ข่าว

'อ.หมู' เผย 3 ช่องทาง 'ไซยาไนด์' เข้าสู่ร่างกาย 'น้องโยโกะ' เป็นเหตุเสียชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อ.หมู' แนะตรวจหาที่มาทำไม 'ไซยาไนด์' อยู่ในร่างกาย 'น้องโยโกะ' เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ตอบข้อสงสัยครอบครัว

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยถึงสาเหตุพบ "ไซยาไนด์" ในร่างกาย "น้องโยโกะ" กว่า  1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งปกติทางการแพทย์หากเกิน 1 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ถือว่าเป็นพิษที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ แต่ต้องหาได้รับสารพิษอย่างไร กินหรือสูดดมหรือสัมผัส โดยเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะผ่านกระแสเลือดและส่งผลอวัยวะต่างๆในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนในระดับเซลล์ สมอง ไต ไวต่อการขาดออกซิเจน ทำให้สมองบวมและเซลล์ท่อไตได้หยุดบางส่วน ขณะเดียวกันอวัยวะอื่นๆจะคลั่งเลือด 
 

โดยหากพบสารไซยาไนด์อยู่ในที่เกิดเหตุ ในลักษณะแคปซูลหรือเม็ดแคปซูลอาหารเสริมหรือใส่ในขวด ก็สันนิษฐานได้ว่าผ่านการกิน ซึ่งต้องดูหลักฐานอื่นประกอบด้วย หรือแม้กระทั่งการสัมผัส ต้องตรวจที่มือว่ามีสารไซยาไนด์ติดด้วยหรือไม่

 

รศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้จะเป็นจุดสำคัญที่จะเชื่อมว่า ถ้าหากกินในลักษณะแคปซูลในสถานที่เกิดเหตุ ได้มาจากที่ไหน หากเป็นขวดต้องตรวจสอบว่าใครเป็นคนสั่ง ดังนั้นการผ่าชันสูตรศพยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนทันทีว่า เป็นการฆ่าตัวตาย ฆาตกรรม หรือ อุบัติเหตุ ต้องอาศัยหลักฐานอื่นประกอบด้วย

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ย้ำว่า ผลการชันสูตรไม่ยังสามารถบอกได้ว่าสารไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายอย่างไร เนื่องจากเป็นการตรวจจากเลือด เมื่อเข้าสู่ร่างกายผ่านลงกระเพาะอาหาร มันก็จะย่อยสลาย ฉะนั้นต้องตรวจอาหารในกระเพาะอาหาร แต่อันนี้ตนยังไม่มีข้อมูล ถ้าไปตรวจในกระเพาะอาหารแล้วเจอ เป็นการรับจากการกิน


ส่วนที่ครอบครัวยังติดใจการเสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่ครอบครัวก็ต้องตั้งข้อสงสัยถึงประเด็นนี้ว่า มีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องและทำให้เสียชีวิตหรือไม่ รวมถึงประเด็นต่างๆยังสามารถเป็นแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจจะต้องไปดำเนินการว่าที่มาของไซยาไนด์มาจากอะไรกันแน่ ใครเป็นคนสั่งซื้อ ในเมื่อวันนี้มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต้องเอาทุกเหตุการณ์มาตรวจสอบเชื่อมโยงว่ามีคนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ