ข่าว

สอบ ‘2เมีย-พี่’ คลี่คดี ‘เสี่ยบ่อนไก่’หายตัวไร้ร่องรอย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘เสี่ยบ่อนไก่’ หายตัวเป็นวันที่ 8 ยังไร้ร่องรอย พบเพียงรถฟอร์จูนเนอร์จอดทิ้งนครพนม ‘พล.ต.ท.อิทธิพล’ เข้าควบคุมคดี เร่งสอบ ‘2 เมีย-พี่’

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เดินทางมาประชุม คลี่คดีการหายตัวของ เสี่ยขนบ เจ้าของบ่อนไก่ชน ในจ.ชุมพร

ความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ นายขนบ สมหวัง  อายุ 56 ปี หรือเสี่ยขนบ เจ้าของบ่อนไก่ชน ในจ.ชุมพร  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 กระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร ของเสี่ยขนบถูกจอดทิ้งไว้ ริมถนนบ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ทำให้ครอบครัวเริ่มเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

 

ล่าสุด วันที่ 8 ก.พ.67  ที่ สภ.นาสัก  อ.สวี จ.ชุมพร พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ประชุมชุดสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยตัวเอง ขณะที่พนักงานสอบได้เรียกครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม อาทิ นายสำราญ  สมหวัง  พี่ชายนายขนบ รวมถึงนางวันเพ็ญ หรือเจ้อ้วน ภรรยาคนแรก ผู้ครอบครองรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รวมถึงภรรยาคนที่สองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

นายสำราญ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวน้องชายไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ขณะที่ด้านคดีเจ้าหน้าที่ก็ไม่แจ้งข้อมูลอะไรมากนัก หลังจากที่มีการไล่เรียงกล้องวงจรปิดในพื้นที่ต่างๆ จนพบเบาะแสคนที่ขับรถไปจอด เท่าที่ดูเบื้องต้นรวมถามจากเพื่อนๆไม่มีใครรู้จักหรือคุ้นรูปร่างคนลักษณะตามภาพ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ทุกคนภาวนาขอให้ปลอดภัย ขณะเดียวกันครอบครัวเองก็พยายามทำทุกทางทั้งการไปดูหมอดูเพื่อให้มีข้อมูล

 

ขณะที่ นางอรวรรณ สุขภักดิ์ดี พี่สาวเสี่ยขนบ ที่เปิดร้านจำหน่าย ชา กาแฟและขนมภายในบ่อนไก่ บอกว่า ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วงน้องชายที่หายตัวไปเป็นวันที่8แล้ว และวันนี้ตำรวจได้เรียกทุกคนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่าปกติที่บ่อนไก่จะมีคนมาตีไก่ค่อนข้างเยอะ ประมาณครั้งละ 200-300 คน ขึ้นอยู่กับไก่ที่นำมาชนในวันนั้นๆ หากเป็นไก่ที่มีรางวัลก็จะมีคนมาเล่นเยอะ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เดินทางมาที่สภ.นาสัก โดยเฮลิคอปเตอร์ก็เข้าห้องประชุมทันที โดยบอกเพียงว่าขอประชุมกับเจ้าหน้าที่ก่อน ทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งตามคดีอย่างใกล้ชิด

ภายหลังประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.สุรพงษ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่มีหลักฐานมากพอสมควรที่นำสืบไปยังประเด็นต่างๆที่อาจมีส่วนทำให้นายขนบหายตัว แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะทั้งหมดอยู่ในสำนวน ทั้งเรื่องรถที่ตรวจยึดได้ที่จ.นครพนม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้าเก็บหลักฐานทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุประเด็นหรือสาเหตุที่นายขนบหายตัวไปได้ รวมถึงไม่อาจคาดเดาได้ว่านายขนบยังมีชีวิตอยู่ไหม แต่เชื่อได้ว่าตำรวจพยายามทำให้ดีที่สุด 

 

ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช.ผบ.ตร.เข้ามาดูแลและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมมีการประสานงานร่วมกันทั้ง ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจทางหลวง ช่วยกันทำ ทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งตามคดีอย่างใกล้ชิด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ