เปิดใจ หนึ่งในผู้เสียหาย เครือข่าย 'ดอกแก้ว' หลอกโอนเงินซื้อไอโฟน

19 ต.ค. 2566 จากกรณีที่ตำรวจไซเบอร์จับกุมตัว น.ส.ดอกแก้ว  หลังรับจ้างเปิดบัญชีม้า หลอกขายไอโฟน จนนักเรียน ม.6 ถูกหลอกเสียเงินไปเกือบ 2 หมื่นบาท แต่ไม่ได้โทรศัพท์ จนเกิดความเครียดตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ล่าสุด ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ วัย 31 ปี ที่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา

ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวว่า ตนเองตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งนี้เช่นกัน เนื่องจากขณะนั้นตั้งใจจะซื้อโทรศัพท์ ยี่ห้อไอโฟน อีกเครื่องมาใช้ทำงานขายของออนไลน์ แล้วก็มีเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "Jane Shop Mobile ซื้อขายโทรศัพท์ ผ่อนไปใช้ไป" จึงเข้าไปดูในเพจ ก็พบว่ามีการโพสต์ภาพหน้าร้าน ระบุว่าอยู่ที่เซ็นทรัลลำปาง และลงว่ามีการซื้อขาย นัดรับหน้าร้านจริง ซึ่งดูน่าเชื่อถือ

จากนั้นจึงได้ทักไปสอบถามที่เพจดังกล่าว บอกว่าสนใจซื้อผ่อนโทรศัพท์มือถือรุ่นไอโฟน 12 ราคาประมาณ 20,000 บาท ทางเพจก็แจ้งว่าให้ทำเรื่องวางเงินดาวน์ จำนวน 5,990 บาท ก็จะส่งสินค้าให้ทันที แล้วค่อยเซ็นเอกสารทำสัญญาหลังวางเงินดาวน์ พร้อมส่งรูปภาพบัญชีให้โอนเงินเข้าไป เป็นชื่อบัญชีของ น.ส.ดอกแก้ว โดยระบุด้วยว่า ให้เขียนตรงบันทึกช่วยจำว่า (วางดาวน์เครื่อง)

ก่อนที่จะโอนเงินได้มีการตรวจสอบก่อน ด้วยการนำชื่อบัญชีของ น.ส.ดอกแก้ว ไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตว่าอยู่รายชื่อบัญชีแบล็คลิสต์หรือไม่ แต่ก็ไม่พบจึงโอนเงินไป ที่ผ่านมาเห็นข่าวมิจฉาชีพเยอะ จึงตรวจสอบชื่อบัญชีแบบนี้ทุกครั้งที่จะซื้อของออนไลน์อยู่แล้ว

เธอเล่าอีกว่า เมื่อโอนเงินเข้าไป พร้อมเขียนบันทึกช่วยจำว่า วางดาวน์เครื่อง ทางเพจกลับบอกมาว่า ตนทำรายการไม่ถูกต้อง โดยต้องเขียนคำตามที่บอกให้ครบ ไม่อย่างนั้นระบบ AI จะไม่สามารถตรวจจับสลิปได้ และไม่พบยอดชำระ จึงให้ทำรายการโอนเข้าไปอีกครั้ง และบอกว่า ไม่ต้องกังวล ยอดเก่าที่โอนเข้าไปแล้ว จะคืนให้หลังทำรายการถูกต้อง ตอนนั้น จึงรู้ตัวทันทีว่าโดนหลอก จึงไม่โอนเงินเข้าไปอีกครั้ง และเข้าแจ้งความสน.ห้วยขวาง ทันที 

"ระหว่างนั้น แกล้งถามทางเพจว่า เงินไม่พอโอนแล้ว หากจะยกเลิกต้องทำอย่างไร ทางเพจก็ตอบว่า ต้องทำรายการยกเลิก โดยโอนค่ายกเลิกมา 4,990 บาท จึงได้บอกไปว่า ให้หักเอาจากที่โอนไปแล้ว แต่ทางเพจบอกว่า ไม่ได้ มันคนละยอดกัน ซึ่งพอทางเพจรู้ว่าเราเริ่มรู้ตัวแล้ว จึงทำการปิดเพจทันที"

เธอยังระบุอีกว่า ช่วงเย็นวันที่ 15 ต.ค. 2566 เห็นข่าวของน้องพลอย และเห็นว่าบัญชีม้า เป็นชื่อเดียวกัน และวิธีการเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่ชื่อเพจที่ใช้ จึงตกใจ และรู้สึกสงสารน้องพลอย เพราะยอดที่โอนไปเยอะกว่ามาก  ยังโชคดีที่ตนยังดีที่รู้ตัวทัน แต่ก็รู้สึกแย่ว่า ขนาดระวังตัวมากแล้วมีการตรวจสอบรอบคอบแล้ว ก็ยังตกเป็นเหยื่อได้ ดังนั้นขอฝากเป็นอุทาหรณ์ว่า หากจะซื้อสินค้าที่มีราคาสูง อย่าซื้อทางออนไลน์

สำหรับคดีของตัวเองพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้นัดเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เงินคืนแต่ก็ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับบัญชีม้าอย่างจริงจัง เพราะกลุ่มบัญชีม้า ยอมเปิดบัญชีเพื่อแลกเงินเล็กน้อย แต่กลับสร้างความเสียหายให้คนอื่นมหาศาล เพราะทำให้กลุ่มมิจฉาชีพทำงานง่ายขึ้น