'ลูกจ้าง' เข้าตรวจหาสารเสพติดในเส้นผม เป็นหลักฐานเอาผิดนายจ้างโหด

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำ น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 21 ปี สาวที่อ้างว่าถูกนายจ้างเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านภาษีเจริญ ทำร้ายร่างกายมานานหลายปี เข้าตรวจเส้นผม เพื่อหาสารเสพติดและตรวจสภาพจิตใจว่า ร่องรอยบาดแผลตามตัวเกิดจากการทำร้ายร่างกายตัวเองหรือไม่ 

พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากกรณีผู้เสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายจากนายจ้าง แต่ฝั่งนายจ้างอ้างว่า ผู้เสียหายมีพฤติการณ์ลักทรัพย์ ใช้ยาเสพติดจนเห็นภาพหลอนและทำร้ายร่างกายตัวเอง ซึ่งคำให้การทั้งสองฝ่ายจะไม่เหมือนกัน 

ดังนั้นต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องสารเสพติด ผ่านการตรวจเส้นผม ใช้เวลาประมาณ 7 - 10 วัน รวมถึงใช้นักจิตเวชทดสอบความตึงเครียดว่าทำร้ายตัวเองหรือมีคนมาทำร้าย ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่จะเร่งประสานอย่างเร็ว ซึ่งจะเป็นแบบทดสอบที่ได้รับมาตรฐาน 

การตรวจหาสารเสพติดในเส้นผม สามารถตรวจหาสารเสพติด 28 ชนิด อาทิ ยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยากล่อมประสาท ความยาวของเส้นผม 20 เซนติเมตรของผู้เสียหาย จะสามารถตรวจย้อนหลังได้ถึง 1 ปีครึ่ง เป็นช่วงระหว่างถูกทำร้ายร่างกายพอดี โดยการตรวจหาสารเสพติดจะไม่ซ้ำกันในส่วนของ รพ.ตำรวจ เราจะแยกกันตรวจเพื่อได้ข้อสรุปอีกครั้ง

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า จากนี้ตนขอประสานไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อเอาตัวพยานของนายจ้างที่เคยพักอาศัยอยู่กับผู้เสียหาย อ้างว่าเคยพบอุปกรณ์เสพยาในห้องพัก เพื่อนำตัวมาตรวจด้วยและให้ความเป็นธรรม หากพบสารเสพติดในตัวพยานรายดังกล่าวหรือผู้เสียหายก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย

ส่วนเรื่องบาดแผลร่างกายของผู้เสียหาย ทราบว่าสถาบันนิติวิทย์ฯ มีเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจได้อย่างละเอียดว่าเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเองหรือมีใครมาทำร้าย องค์ยืนยันว่าคนโกหกได้ แต่วิทยาศาสตร์โกหกไม่ได้

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังมาขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด รู้สึกสบายใจขึ้น ยืนยันถูกทำร้ายร่างกายจริง เพราะนายจ้างเป็นผู้มีอิทธิพล และยืนยันไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิด ยานอนหลับ หรือจากล่อมประสาท รวมถึงที่ผ่านมาไม่เคยเข้าพบจิตแพทย์ และไม่เคยมีอาการซึมเศร้า ระหว่างนี้ก็จะรอผลการตรวจสารเสพติดผ่านเส้นผม เพื่อพิสูจน์ความจริง