ชีวิต 'ผู้การเต่า' ไม่ง่าย เมื่อต้องปราบทุจริต เจอตอใหญ่ ต้องกล้าลุย

คดีปราบทุจริตที่เพิ่งสะเทือนวงการการเมือง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ปปป.-ป.ป.ช.-ป.ป.ท. จับกุมลูกเขยของเจ้าพ่อใหญ่ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" แต่ไม่หวั่นเหยียบจมูกเสือ เพราะในชีวิตการทำงานตั้งรับแรงกระทบมาไม่น้อย เป็นตำรวจที่ไม่กลัวโดนย้าย เชื่อว่าทำดี ทำถูกต้อง ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ฉะนั้นกรณีนี้นายชาดาเป็นคนนักเลง หากไปกลั่นแกล้ง เชื่อว่าท่านสู้และสู้ไม่ถอยด้วย "ตั้งแต่วันที่จับลูกเขยท่าน ท่านบอก ไม่รู้ว่าเขาไปทำผิดอะไร ถ้าผิดจริงก็ว่ากันไปเลย ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ผิดก็ฝากดูแลด้วย"

การปราบผู้มีอิทธิพล นายชาดาเคยพูดว่า ต้องปราบใกล้ๆตัวให้หมดก่อน ซึ่งก็มองว่า การทำงานแบบนี้ก็ส่งผลดีกับท่านด้วย ทำงานอย่างสบายใจไม่ต้องกลัว นี่แหละ จะปราบผู้มีอิทธิพล ต้อง "ชาดา"

หลักการทำงาน
เมื่อคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ จะต้องได้รับความพึงพอใจหรือการแก้ไขกลับไปทำงานอย่างเป็นไปตรงมา ไม่รังแกใคร ตามสโลแกน "ความยุติธรรมไม่ต้องร้องขอ" สิ่งเหล่านี้ถ้าจะทำแล้วมีผลกระทบกลับมา ก็เป็นสิ่งที่รับได้อยู่แล้ว ซึ่งชอบทำงานด้านสืบสวนอาชญากรรม เป็นลูกมือเหล่ายอดนักสืบ

ปราบทุจริตเจอตอใหญ่ 
เราต่อสู้กับทุจริตคอรัปชั่น มันเป็นหน้าที่ ไม่กลัว ไม่ได้ยึดหลักว่า จะถูกย้าย เพราะถ้าเป็นตำรวจแล้วกลัว ก็ไม่ต้องเป็น บางคนกลัว แต่สำหรับ "ผู้การเต่า" ไม่ได้อยู่ในสมอง รวมถึงเคยรับปากกับ ผบ.ตร. และ ผชบ.ก. "อยากให้เป็นเสือตัวจริง ไม่ใช่เสือกระดาษ"  และอยากให้สร้าง ปปป. ขึ้นมา เพราะเป็นหน่วยที่มีอำนาจและทำงานได้มาก หากคนกล้าที่จะทำ ซึ่งเคยจับเสี่ยระดับแสนล้าน อีกฝ่ายขอร้องให้จบ แต่เราไม่ยอมจบ หรือ มีหลายเคสที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ตำรวจสอบพบหลักฐาน ก็ส่งไปให้ ป.ป.ช. ทำต่อ 
 

มือปราบคดีดัง ชีวิตไม่ง่าย 
เกือบทุกเรื่องที่ทำสำเร็จ เพราะไม่ได้มองว่า คดีใหญ่คดีเล็ก แต่มองว่าเป็นหน้าที่ ตำรวจเป็นตัวจักรของการทำงานหลายคดี ทำคดีมาเยอะมาก เช่น ฆ่านางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย  ก็เป็นคนที่ทำงานสืบข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งหมด , คดีป็อปคอร์น , คดีปล้นรถน้ำมันของวัฒนาอัศวเหม , คดีจับอธิบดีกรมอุทยานเรียกรับสินบน ซึ่งที่ผ่านมาวิสามัญคนร้ายจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ภูมิใจอะไร มองเป็นการทำงานฟลูทีม ทุกคนภาคภูมิใจหมด ผ่านการวิสามัญจำนวนมาก ทำเสร็จ ก็ลืม รวมถึงผ่านชีวิตมาเยอะ จนมีภูมิคุ้มกัน ไม่กลัวถูกย้าย เคยโดนย้ายไปอยู่อีสาน ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่วันหนึ่งฟ้าเปิด ก็กลับมา ตำรวจต้องยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ผู้มีอิทธิพลไม่น่ากลัวเท่า "เจ้านาย"
สิ่งที่น่ากลัว คือ นายของเราเอง เป็นคนที่สามารถสั่งหันซ้าย-ขวา สั่งผิดเป็นถูกได้ นี่แหละผู้มีอิทธิพลตัวจริง แต่สำหรับ "ผู้การเต่า" กล้ายืดอก นายก็ไม่กลัว เคยขัดนายระดับถึง อดีต ผบ.ตร. มาแล้ว ถึงขั้นเผาไม่ใยดี มีคำพูดปรามาส ไม่ให้โต หรือ ดองมันซะ 

"ในเมื่อคุณสั่งอะไรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากผิดเป็นถูกผมว่าคุณเป็นตำรวจชั้นเลวเลย แต่ผมบอกไม่ได้ว่าใคร บางคนดูเหมือนตำรวจน้ำดี แต่จริงๆเบื้องหลังเลวมาก" 

ถูกสกัดดาวรุ่ง ชวดตำแหน่ง 
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เล่าว่า จะได้ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็มีคนไม่ให้เป็น เมื่อคุณมีพวกทำผิด จะขอให้ช่วย พลิกดำเป็นขวา ไม่ใช่นิสัยของตน ซึ่งถ้าเป็นคนนิสัยแบบนั้น ไม่สามารถพาหน่วยมาถึงทุกวันนี้ได้ ย้ำสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือนายของเรา

ขึ้น รอง ผบช.ก. สานต่อปราบทุจริต 
รับหน้าที่เดิมต่อคุม ปปป. เพิ่มความเข้มแข็ง เพราะอยู่ตรงนี้ เพื่อทำงานตอบแทนภาษีสังคม ต้องสู้กับอิทธิพล ซึ่งหน่วยนี้จะเป็นด่านแรก สำหรับตำรวจหน้าใหม่ ฝึกความรู้ความสามารถหลายๆด้าน