ระเบิดหน้ารง.ย่านบางขุนเทียนเด็กบาดเจ็บ2ราย | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 เมษายน พ.ต.ท.สิทธิวงษ์ ยิ่งยวด พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าบริษัท เคแอล แกรนิต เลขที่ 31/48-49 ซอยเอกชัย 10/1 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุรนิตย์ พรหมบุตร รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

 ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายแกรนิต บริเวณหน้าร้านซึ่งเป็นจุดระเบิดพบหลุมขนาดใหญ่กว้าง 30 ซม.ลึก 20 ซม. พบเศษพลาสติกป้ายร้านและเศษแก้วเกลื่อนกระจาย โดยแรงระเบิดยังทำให้กระจกสำนักงานสหกรณ์ รัตนโกสินทร์สี่ล้อเล็ก จำกัด เลขที่ 31/46-47 ซึ่งอยู่ติดกันแตกเสียหาย 2 บาน นอกจากนี้ยังมีรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วช 2713 กทม ที่วิ่งผ่านมากระจกด้านหลังข้างซ้ายแตกเป็นรูได้รับความเสียหายเล็กน้อย เบื้องต้นทราบว่ามีประชาชนที่เดินผ่านบริเวณที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บ 2 รายถูกนำส่งรพ.บางขุนเทียนไปก่อนหน้าทราบชื่อต่อมา นางวันวิสา พงษ์รอด อายุ 33 ปีได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า หัวไหล่ซ้าย และขาขวา และด.ญ.วรรณวิภา เรียนรอบกิจ อายุ 14 ปี ลูกสาวของนางวันวิสา ได้รับบาดเจ็บที่ข้อพับขาทั้ง 2 ข้าง ทั้งคู่อาการไม่สาหัส

 จากการสอบสวนนายสุรชัย อังสุมาลี อายุ 35 ปี เจ้าของบริษัท เคแอล แกรนิต ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนพักผ่อนอยู่ชั้นบนได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมาจากบริเวณหน้าร้านจึงรีบวิ่งลงมาดูพบหลุมขนาดใหญ่บริเวณหน้าร้านซึ่งตนตั้งถังขยะไว้ ส่วนสาเหตุการวางระเบิดในครั้งนี้ตนคาดว่าคนร้ายน่าจะพุ่งเป้าไปที่สหกรณ์รัตนโกสินทร์สี่ล้อเล็ก จำกัด ซึ่งมีนางนภัสสร รัศมีสุริเยนทร์ อายุ 38 ปี พี่สาวตนซึ่งเป็นเจ้าของมากกว่า โดยคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจการเดินรถสี่ล้อเล็ก ที่พี่สาวตนได้รับสัมปทานจากขสมก.อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเส้นทางเดินรถในกทม. ราว 10 เส้นทาง และมีรถสี่ล้อเล็กซึ่งเป็นสมาชิกมากกว่า 1 พันคัน แต่ช่วงที่ผ่านมามีสหกรณ์หรือผู้ประกอบการรถสี่ล้อเล็กรายอื่นมาวิ่งทับเส้นทางทำให้เกิดปัญหาและขณะนี้อยู่ระหว่างการร้องเรียนไปยัง ขสมก. ซึ่งจะมีการนัดประชุมกันเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.)

 ด้านพล.ต.ต.กรีรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าเก็บกู้วัตถุระเบิดทราบว่าระเบิดดังกล่าวเป็นชนิด เอ็ม67 แต่การที่คนร้ายจะนำมาวางไว้หรือขว้างมาเบื้องต้นยังต้องรอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจการเดินรถสี่ล้อเล็กที่มีการเดินรถทับเส้นทางกันจากผู้ประกอบการรายหนึ่งย่านทุ่งครุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวีดีโอวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ที่หน้าร้านที่เกิดเหตุเพื่อดูว่าสามารถจับภาพคนร้ายขณะนำระเบิดมาวางได้หรือไม่ โดยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด