ข่าว

เตือนภัย แอบอ้างทำเว็บไซต์ 'แจ้งความออนไลน์ปลอม' หลอกเหยื่อโอนเงิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ เตือนกลโกงคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับ 'แจ้งความออนไลน์ปลอม' หลอกเหยื่อให้โอนเงิน ยังพบมุขใหม่อ้างโทรจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ให้จ่ายค่าผ่าตัดคนไข้ด่วน ถ้าไม่โอนอาจทำให้คนไข้เสียชีวิต

 

29 ส.ค. 2566 พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. และคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมแถลงข่าว หลังมีคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม หลอกผู้เสียหายซ้ำซ้อน อันเป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับความเสียหายเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และยังมีคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนาวิธีการหลอกรูปแบบใหม่โดยอ้างว่าโทรมาจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล

 

พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่า สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ วันที่ 20-26 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น รับแจ้งทั้งหมด 3,671 เคส ความเสียหายกว่า 466 ล้านบาท โดยคดีที่มีอัตราเกิดมากที่สุด 5 อันดับแรก อันดับที่ 1 คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 1,781 เคส ยอดความเสียหาย 21,243,102.05 บาท ตามมาด้วย คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 378 เคส ยอดความเสียหาย 53,691,234.94 บาท 

 

ตร. เตือนคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม

 

คดีหลอกลวงให้ลงทุน ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 342 เคส ยอดความเสียหาย 175,573,367.60 บาท คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 304 เคส ยอดความเสียหาย 13,324,870.00 บาท คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ 270 เคส ยอดความเสียหาย 44,105,474.53 บาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมานี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มได้รับแจ้งพฤติการณ์ใหม่ที่คนร้ายนำมาใช้ คือ การปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ แล้วหลอกเหยื่อให้โอนเงิน เป็นการซ้ำเติมผู้เสียหาย และพบมุขใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่าโทรติดต่อมาจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล

 

 

 

 

 

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม เมื่อเหยื่อเข้าไปค้นหาหน่วยรับแจ้งความออนไลน์ เพจกลุ่มนี้จะซื้อโฆษณาจากเฟซบุ๊ก ทำให้เพจขึ้นมาในระบบค้นหาจากเว็บ Search Engines ต่างๆ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อกดเข้าเว็บไซต์ หรือเพจเฟซบุ๊กก็จะคุยกับระบบ AI และให้เพิ่มเพื่อนไลน์คนร้าย จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวเป็นทนายความหลอกถามข้อมูล แล้วจะอ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบเส้นเงินแล้ว พบว่าเงินออกนอกประเทศไปแล้ว คนร้ายใช้บัญชีม้าตามเงินกลับมาไม่ได้ แต่รู้ว่าเงินเข้าสู่แพลตฟอร์มไหน

 

ตร. เตือนคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม

 

 

 

จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นทีม IT สามารถโจมตีแพลตฟอร์ม เพื่อนำเงินคืนมาให้ได้ และส่งต่อไปยังหัวหน้าที่อ้างว่า ขณะนี้เงินของเหยื่อได้เข้าสู่แพลตฟอร์ม เว็บพนันออนไลน์ แต่จะช่วยโจมตีเว็บไซต์ดังกล่าวให้ โดยให้เหยื่อสมัคร และเล่นในเว็บไซต์พนัน อ้างว่า ไม่ได้พามาเล่นการพนัน แต่เป็นการพามากู้เงินคืนจากเว็บไซต์ มีข้อแม้ต้องใช้เงินตัวเอง ยิ่งเติมเยอะยิ่งได้คืนมาก และเร็ว อีกทั้งทำได้แค่บางช่วงเวลาเท่านั้น ไม่งั้นเซิร์ฟเวอร์จะตรวจพบ พร้อมทั้งขอหักเงิน 10% เพื่อเป็นค่าทนาย จากรายได้ที่ได้จากการโจมตี เหยื่อหลงเชื่อเพราะคิดว่าจะได้เงินคืน สุดท้ายเสียเงินเพิ่ม

 

 

 

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ใช้เบอร์มือถือซิมม้าโทรหาเหยื่อ แจ้งว่ามีคนไข้ถูกส่งมาที่ห้องฉุกเฉิน และมีค่าใช้จ่ายต้องชำระสำหรับการผ่าตัดด่วน เหยื่อปฏิเสธว่าไม่รู้จักบุคคลที่ถูกส่งมาห้องฉุกเฉินดังกล่าว แต่ทางคนร้ายยังคงยืนยันว่าคนไข้คนดังกล่าวระบุชื่อเหยื่อเป็นเบอร์ติดต่อ หากคนไข้เป็นอะไรไปเหยื่อต้องรับผิดชอบ เหยื่อขอคุยสายกับนายแพทย์เจ้าของคนไข้ แต่คนร้ายไม่ยอมจึงได้วางสายไป เหยื่อพยายามโทรกลับไปติดต่อแต่โทรกลับไปไม่ได้ มีเสียงแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อเลขหมายดังกล่าวได้ ภายหลังเหยื่อได้นำเบอร์มือถือดังกล่าวมาตรวจสอบกับ Application Whoscall พบว่าเป็นเบอร์ที่ถูกรายงานไว้ว่าเป็นเบอร์คนร้าย

ตร. เตือนคนร้ายแอบอ้างทำเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม

 

 

 

ข้อแนะนำ

1. ไม่มีหน่วยงานราชการหน่วยงานใดให้ประชาชนโอนเงินเพื่อเล่นเว็บพนันออนไลน์หรือโอนเงินให้ทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้เงินคืน

2. หากต้องการแจ้งความออนไลน์ให้แจ้งความผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com หรือแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ได้ทั่วประเทศ

3. หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามหรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1441 หรือ 191

วิธีป้องกัน

1. ให้สังเกตความผิดปกติของปลายสาย เช่น ถามชื่อ-นามสกุล จริง การใช้ข้อความอัตโนมัติ การโอนสายให้เจ้าหน้าที่ หากมีการ VIDEO CALL ให้สังเกตความผิดปกติของเสียงและท่าทาง (คนร้ายใช้โปรแกรมปลอมใบหน้า)

​2. หากคนร้ายอ้างเหตุต่างๆ หรือข่มขู่ให้โอนเงิน ให้โทรศัพท์ตรวจสอบหรือโทรสายด่วนหน่วยงานที่มีการแอบอ้าง ก่อนดำเนินการใดๆ

3. หากมีหมายเลขโทรศัพท์ ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่องโทรหา ไม่ควรรับสายในทันที และให้ตรวจสอบผ่าน แอปพลิเคชัน Whoscall ว่าเป็นเบอร์คนร้ายหรือเป็นเบอร์ที่ถูกรายงานไว้หรือไม่

 

 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชน จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบว่าปัจจุบันคนร้ายยังคงใช้วิธีการหลอกโดยอาศัยกลโกงเดิมๆ แต่ได้พัฒนาวิธีการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ดังนั้นเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ