แม่-เพื่อน 'น้องโยโกะ' คาดอาจถูกกดดัน ตกใจเงื่อนไขเพื่อนชาย

นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่น้องโยโกะ พร้อมเพื่อนสาว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการเสียชีวิตของ "น้องโยโกะ" ภายหลังออกรายการโหนกระแส

 

โดยเพื่อนน้องโยโกะ ระบุว่า แม่น่าจะยังสงสัยเรื่องของเวลากล้องวงจรปิดที่หายไป เป็นการบันทึกภาพเฉพาะช่วงที่มีคนเดินผ่านจริง อยากให้นิติฯคอนโด ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน เนื่องจากภาพบางส่วนโดยเฉพาะทางด้านหลังห้องที่ประตูไม่ได้ล็อคเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำนั้น นิติฯให้ภาพมาแค่ช่วงเช้าแต่อยากได้ภาพช่วงดึกด้วยขณะที่น้องโยโกะยังอยู่ในห้องด้วย

ส่วนเรื่องภาพบางภาพที่มีการเปิดเผยในรายการเป็นหลักฐานสำคัญหรือไม่ ในส่วนนี้ให้ทางตำรวจเป็นคนชี้แจงดีกว่า ส่วนข้อความเงื่อนไขต่างๆ เช่น ให้ลบเฟซบุ๊ก ลบไอจี แม่น้องโยโกะมาทราบตอนน้องเสียชีวิตแล้ว ยอมรับว่าตกใจและไม่เคยทราบมาก่อน โดยเห็นจากโทรศัพท์ของน้อง มองว่าเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์เยอะเกินไป ขณะที่เพื่อนเสริม มองว่าเป็นการกดดันกันเกินไปเช่นกัน เพราะโยโกะอยากไปไหนมาไหนอิสระ อยากออกไปเจอ ไปคุยกับเพื่อนบ้าง

 

 

ส่วนเงื่อนไขนี้จะเป็นฉนวนเหตุให้น้องโยโกะจบชีวิตตัวเองได้หรือไม่ เพื่อนสาวตอบว่า คิดว่าแม่ก็สงสัยเหมือนกันอาจจะทำให้กดดัน เครียด แต่สุดท้ายก็ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคืนวันเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้ไปงานเลี้ยงด้วย แต่โดยปกติโยโกะเป็นคนร่าเริงเข้มแข็งมีอะไรก็จะบอกเพื่อน ส่วนเรื่อง ความรักรู้ว่ามีแฟนคบห่างกันมาประมาณ 1 ปี และรักกันดี แต่ไม่เคยมีใครได้เห็นหน้า หรือรูปของเพื่อนชายมาก่อน

ขณะที่แม่น้องโยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายชายยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งวันที่ 17 มกราคมจะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่สน. คลองตัน เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่อยากสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดส่วนที่ภาพหายไป 

นอกจนากนี้ตั้งข้อสังเกตวันที่พบร่างน้อง ทำไมฝ่ายชายที่ไปถึงคอนโดก่อน ไม่ให้นิติคอนโดพาขึ้นไปเปิดห้องตั้งแต่ตอนนั้น แต่กลับส่งข้อความให้หลานมาเปิดห้อง ทั้งที่รู้รหัส และวิธีการเปิดห้องทุกอย่าง ทำไมต้องรอให้หลานมา ทั้งที่ญาติไม่รู้รห้ส

 

แม่น้องโยโกะยอมรับ แชทสุดท้ายของน้องโยโกะที่คุยกับเพื่อนชาย เห็นว่ามีปากเสียงและมีการส่งภาพบางอย่าง ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่ามอง การส่งภาพมาให้จะเป็นการข่มขู่หรือไม่ เพื่อนสาวตอบแทน ว่า ประเด็นนี้ให้ตำรวจเป็นคนตอบ เพราะเป็นหลักฐานในคดีที่จะนำไปมอบให้กับทางตำรวจ ซึ่งภาพที่ส่งมานั่น เป็นการคุยกัน ในวันที่ 31 ต.ค..66 หลังจากโยโกะเข้าห้องไปแล้ว

 

 

นอกจากนี้เพื่อนยังตั้งข้อสังเกตถึงขวดไซยาไนด์ที่อยู่ในตู้เซฟว่า ทำไมถึงต้องใส่ถุงซิปล็อคแล้วเก็บไว้ในตู้เซฟทั้งที่ขวดสามารถตั้งอยู่ได้ และการเก็บในตู้เซฟเพียงอย่างเดียว น่าจะปลอดภัยเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องใส่ถุงซิปอีกชั้นนึง

 

 

ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดู ข้อมูลการสั่งพัสดุย้อนหลัง 1 ปี มองว่าน่าจะต้องมองว่าน่าจะตรวจสอบที่มาได้ 

 

 

ขณะเดียวกันยอมรับว่าในกลุ่มเพื่อน ที่เคยมีการคุยกันช่วงที่มีข่าวไซยาไนด์ แต่เป็นเพียงการคุยกันตลกๆทำคอนเทนท์ โดยไม่มีท่าทีว่าโยโกะจะไปซื้อหรือสั่งมาลองเลย

 

 

ส่วนตัวยังเชื่อ 50 50 ว่า โยโกะอาจจะฆ่าตัวตายเองก็ได้ แต่ที่ผ่านมาเป็นคนที่เข้มแข็งและมักจะเป็นคนให้คำปรึกษาให้กำลังใจเพื่อนเวลาทะเลาะกับแฟน หากผลทั้งหมดออกมาว่าโยโกะเป็นคนฆ่าตัวตายจริง คิดว่าเป็นอาจจะมีผลมาจากการถูกกดดัน ในส่วนนี้ก็อยากให้ทางตำรวจเป็นคนตรวจสอบ

 

 

อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ฝ่ายชายออกมามาตอบข้อสงสัยทั้งหมด และยืนยันไม่ได้ปรักปรำใคร โยโกะอาจจะฆ่าตัวตายเองก็ได้