมาคืนดีกัน ช่วงหลังตนก็รู้สึกชินกับเรื่องของทั้งคู่

 

น.ส.มิ้น กล่าวต่อว่า เรื่องของทั้งสองคน ตนรู้จักทั้งคู่เตือนไม่รู้กี่ครั้งนุ่นแล้วว่าไม่ไหวให้ออกมา แต่นุ่นก็บอกว่ารักแฟนคนนี้ ซึ่งตนก็พูดมากไม่ได้เพราะทั้งสองรักกัน แต่ก็เตือนว่าอย่าออกมาประจานกัน ซึ่งวันนี้ตนก็นำแชทของนุ่นที่เคยส่งให้ตนมาให้ผู้สื่อข่าวดู มีการด่าหยาบคาย ข่มขู่ ด้อยค่าเป็นสาวขายบริการ และแชทที่นุ่นโทรขอความช่วยเหลือตน ซึ่งตอนที่ทราบข่าวตนรู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าทอยจะกล้าทำถึงขั้นฆ่าอำพรางศพ   

น.ส. มิ้น กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 19 ก.พ.67 แม่ของตนได้วิ่งลงมาจากบ้านแล้วบอกตนด้วยความตกใจว่าน้องนุ่นหายตัวไป เพราะแม่ของตนจะสนิทกับทางทอย และนุ่นมาก แต่ตนไม่ได้ติดตามเฟซบุ๊กของทอย เพราะว่าไม่ชอบพฤติกรรมเลยไม่ทราบข่าวที่นุ่นหาย หลังจากที่ทราบข่าวตนรีบโทรหานายทอยแล้วจะประสานนักข่าวประจำจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนให้ไปทำข่าวช่วยตามหา แต่ทอยยึกยักเหมือนยังไม่อยากให้ข้อมูลกับนักข่าว 

 

ตนจึงโทรพูดคุยสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางทอยก็เล่าให้ตนฟังแต่เล่าไม่เหมือนกับที่ให้ข้อมูลในข่าว โดยเล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนด่านุ่น เพราะนุ่นไปกินเลี้ยง จึงไม่พอใจแต่นุ่นเถียงจึงเดินลงจากรถลงที่คลองประปา จากนั้นก็ดึงกลับมาเข้ารถได้ จากนั้นก็ขับรถใกล้ถึงหน้าหมู่บ้านนุ่นเดินลงรถและหายไปที่ถนนบอนด์สตรีท ซึ่งข้อมูลนี้คือทอยเล่าให้ตนฟัง 

 

จากนั้นตนก็จะประสานนักข่าวให้กับทอยแต่ทอยก็ยังไม่อยากให้ข้อมูล ต่อมาทอยจึงไปแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด วันที่ 19 ก.พ.67 ตนกับแม่ของตนก็ยังเป็นห่วงได้โทรหาทอยอีกรอบเพื่อถามข้อมูล ทอยก็บอกว่าจะไปหาตัวนุ่นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะ GPS ขึ้นอยู่ที่นั่น ตนกับแม่ก็ยังไม่เลิกเป็นห่วงได้บอกกับทอยว่าให้เอาลูกมาที่บ้านก่อนจะเลี้ยงดูให้ไม่อยากให้ลูกไปลำบากเพราะยังเป็นเด็กเล็กอยู่ แต่ทางทอยก็ไม่ฟังบอกลูกตังเองชินแล้ว ซึ่งก็บอกต่ออีกว่าตอนที่ตนโทรหายางรถยนต์แตก กำลังเปลี่ยนยางอยู่ที่มีนบุรี  จากนั้นตนก็ประสานเรื่องให้นักข่าวเพื่อนตนอีกรอบ แต่ก็บ่ายเบี่ยงอ้างนู้นนี่ และก็ทักมาบอกว่านักข่าวอยู่เต็มหน้าบ้าน 

 

น.ส.มิ้น กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนและแม่ตนได้ติดตามข่าวตั้งแต่ตอนแรก ที่มีข่าวลงว่านุ่นลงแล้วขึ้นแท็กซี่หนีตนกับแม่รู้สึกดีใจมากที่นุ่นจะได้เลิกกับผู้ชายคนนี้ หนีไปมีสามีใหม่ หรือหนีไปต่างประเทศยิ่งดี  จะได้ไม่ต้องถูกทำร้ายร่างกายอีก แต่กลับได้ยินข่าวร้านว่าพบศพนุ่นที่ปราจีนบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมาตนกับแม่รู้สึกตกใจ โกรธและโมโหอย่างมาก เพราะว่าทอยได้โกหกแม่ตนที่คอยเป็นห่วงทักแชทหาอยู่ตลอดให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือ ทองทอยคอยหลบนักข่าว แม่ตนก็บอกว่าอย่าไปสนใจข่าวให้นั่งสมาธิ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นคนฆ่านุ่น แม่ตนจึงโพสต์แชทข้อความที่โดนทอยหลอกมาโดยตลอดตามที่ตนให้กับผู้สื่อข่าว 

 

ตนและแม่ตนยังคิดไม่ถึงว่าทอยจะทำแบบนี้  สุดท้ายนี้ระหว่างที่นุ่นยังมีชีวิตอยู่ตนเชื่อว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือนุ่นเป็นห่วงนุ่นถึงที่สุดอยู่แล้ว รวมถึงลูกของนุ่นรักเหมือนเป็นหลานแท้ๆ สุดท้ายนี้ตนกับแม่เชื่อว่าเวรกรรมมีจริงให้ทอยได้ชดใช้กรรมตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ตนก็เคยสอบถามทอยว่าทำไมถึงทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่ทอยก็ตอบว่า “เคยเห็นความรุนแรงมาตั้งแต่เด็กโดยเห็นแม่ตีพ่อ จึงเลือกที่จะทำร้ายคนอื่น ” น.ส.มิ้น กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ