ข่าว

ส่ง ป.ป.ช.ฟัน 3 เจ้าหน้าที่รัฐ รับสินบน 10 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘ดีเอสไอ’ ส่งสำนวนคดีหมูเถื่อน ให้ ป.ป.ช. หลังตรวจสอบพบ 3 เจ้าหน้าที่ 'ปศุสัตว์-กรมศุลฯ' เอี่ยวรับสินบน 10 ล้าน

ส่ง ป.ป.ช.ฟัน 3 เจ้าหน้าที่รัฐ รับสินบน 10 ล้าน

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.67 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้นำสำนวนคดีพิเศษที่ 101/2566 ที่พบของกลางในคดี เป็นตู้คอนเทเนอร์บรรจุชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง จำนวน 37 ตู้ และสำนวนคดีพิเศษที่ 104/2566 ของกลางในคดี เป็นตู้คอนเทเนอร์บรรจุชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง จำนวน 21 ตู้ โดยทั้ง 2 คดี มีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณา

โดย ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รอง ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะเลขานุการคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนได้ขยายผลจากคดีพิเศษที่ 59/2566 จึงพบว่านอกจากบริษัทชิปปิ้งเอกชน ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย จึงได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนมีมติเห็นควรแจ้งข้อกล่าวหาและนำส่งทั้ง 2 สำนวนคดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 101/2566 และคดีพิเศษที่ 104/2566 ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง โดยในวันนี้แฟ้มสำนวนคดีมี จำนวน 2 ลัง เอกสารกว่า 6,000 แผ่น โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง 2 หน่วยงาน เบื้องต้นพบจำนวน 3 ราย ที่มีความผิดชัดเจน แต่ดีเอสไอไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นบุคคลใดบ้าง ขอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอน

“ส่วนพฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น คณะพนักงานสอบสวนพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวมีพฤติกรรมทุจริตตั้งแต่ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าและการออกสินค้า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ทั้งยังเกี่ยวข้องในส่วนของพิธีการทางศุลกากร มีอำนาจในการใช้ดุลพินิจต่อการดำเนินการในส่วนต่างๆ”ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าว

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมการทุจริตเรื่องเงินของเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 2 หน่วยงานนั้น พบว่ามีการรับเงินจริง ในจำนวนหลัก 10 ล้านบาท ส่วนเรื่องรายละเอียดเชิงลึกภายในสำนวนและกรอบระยะเวลาในการตรวจสำนวนคดี ขอให้เป็นการดำเนินการของ ป.ป.ช. นอกจากนี้จะเดินทางไปสอบถามถึงความคืบหน้าในส่วนของสำนวนคดีแรกที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งให้ ป.ป.ช. เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกว่า 10 รายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเราต้องการให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง ในสำนวนมีทั้งพฤติกรรมที่เห็นอย่างชัดเจนและที่ถูกกล่าวพาดพิง ดีเอสไอจึงต้องแยกพฤติการณ์ของแต่ละรายให้ ป.ป.ช. ได้พิจารณา

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าคณะพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมพิจารณาในประเด็นของการจะเชิญบุคคลใดบ้างเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในกรณีของการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือชิ้นส่วนไก่ มีแนวโน้มว่าจะมีการพิจารณาเชิญข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าชี้แจงในประเด็นที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูล รวมถึงหารือในประเด็นอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คาดว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนำเข้าตีนไก่และส่งจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้มีการวางแนวทางในการสอบสวนต่อไป เนื่องจากหากพิจารณาจากพฤติการณ์ของสองสามีภรรยา นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร ผู้ต้องหา กลุ่มเดียวกับเฮียเก้า ที่มีการลักลอบนำเข้าตีนไก่จากต่างประเทศและมีการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ก่อนสวมสิทธิ์จำหน่ายไปยังประเทศจีน จากการสืบสวนพบว่ายังมีกลุ่มที่มีลักษณะประมาณนี้ 3-4 กลุ่ม โดยมีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน รวมทั้งพนักงานสอบสวนได้สืบจากเส้นทางการเงิน จึงพบว่ายังมีบุคคลใดอีกที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศของสองพ่อลูก เฮียเก้าและนายกรินทร์ ล่าสุดทั้งคู่ยังไม่ได้มีการประสานวันที่และเวลาในการเข้ามอบตัวกับดีเอสไอแต่อย่างใด แต่เราก็ได้มีการประสานความร่วมมือกับกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ (กตท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร่วมพิจารณาในการขอออกหมายแดง (Red Notice) ถ้าหากทั้งคู่จะไม่กลับเข้ามายังประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการทางคดี เพราะมีหมายจับของศาลอาญาอยู่แล้ว แต่เราก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเอกสารข้อมูลที่ดีเอสไอประสานขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ ทั้ง2หน่วยงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสำนวนคดีพิเศษที่ 101/2566 และ 104/2566 มีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ