เหยื่อกว่า 20 ราย แจ้งจับ 'เท้าแชร์' หลอกลงทุนแชร์ออนไลน์ สูญเงินกว่า 10 ล้าน

 

4 ก.ย. 2566 ชาวบ้านกว่า 20 ราย เดินทางแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีกับท้าวแชร์บ้านติดใจพารวย ที่ชักชวนให้ลงทุนในลักษณะธุรกิจเครือข่าย หรือชักชวน เป็นรายบุคคล ด้วยการโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนทั่วไป หรือปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เข้าร่วมลงทุนและผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินจะจ่ายให้ได้ตามกฎหมาย

 

โดยการกระทำผิดดังกล่าวได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ หรือช่องทางในการกระทำผิดความผิดในลักษณะร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ หรือออมเงิน หรือออมทองในระบบออนไลน์ ที่มีเจตนาหลอกลวงประชาชนให้เข้าเป็นสมาชิก เพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์จากดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่า สถาบันการเงินจะพึงให้ได้ หรือเปิดวงแชร์ออนไลน์ที่ไม่มีการให้สมาชิกวงแชร์หมุนเวียนกันรับ ทุนกองกลางในแต่ละงวด แต่ได้รับผลตอบแทนตามที่วงแชร์กําหนด

 

ร.ต.อ.บัญชา อรรคฮาด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับคําร้องทุกข์ไว้แล้ว พร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมหลักฐาน คาดว่าน่าจะออกหมายจับ น.ส.สุภิชญานันท์ เท้าแชร์ ในความผิดตามพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยในครั้งนี้มีผู้เสียหายกว่า 30 ราย ยอดเงินกว่า 10 ล้านบาท

 

 

 

 

น.ส.ประภาพร  อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สุภิชญานันท์ ซึ่งเป็นเท้าแชร์ ได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยตนเองเสียหายเป็นเงินประมาณ 6 แสนบาท ส่วนรายอื่นๆ ก็เสียหายกันประมาณหลักแสน มีเสียหายมากสุดก็ประมาณ 1.7 ล้านบาท 

 

 

 

สำหรับ บ้านแชร์ดังกล่าวเปิดมาได้ 1 ปี ได้มีการชักชวนให้มาลงทุน บ้านแชร์นี้ โอนเร็ว โอนไว ไม่มีดองยอด มีเงินสำรองจำนวนมาก ส่งยอดมือรับทุกวันแบบรัวๆ โดยเริ่มจากดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน มาเป็นร้อยละ 20 ต่อ 12 วัน จนมาเปิดห้องแชร์ให้ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ต่อวันจะเลือกกี่วันก็ได้แล้วจะดอนดอกเบี้ยมาให้ทุกวัน ถ้าครบแล้วก็จะโอนคืนเงินต้นมาให้ ถ้าคิดเป็นเดือนก็ร้อยละ 30 

 

 

 

เธอบอกว่า ช่วงที่เล่นแรก ๆ ก็ถอนจ่ายให้ดีมาตลอด พอมาช่วงต้นเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการชะลอโอนเงินดอกเบี้ย จนได้มีคนเข้าไปสอบถามก็บอกว่าช้าหน่อยเพราะเงินที่เราไปลงทุนนั้นยังไม่ได้รับการโอนกลับมาคืน จนไม่สามารถติดต่อได้ช่วงกล่างเดือนส.ค. ที่ผ่านมา จึงได้รวมตัวกันตั้งกลุ่มขึ้นมาพูดคุยแล้วก็ได้มาทยอยเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี

 

 

 

พิเชษฐ ยากรี จ.มหาสารคาม