ข่าว

ตม.ทลายเครือข่าย 'ขนคนจีนข้ามชาติ' ใช้ไทยทางผ่านทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตม.ทลายเครือข่าย 'ขนคนจีนข้ามชาติ' ใช้ไทยทางผ่านไปประเทศเพื่อนบ้านทำงาน 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' รวมทั้งจับหนุ่มเกาหลี หนีคดีลักทรัพย์กบดานไทย

 

4 ก.ย. 2566 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. แถลงการจับกุม 3 คดีสำคัญ 

 

คดีแรก กก.สส.บก.ตม.4 ทลายเครือข่ายขนคนจีน โดยการหลอกคนจีนด้วยกันมาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำความผิด โดยมีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำเหมือนกันทุกครั้งคือ กลุ่มขนคนจีนจะทำงานกันเป็นขบวนการตั้งแต่รับตัวคนจีนจากชายแดนไทยผ่านช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำโขง บริเวณ จ.มุกดาหาร เข้ามายัง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 

 

จากนั้นสับเปลี่ยนรถและส่งตัวคนจีนให้กับทีมขนคนจีนอีกทีมซึ่งมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วขนคนจีนจาก อ.แม่สอด จ.ตาก พาคนจีนข้ามไปยังประเทศเมียมา โดยเครือข่ายขนคนจีนในครั้งนี้ ถูกจับกุมทั้งหมด 5 ครั้ง โดย จับคนไทยได้ 1 ราย คนจีน 5 ราย ที่ จ.มุกดาหาร เมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค. 2566 พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการจับกุมขบวนการขนคนจีน 

 

ตม.แถลงคดีสำคัญ 3 คดี

 

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและพบความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นๆ จนนําไปสู่การจับกุมและเตรียมออกหมายจับอีกหลายราย ครั้งที่ 2 จับคนจีน 3 ราย เตรียมออกหมายจับคนไทย ที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อประมาณปลายเดือน มิ.ย. 2566 โดยจับกุมคนจีนจำนวน 3 ราย โดยคนจีนที่ถูกจับทั้งหมดให้การว่า ถูกบังคับ มาจากประเทศจีนให้ขึ้นรถยนต์ ซึ่งขับผ่านประเทศเวียดนาม ประเทศลาว ต่อมาเมื่อถึงประเทศไทยจึงได้หลบหนีจากรถยนต์ที่โดยสารมา เข้าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

 

 

 

ต่อมาครั้งที่ 3 จับกุมคนไทย 1 ราย คนจีน 5 ราย ที่ จ.กำแพงเพชร เมื่อประมาณกลางเดือน ก.ค. 2566 โดยสามารถจับกุมนายธวัชชัย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ข้อหา ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม พร้อมด้วย  คนจีน จำนวน 5 ราย ที่ อ.คลองขลุง จ.กําแพงเพชร พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน โดยคนจีนที่ถูกจับทั้งหมดให้การว่า ตนถูกหลอกลวงผ่านเว็บไซต์จัดหางานของประเทศจีน และเมื่อนัดพบกับเอเจนซี่ที่บริษัทไม่ทราบชื่อในประเทศจีน บางรายถูกมอมยาและถูกบังคับให้ขึ้นรถยนต์เพื่อพามายังชายแดนประเทศไทย ซึ่งทั้ง 5 รายไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด 

 

ตม.แถลงคดีสำคัญ 3 คดี

 

 

 

คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายตั้งแต่สับเปลี่ยนรถกันที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และติดตามมาจนสามารถจับกุมทีมขนคนจีนของ อ.แม่สอด จว.ตาก ได้ที่ อ.คลองขลุง จ.กําแพงเพชร จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบภาพกล้องวงจรปิด ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์และเตรียมออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้เพิ่มเติม

 

 

 

ครั้งที่ 4 จับกุมคนไทย 2 ราย คนจีน 5 ราย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค. 2566 โดยจับกุม นายนนทวัฒน์ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี และนายอชิรวิทย์ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ข้อหา ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม พร้อมคนจีน จำนวน 5 ราย ข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางและ เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน โดยคนจีน ที่ถูกจับทั้งหมดให้การว่า ตนถูกหลอกให้มาทำงาน โดยทราบเพียงว่าสถานที่ทำงานเป็นบ่อนกาสิโนประเทศเมียนมา คดีนี้จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบความเชื่อโยงทางการเงินและทางโทรศัพท์ชัดเจน เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 

 

 

 

และครั้งที่ 5 จับกุมคนไทย 1 ราย คนจีน 2 ราย ที่ จ.หนองคาย เมื่อประมาณปลายเดือน ส.ค. 2566 โดยได้จับกุมนายศักดิ์ศิริ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ข้อหา ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นฯ คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม พร้อมคนจีน จำนวน 2 ราย ข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน โดยคนจีนที่ถูกจับทั้งหมดให้การว่า ตนโดยสารรถยนต์มาจากประเทศกัมพูชาและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยมีจุดหมายปลายทางคือประเทศลาว ซึ่งแผนประทุษกรรมในครั้งนี้ไม่เหมือน 4 ครั้งก่อน เนื่องจากเป็นการขนคนจีนเพื่อเดินทางกลับประเทศจีน การทลายเครือข่ายขนคนจีนครั้งนี้

 

ตม.ทลายเครือข่าย \'ขนคนจีนข้ามชาติ\' ใช้ไทยทางผ่านทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

 

 

คดีที่สอง กก.สส.บก.ตม.1 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงภูเก็ต จำนวน 1 ราย คือ นายจอห์น (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติอเมริกา ในความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน จ.ภูเก็ต  โดยพฤติการณ์การกระทำความผิดคือ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับการประสานข้อมูลจาก ตม.ภูเก็ต กรณี  นายจอห์น สัญชาติอเมริกา ก่อเหตุเมาอาละวาด สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และทำลายทรัพย์สินของที่พักแห่งหนึ่งที่ ต.กะรน อ.เมือง จว.ภูเก็ต จนได้รับความเสียหาย 

 

 

 

เจ้าของที่พักดังกล่าวจึงได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กะรน จว.ภูเก็ต ในความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นไม่สามารถติดตามตัวนายจอห์นได้ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมได้ที่อาคารไอทีสแควร์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ขณะที่นายจอห์น มาขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร จึงเดินทางไปดักรอเพื่อตรวจสอบจนพบนายจอห์น ซึ่งมีรูปพรรณตรงตามหมายจับกำลังยื่นเรื่องขออนุญาตอยู่ต่อกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบหนังสือสอบหนังสือเดินทาง พบเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับ นายจอห์น รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริงและยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและสิทธิให้ทราบ และจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ตม.แถลงคดีสำคัญ 3 คดี

 

 

 

คดีที่สาม กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายซอนแจ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี สัญชาติเกาหลี ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีพฤติการณ์กระทำผิดคือ ช่วงค่ำของวันที่ 17 เม.ย. 2566  นายซอนแจ ได้ไปที่ร้านค้าแบรนด์เนมในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 1 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ แล้วได้ลักเอากำไล แอร์เมส ไปจำนวน 1 วง ราคาประมาณ 20,000 บาท และนายซอนแจ ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน ฉ้อโกง โดยนายแจซอน คุยกับผู้เสียหายเพื่อนคนไทยโดยใช้แอปพลิเคชัน KakaoTalk หลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งรหัสธนาคารเพื่อจะถอนเงินในบัญชีของผู้เสียหายจากตู้เอทีเอ็ม 

 

 

 

เมื่อนายซอนแจ ถอนเงินออกมาแล้ว จำนวน 8,000 บาท นายซอนแจ ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายซอนแจ  นอกจากนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ทราบว่านายซอนแจมีประวัติก่อคดีลักทรัพย์ในเกาหลี โดยทางการเกาหลีจะส่งหนังสือเพื่อนำนายซอนแจกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศเกาหลีต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ