ข่าว

'เอ็ม' พ่อโหดโบกปูนลูก 2 ขวบ ก้าวร้าวตั้งแต่เด็ก 'ท้าต่อย' ครูมาแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อนประถม เผย 'เอ็ม' พ่อโหดโบกปูนลูก 2 ขวบ ก้าวร้าวตั้งแต่เด็ก ท้าเตะท้าต่อยครู ส่วน น้าชาย เผยกลับมาบ้าน พาลูกวัย 2 ขวบมาด้วย เห็นเต็มตาไม่ชอบเสียงร้องเด็ก พยายามใช้มือตบขู่เด็ก แถมยังทะเลาะกับพ่อ จนตัดขาดพ่อลูก

 

21 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดและบ้านญาติของนายส่องศักดิ์  หรือเอ็ม พ่อโหดฆ่าโบกปูนเด็ก 2 ขวบ ที่พื้นที่ จ.ตรัง

 

โดยเฉพาะที่บ้านของบิดา นายส่องศักดิ์ ในพื้นที่ ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ที่อาศัยอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน เป็นจุดแรกแต่ไม่พบใครบ้านปิดล็อกประตูรั้วสนิท 

 

จากนั้นเดินทางไปที่บ้านเดิมของนายจารึก บิดาของนายส่องศักดิ์ และบ้านเกิดของนายส่องศักดิ์ ซึ่งอยู่ที่ อ.ห้วยยอด จ. ตรัง พบว่าเป็นบ้านปูนสองชั้น ปิดล็อกประตูแน่นสนิท และไม่พบใครผู้ใดอยู่อาศัย 

 

 

 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินเข้าไปที่ร้านตัดผม ซึ่งอยู่ห่างกับบ้านหลังดังกล่าวไม่มากนัก ได้สอบถามนายเชือน สนิทปู่ อายุ 56 ปี น้าชายของเอ็ม เล่าว่า เอ็มมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ เอ็ม กลับมาบ้านใน ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด ล่าสุดช่วงเดือน เม.ย. 2566  โดยได้พาลูกสาวคือน้องโมเดล วัย 2 ขวบ ที่เอ็มได้ฆ่าโบกปูนเสียชีวิต กลับมาบ้านด้วย 

 

 

 

ทุกครั้งที่เอ็ม กลับมาบ้านจะชอบซื้อเหล้า ซื้อเบียร์และอาหาร มาเลี้ยงเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง แต่ในจังหวะที่ตนนั่งอยู่ด้วยนั้น เมื่อน้องโมเดลซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ร้องได้ เอ็ม ก็จะไม่ชอบเสียงร้องเด็ก ก็จะใช้มือปรี่จะเข้าไปตบ แต่ยังไม่ทันได้ตบ แต่ปรากฏว่าทำท่าเท่านั้นเด็กกลับกลัวและเงียบทันที เหมือนกับว่าเด็กกลัวไปแล้ว และพูดกับเด็กว่า "มึงเงียบนะ มึงนิ่งนะ เดี๋ยวกูตบตาย" 

 

 

 

และที่ผ่านมาเอ็ม ก็จะทะเลาะกับพ่อบ่อย เคยใช้มีดแทงล้อรถของพ่อ และอีกหลายๆเรื่องถึงขั้นตัดขาดพ่อลูกกัน ส่วนกับเพื่อนๆหากพูดไม่เข้าหูหรือไม่ถูกใจ เอ็ม ก็จะชวนทะเลาะ และใช้กำลัง หลังจากเห็นเอ็ม ฆ่าลูกบอกตรงๆเลยว่าไม่ชอบและรับไม่ได้เลย 

 

นายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม

 

 

 

ด้านนายวิระศักดิ์ เอี่ยมละม่อม อายุ 48 ปี เพื่อนรุ่นพี่ เล่าว่า เอ็มชื่อเดิมคือ นายนพดล ตนรู้จักกับเอ็ม และเติบโตเรียนประถมมาด้วยกัน โดยที่เอ็ม เป็นรุ่นน้องประมาณ 3 ปี  ตอนนั้นตนอยู่ ป.4 ส่วนเอ็มอยู่ ป.1 ตอนนั้นเอ็ม เป็นเด็กดี แต่หลังจากที่ตนจบชั้นประถม ปรากฏว่าเอ็มซึ่งตอนนั้นยังเรียนประถมอยู่ ก็จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนฝูงในโรงเรียนบ่อยครั้งและเยอะมาก 

 

 

 

บางครั้งเคยทะเลาะเบาะแว้งกับครูอาจารย์ที่สอนด้วย มีการท้าเตะ ท้าต่อยกับครู เป็นประจำ และภายหลังจากเอ็ม อายุประมาณ 16-17 ปี ก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่อกันเท่าไหร่ เพราะเอ็ม ไปอยู่ข้างนอกแล้ว แต่ทราบข่าวในทางที่ไม่ดีของเอ็ม มาตลอด ทั้งทะเลาะกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จนอาศัยอยู่บ้านด้วยกันไม่ได้ เอ็ม จึงออกไปอยู่ข้างนอก สาเหตุหนึ่งก็เพราะพ่อไล่ออกจากบ้าน

 

 

 

เมื่อมาทราบข่าวว่าเอ็มฆ่าลูก ตนไม่แปลกใจเลย เพราะนิสัยดั้งเดิมของเอ็มเป็นคนก้าวร้าวอยู่แล้ว ยอมรับว่าตอนเด็กเอ็ม ก้าวร้าวไม่มากเท่าไร แต่มองว่านิสัยพวกนี้จะเพิ่มขึ้นและหนักเรื่อยๆรุนแรงขึ้นตามอายุ ส่วนประเด็นที่ว่าเอ็ม จะไม่ชอบเด็กผู้ชาย ผู้หญิงนั้นตอนเด็กๆไม่มี อาจจะเป็นหลังจากเอ็ม มีลูกแล้ว และอาจจะไม่สบอารมณ์กับเด็ก แม้แต่พ่อก็เอาเอ็ม ไม่อยู่ หัวรุนแรง หากโกรธใคร ก็จะอาฆาตแค้น ไม่นึกว่าเอ็ม จะก่อเหตุเช่นนี้ อยู่ใกล้ใครก็อันตราย อยากให้ดำเนินคดีให้หนัก เพราะออกมาก็คิดว่ายังคงทำแบบนี้อีก 

 

 

 

อย่างไรก็ตามทราบว่า พ่อของเอ็มมีภรรยาจำนวน 2 คน คนแรกคือแม่ของเอ็ม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเอ็มเป็นลูกคนโต ส่วนพ่อของเอ็มหลังจากที่ภรรยาคนแรกคือแม่ของเอ็มเสียชีวิต ก็ได้ไปมีภรรยาใหม่อยู่ที่ อ.เมืองตรัง ซึ่งชาวบ้านระบุว่าทั้งพ่อของเอ็ม และบรรดาพี่น้องทุกคนเป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม ไม่เคยมีปัญหาหรือนิสัยก้าวร้าว ส่วนพ่อ จะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมและเป็นจิตอาสาเพื่อสังคมมาโดยตลอด

 

 

 

นพรัตน์ โชติเกษมกุล จ.ตรัง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ