ตร.ใช้เวลา 2 ชม.รวบมือ 'ไล่ยิง' น.ศ.อาชีวะดับ อ้างคิดว่าอริเก่า เจอข้อหาหนัก

10 ก.พ. 2567  จากความคืบหน้าคดียิงนักศึกษาอาชีวะ ย่านลาดกระบัง เสียชีวิต 1 รายและ บาดเจ็บอีก 2 ราย เหตุเกิดภายในซอยฉลองกรุง 8 ริมถนนเลียบคลองมอญ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.30 น.ที่ผ่านมา และควบคุมตัวเยาวชนที่ก่อเหตุไว้ได้ 2 คนเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. หลังเกิดเหตุไม่เกิน 2 ชั่วโมง

 

ต่อมาช่วงเช้า  ฝ่ายสืบสวน สน.จรเข้น้อย นำ 2 เยาวชนผู้ต้องหา ไปชี้จุดเกิดเหตุ จุดแรก เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์  โดยคนซ้อนท้าย ได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จ่อยิงผ่านศีรษะคนขับ ใส่คู่กรณีที่ขับรถจักรยานยนต์อยู่ด้านหน้า

 

 

ส่วนจุดที่ 2 เป็นจุดที่หลังก่อเหตุ คนร้ายวนรถจักรยานยนต์กลับ มุ่งหน้ากลับไปทางแยกคลองมอญ ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาชี้จุดเสร็จ ก็ได้คุมตัวกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ

 

เบื้องต้น เยาวชนที่เป็นมือปืน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิง เพราะมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเองเป็นนักศึกษา ของสถาบันแห่งหนึ่ง ส่วนรายละเอียดของเหตุที่ยิงยังไม่ขอเปิดเผย 

 

 

 

 

ด้านพล.ต.ต.เกียรติกล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า มูลเหตุจูงใจเบื้องต้นมาจากเรื่องส่วนตัว มาเจอกันโดยบังเอิญ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ให้การรับสารภาพ ช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 ทุ่มกว่า ทั้ง 2 กลุ่มได้มีปากเสียงกันบริเวณร้านสะดวกซื้อ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะมีการท้าทายโชว์อาวุธ เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มคู่อริเก่าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน

 

 

 

 

ต่อมากลุ่มผู้เสียชีวิต 8 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คน มายังจุดเกิดเหตุ โดยมีผู้ก่อเหตุ 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา เมื่อก่อเหตุเสร็จก็วนรถกลับหลบหนีไป โดยผู้เสียชีวิตได้ตกจากรถจักรยานยนต์ ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันก็แยกย้ายหลบหนีและไปโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และมีดจากทั้ง 2 ฝ่าย 

 

 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา 2 เยาวชนที่ก่อเหตุ ใน 5 ข้อหา คือ

• 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
• 2. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
• 3.พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
• 4.ยิงปืนในทางสาธารณะ
• 5.และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

 

และหลังจากนี้จะต้องร่วมกับสหวิชาชีพสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน และจะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ต่อไป

 

ส่วนที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากในพื้นที่ บก.น.3 ได้เก็บข้อมูลพื้นที่เสี่ยง เยาวชนกลุ่มเสี่ยง ยานพาหนะที่มีความเสี่ยงในการก่อเหตุและเฝ้าระวังสถาบันที่เคยมีเรื่องกัน อีกทั้งยังได้ข้อมูลจากพยานในที่เกิดเหตุหลายปาก ทำให้พิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว

 

ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่ผู้เสียชีวิตตกจากรถจักรยานยนต์ เป็นมุมอับ จึงทำให้ไม่สามารถเห็นภาพขณะเกิดเหตุได้ชัดเจน แต่ก็จะเห็นว่าหลังจากที่ผู้เสียชีวิตตกลงมาแล้ว ไม่นานก็มีรถจักรยานยนต์ 2 คันวนกลับมาดูผู้เสียชีวิต คาดว่าเป็นกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต 4-5 คน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล