แม่วอนตำรวจจับคนจ้างวานฆ่าลูกชาย 'ไม่ได้ไม่ยอมเผาศพ'

จากกรณีคนร้ายขี่ จยย. เข้ามาในปั๊มน้ำมัน ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงทนายต้อย – มานพได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา นางอุทัย เสถียรเขตต์ นางศันสนีย์ เจริญศึกษา นายศรายุทย์ เสถียรเขตต์ แม่และพี่ทนายมานพ เปิดใจกับทีมข่าวคมชัดลึก ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 15 ส.ค.2565 ที่ผ่านมาภายในปั๊มน้ำมัน  ช.อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง คนร้ายมือปืนขับขี่รถ จยย.เข้ามาใช้อาวุธปืนจ่อยิง ทนายต้อย-มานพ เสถียรเขตต์ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ ที่นั่งอยู่ในปั๊ม ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทางญาติของทนายมานพพ เปิดเผยกับ คมชัดลึก ว่าวันที่ 7 ก.ย. 2565 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปรามได้นำกำลังเข้าปิดล้อมลานจอดรถ รพ.ระยอง อ.เมืองระยอง จับกุมนายเสถียร อายุ 52 ปี  ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการจับกุมนายปิติ อายุ 54 ปี มือปืน และนายนิติพนธ์ หรือแบน อายุ 57 ปี คนชี้เป้าและพามือปืนหลบหนีไปที่ กทม. และ จ.แพร่

จากนั้นตำรวจกองปราบ และตำรวจ บช.ภ. 2 ได้ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยกว่า 8 แห่ง พบปืนลูกโม่ สมิทแอนด์เวสสัน .38 สีดำ 1 กระบอกในบ้านหลังหนึ่ง ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ต่อมากองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจเปรียบเทียบเกลียวปืนกระบอกดังกล่าวกับหัวกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุแล้วยืนยันว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันว่านายเสถียร อายุ 52 ปี เป็นผู้จัดหาและสั่งซื้อปืนกระบอกนี้ในช่วงก่อนเกิดเหตุเพียง 10 วัน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้นนายเสถียรให้การปฏิเสธอ้างเป็นเพียงลูกจ้างอัตราจ้างของ อบจ. รวมทั้งยังเป็นพ่อบ้านและช่วยขับรถให้นายก จ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนขยายผล นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่ถูกจับกุมตัวไปสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับนายชัชชาย หรือขาว ผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญเป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ระยอง อีกหนึ่งคน นับเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมไปถึงตัวผู้จ้างวาน เนื่องจากเป็นผู้นำเงิน 80,000 บาทไปจ่ายให้มือปืนและเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้จ้างวานกับกลุ่มมือปืนที่รับงานสังหารครั้งนี้ จากนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

นายกิตติภัทร กุลไชย ทนายความ กล่าวว่าแม้คดีนี้จะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนทราบว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้อีกหลายคนและมีผู้ถูกออกหมายจับแล้วหลบหนีไป นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ 15 สิงหาคม 2565 จนถึง 15 สิงหาคม 2566 ระยะเวลาผ่านไป 1 ปี เศษ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ยังไม่มีการออกหมายเรียกผู้ร่วมจ้างวานฆ่ามารับทราบข้อกล่าวหาตามคำแนะนำของศาลให้ออกหมายเรียก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหามีตำแหน่งหน้าที่เป็น นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยอง ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวได้มาจากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกๆ ด้านของ พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย อดีต ผกก.สืบสวน 2 บช.ภ.2 กับพวกและการสืบสวนของ กองปราบปราม ที่พนักงานอัยการอ้างเป็นพยานในคดี และ พ.ต.อ.บัญชา กับพวกได้เบิกความในชั้นศาลไปแล้วว่านักการเมืองท้องถิ่น กับพวกเกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างไร แต่คดียังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ พ.ต.อ.บัญชา ถูกย้ายด่วนไปเป็น ผกก.ฝ่ายอำนวยการ บช.ภ.5 โดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งที่ไม่ได้สมัครใจย้าย จึงร้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งขยายผลจับกุมผู้บงการสังหารทนายมานพ ทางครอบครัวเชื่อว่าปมการสังหารน่าจะมาจากการเมืองท้องถิ่น

ส่วนหลักฐานมีความชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนตำรวจกองปราบจะทราบข้อมูลหรือไม่ตนเองไม่ทราบ แต่อยากให้ตำรวจเร่งรัดในการดำเนินคดี เพราะขณะนี้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่เผาศพ เพราะรอจนกว่าจะจับตัวผู้บงการได้ ในวันอังคารที่ 24 ตุลาคมนี้ ส่วนผู้บงการ และผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ กองปราบปราบ จะขยายผลสืบสวนสอบสวนเอาผิดได้หรือไม่มารอดูกัน