'สนธิญา' คัดค้านสั่งปิดผับคดีสมรักษ์ เรียกร้อง มท. ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม คดีเด็ก 17 ปี แจ้งจับนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 

นายสนธิญา ยืนยัน นายสมรักษ์มีความผิดชัดเจนตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปกระทำอนาจาร แม้ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม แต่ขอเปรียบเทียบกรณีที่มีโจรขึ้นบ้าน แล้วเจ้าของบ้านยิงคนร้าย แน่นอน เจ้าของบ้านต้องโดนคดีอาญา แต่สุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาเจตนาว่า ยิงเพื่อก่อเหตุหรือป้องกันตัว สุดท้ายอยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลว่าจะผิดหรือไม่ ซึ่งตนเองไม่ก้าวล่วง

ทั้งนี้มองว่านายสมรักษ์ไม่ตั้งใจจะไปทำอย่างนั้นที่ขอนแก่น  เป็นการเกิดขึ้นเฉพาะหน้า พบกันในสถานบันเทิง มีหลายคนไปถ่ายรูปกับนายสมรักษ์ น้องคนดังกล่าวก็ไปถ่ายรูปและนั่งกับนายสมรักจนผับเลิก และจากวีดีโอที่ปรากฎไม่พบมีการบังคับขู่เข็ญไปในสถานที่ ซึ่งขณะนั้นอาจจะมีการดื่มสุรา สภาพร่างกายของแต่ละคนจะเป็นอย่างไง ต้องตรวจสอบอีกครั้ง 

นายสนธิญาตั้งข้อสังเกตุรูปที่น้องถ่ายนายสมรักษ์หลับคือช่วงเวลาใด และน้องส่งข้อความหาเพื่อนเมื่อไร เพราะดูเวลาเข้าออกโรงแรมของน้อง ใช้เวลาประมาณ 35-40นาที 

นอกจากนี้เตือนไปยังผู้ปกครองและคนรอบตัวของน้อง เรื่องการให้ข้อมูลที่พบว่า ไม่ตรงกัน อาจเข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 137 คือให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือข้อมูลเป็นเท็จกับพนักงาน

ส่วนการตรวจสอบสถานบันเทิง กรณีปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึงเข้าใช้บริการ ส่วนตัวมองว่าไม่ควรสั่งปิด เนื่องจากภาพในวีดีโอพบว่าร้านมีการตรวจสอบตามระบบระเบียบและค่อนข้างละเอียด ซึ่งตามกฎหมายคนไทยต้องพกบัตรประชาชนไทยไปทุกที่ หากไม่พกมีความผิด ดังนั้นหากจะไปเอาผิดกับสถานบันเทิง เป็นธรรมหรือไม่ เพราะแต่ละที่ก็ลงทุนกันหลายล้าน ส่วนหากเด็กอายุ 17 ปี มีการใช้บัตรประชาชนปลอมเข้าไปภายในสถานบันเทิง ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องกวดขัน  

นายสนธิญา ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายสมรักษ์ เด็ก 17 ปี และสถานบันเทิงเป็นการส่วนตัว ไม่ได้เดินทางไปขอนแก่นมากว่า 15 ปีแล้ว แต่ยอมรับการออกมาในวันนี้ ใครจะมองว่าหิวแสงก็ไม่เป็นไร ตนเองต้องการให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ด้านนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตัวแทนรับหนังสือ ยืนยันว่า จะนำข้อร้องเรียนของนายสนธิญาไปตรวจสอบ เบื้องต้น พบว่าสถานบริการดังกล่าวมีการกวดขันผู้เข้าใช้บริการทุกคนที่เข้าไป แต่อาจมีข้อผิดพลาดจากการที่น้องวัย 17 ไม่ได้ให้ดูบัตรประชาชนจริง แต่ให้ดูภาพถ่ายบัตรประชาชนจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงมาไทยจะเข้มงวดต่อไป