ข่าว

'ตร.ไซเบอร์' เตือนภัยวัยเก๋า เจอหยอดคำหวาน หลอกลงทุน สูญเงินไม่รู้ตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ตำรวจไซเบอร์" เตือนภัยวัยเก๋า อาจตกเป็นเหยื่อ "มิจฉาชีพ" ทักมาในโลกออนไลน์ หยอดคำหวานก่อน "ชวนลงทุน" สุดท้ายสูญเงินไม่รู้ตัว

14 ต.ค. 2566 การหลอกลวงในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้ง Facebook Instagram รวมถึงแอปพลิเคชันหาคู่ ที่มักจะมีรูปแบบเดิมๆ โดยการเริ่มหาเหยื่อที่เป็นคนมีอายุ หน้าที่การงาน ฐานะดี แล้วสร้างบัญชีปลอม เป็นเพศตรงข้ามกับเหยื่อ จากนั้นก็จะทำทีมาติดต่อขอเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นมิจฉาชีพที่มาหลอกดังเช่นกรณีล่าสุดที่ ลูกชายพาแม่วัย 75 เข้าแจ้งความว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ร่วมลงทุนทองคำ สูญเงินไปกว่า 18 ล้าน 

 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ระบุว่าการหลอกลวงในลักษณะนี้ มิจฉาชีพจะทำทีเป็นพูดคุยเรื่องทั่วไปก่อนจนเหยื่อไว้ใจก็จะเริ่มชวนพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน โดยอ้างว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน หรือ ตนเองมีรายได้จากการลงทุนสินทรัพย์ต่างๆ  หวังดีอยากให้เหยื่อมีรายได้เพิ่ม จากนั้นจะชวนให้ลองลงทุนผ่านเว็บไซต์ หรือเเพลตฟอร์มการลงทุนปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา

 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. เตือนภัยผู้สูงอายุถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุน

 

 

โดยในช่วงเเรกเหยื่ออาจลงทุนในจำนวนเงินที่ไม่มาก ซึ่งจะได้รับผลตอบเเทนจริง เเต่เมื่อเหยื่อใช้เงินลงทุนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะไม่สามารถถอนเงิน หรือถอนกำไรออกมาใช้ได้ โดยมิจฉาชีพจะอ้างเหตุผลต่างๆ เช่น แจ้งว่าอย่าเพิ่งถอนเงินรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน และหลอกลวงให้เหยื่อเพิ่มเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรือหากจะถอนเงินดังกล่าวจะต้องโอนเงินค่าภาษี ค่าค้ำประกันต่างๆ เป็นต้น จนในที่สุด เหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกก็จะปิดช่องทางการติดต่อแล้วหลบหนีไป

 

จากสถิติศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 - วันที่ 30 ก.ย.2566 พบว่า การหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์กว่า 27,509 เรื่อง หรือคิดเป็น 8.20% จากเรื่องการรับแจ้งความทั้งหมด สูงเป็นลำดับที่ 4 รองจากการหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน และหลอกให้กู้เงิน โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 13,952 ล้านบาท สูงเป็นลำดับที่ 1 ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด

 

 

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน " หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า กรณีการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว แม้ว่าจะมีผู้เสียหายในจำนวนที่น้อยกว่าการหลอกลวงในรูปแบบอื่นๆ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยังคงสูงเป็นอันดับแรกเสมอ จึงขอฝากประชาชนให้พึงระมัดระวังการรับเพื่อนทางสื่อสังคมออนไลน์ หากไม่ได้รู้จักผู้นั้นจริงอย่าได้รับเป็นเพื่อน หรือติดต่อพูดคุยเป็นอันขาด

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นบุคคลเพศตรงข้ามติดต่อมาพูดคุยตีสนิท แล้วชักชวนให้นำเงินมาลงทุน โดยมิจฉาชีพเหล่านี้มักใช้คำหวานเพื่อหลอกลวงเหยื่อ ใช้ประโยคสนทนาในการพูดคุยที่ผิดปกติ เหมือนมีการใช้โปรแกรมแปลภาษามาก่อน และมิจฉาชีพจะไม่ยอมเปิดกล้องเพื่อให้เห็นใบหน้าแต่อย่างใด รวมถึงอย่าหลงเชื่อการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว และฝากบุตรหลานช่วยสอดส่องบุคคลในครอบครัวว่ามีการใช้จ่ายเงินที่ผิดปกติหรือไม่ เพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตามหากตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ โดยการแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย 2566 ถึงวันที่ 13 ธ.ค. 66 เวลา 08.30 - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหายรวมกว่า 600 ล้านบาท

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ