ข่าว

จับแล้ว 2 แก๊งอ้าง 'ตร.กองปราบ' อุ้ม ยัดยา รีดเงิน ประวัติก่อเหตุโชกโชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับแล้ว 2 หนุ่มใหญ่ 'แก๊งอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ' อุ้มผู้เสียหาย ยัดยาเสพติด บังคับให้สารภาพว่าเป็นเจ้าของยาเสพติด ก่อนรีดเงินแลกอิสรภาพ

14 ก.พ. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายมานะ อายุ  58 ปี  และ นายวีรยุทธ  อายุ 48 ปี  ผู้ต้องหา "ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย" 


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 เพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายจำนวน 2 คน ร้องขอความเป็นธรรม และแจ้งความให้ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์ 4 คน ที่ สน.สายไหม สาเหตุจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 มีชายฉกรรจ์ 4 คนอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ เข้าค้นบ้านเช่าผู้เสียหายแต่ไม่พบสิ่งกฎหมาย  ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงพาผู้เสียหายขึ้นรถไปพร้อมกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยอ้างว่าจะพาไปสอบสวน จากนั้นได้มีการจอดรถยนต์คุยบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง และได้หยิบยาเสพติดมาวางไว้บนตักของผู้เสียหาย จากนั้นบังคับให้ผู้เสียหายชี้และรับว่ายาเสพติดเป็นของตน เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมรับจึงถูกข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย

 จับแล้ว 2 แก๊งอ้าง ตร.กองปราบ อุ้ม ยัดยา รีดเงิน ประวัติก่อเหตุโชกโชน

 

จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจึงเสนอให้ผู้เสียหายหาเงินมา 100,000 บาท เพื่อเคลียร์คดี แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินจึงทำการค้นตัวพบเงินจำนวน 5,200 บาท จึงได้เอาเงินของผู้เสียหายไป 5,000 บาท และนำผู้ต้องหามาปล่อยตัวที่บริเวณรามอินทรา 46 พร้อมกับบอกว่าให้ผู้เสีหายหาเงินส่วนที่เหลือมาให้ โดยข่มขู่ผู้เสียหายว่าอย่าคิดที่จะหนี เพราะถึงจะหนีก็สามารถติดตามตัวได้ หลังจากได้รับการปล่อยตัว ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด

 

ต่อมาตำรวจกองปราบ  ได้ประสานข้อมูลกับ ชุดสืบสวน สน.สายไหม จนทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหานั้นคือ นายมานะ  จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยกับแฟนสาว  จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงเข้าจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดี


สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายมานะ  รับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวกับพวกจริง จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบเสื้อผ้า โทรศัพท์ รถจักรยานยนต์ คัตเตอร์ ที่ใช้ในการก่อเหตุรวมทั้งสิ้น 8 รายการ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำบันทึกจับกุม บันทึกตรวจค้น และบันทึกตรวจยึด ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 จับแล้ว 2 แก๊งอ้าง ตร.กองปราบ อุ้ม ยัดยา รีดเงิน ประวัติก่อเหตุโชกโชน

 


ในส่วนของนายวีรยุทธ  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันจนติดต่อเข้ามอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม จาก สอบถามเบื้องต้น นายวีระยุทธ ให้การภาคเสธ แต่รับว่าตนกับพวกรวม 4 คน ได้ไปที่เกิดเหตุจริง และผู้ต้องหายืนยันว่ากลุ่มคนที่ก่อเหตุไม่มีใครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบตามปรากฏในข่าวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เนื่องจากกองปราบ เป็นหน่วยที่มีความน่าเชื่อถือสูง หากนำมาอ้างก็จะทำให้ดูน่ายำเกรงขึ้น


เบื้องต้นในคดีดังกล่าวยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย คือ นายบุญทิ้ง  อายุ 50 ปี และนายนิด หรือนายไหม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) 


จาการตรวจสอบประวัติ และหมายจับ พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว มาจำนวนหลายครั้งในหลายพื้นที่ ได้แก่

1. คดีอาญาที่ 3201/2562 พื้นที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2562 นายมานะ กับพวก ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าค้นผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสำอาง ข่มขู่เรียกรับเงิน 2 ล้านบาทแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี (คดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ)

 

2. คดีอาญาที่ 273/2565 พื้นที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2565 นายบุญทิ้ง กับพวก มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์

 

3. คดีอาญาที่ 98/2566 พื้นที่ สภ.บางศรีเมือง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2566 นายมานะ, นายบุญทิ้ง และ นายวีรยุทธได้ร่วมกันกับพวก อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พาตัวผู้เสียหายออกมาจากบ้าน ข่มขู่เรียกเงิน จำนวน 50,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีในข้อหายาเสพติด
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ