ข่าว

มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ร้านอาหารดังระยองตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สูบเงินเกือบครึ่งล้าน อ้างทำทีจัดงานเลี้ยงให้ ส.ส. หลอกให้ซื้อไวน์ขวดละ 1.9 แสนบาท วอนตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการด่วน

มิจฉาชีพมาในทุกรูปแบบ ที่จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจาก นางปิยะฉัตร สแตมบัค อายุ 66 ปี  เจ้าของร้านอาหาร เดอะไวท์ หมู่บ้านเอกเขนก ริมหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง

มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน

ว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพ เข้ามาหลอกลวงในการสั่งซื้อไวน์ ทำให้สูญเงินไป 432,000 บาท โดยเบื้องต้นนั้น ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง ระยอง ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา 

มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน

 พร้อมทั้งแจ้งทางธนาคาร ที่โอนเงิน และ ธนาคารของมิจฉาชีพ ที่ใช้รับโอนเงิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โยนกันไปมาระหว่างตำรวจกับธนาคาร 

นางปิยะฉัตร เล่าถึงกลโกงที่ถูกหลอกลวงว่า มิจฉาชีพได้โทรศัพท์เข้ามาหาตนในวันที่ 19 ส.ค. ช่วง 12.00 น. ปลายสายเป็นหญิง ใช้เบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 0634681469 สอบถามว่าจะขอจัดงานเลี้ยงในนามบริษัท As.First.Co.Ltd. ในเวลา 18.30 น.วันเดียวกัน 

หลังจากนั้นได้มีการขอแอดไลน์กับตน โดยใช้ไลน์ชื่อ "Chuthima" (มิจฉาชีพ 1) มีการสั่งอาหารจำนวนหลายรายการ มีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหารหลายครั้ง เสมือนทำให้เกิดความสับสนตลอดเวลา

มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน

 หลังจากตกลงกันได้ มิจฉาชีพเบอร์ 1 ได้ส่งสลิปธนาคาร หลังโอนเงินค่าอาหาร 14,319 บาท มาให้ดูทางไลน์ แต่ยังไม่ทันตรวจสอบในบัญชีตนเอง ทางบัญชีไลน์ที่ชื่อ "Chuthima" ได้พิมพ์สั่งไวน์ ยี่ห้อที่มีราคาสูง แต่ทางร้านไม่ได้มีไวน์ยี่ห้อดังกบ่าวจำหน่าย  ทาง "Chuthima" ได้พิมพ์บอกว่าไม่ได้ท่าน ส.ส.และแขกที่มาต้องดื่มไวน์ระดับนี้เท่านั้น 
  มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน
พร้อมได้มีการแนะนำร้านที่มีไวน์ยี่ห้อดังกล่าวขายจำนวนมาก โดยให้แอดไลน์ไอดีชื่อ "Wine_w986" (มิจฉาชีพ 2) และแจ้งว่าให้สอบถามหาไวน์ที่ระบุไปกับร้านไวน์ที่แนะนำไป หากมีของ และตกลงซื้อไวน์ที่ต้องการได้แล้ว ให้แจ้งยอดเงินกลับมาจะโอนเงินไปให้ 

"หลังจากน้ันตนแอดไลน์ไปที่ร้านไวน์ (มิจฉาชีพ 2) ดังกล่าว เมื่อสอบถามถึงยี่ห้อไวน์ ที่ลูกค้าต้องการปรากฎว่ามีครบ แล้วทางร้านยังยินดีรับคืนสินค้าทั้งหมด เบื้องต้นตกลงราคากันจบ จึงแจ้งราคาไปให้ไลน์ มิจฉาชีพ 1 ให้ทราบราคา และส่วนตนก็ตอบกลับไลน์ร้านไวน์ว่าพร้อมจะโอนเงินให้ทันที จากน้ันร้านไวน์ส่งบัญชีธนาคารมาให้ ตนจึงโอนเงินซื้อไวน์ไปทั้งหมดรวม 432,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชี  2 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต ชื่อ ภูมิภัทร เลี้ยงทอง หมายเลขบัญชี 9197096615 และ ธนาคารทหารไทยธนชาต หมายเลข 9197110191 ชื่อบัญชี ชลธิชา บุญลือ หลังจากที่โอนเงินไปแล้ว รู้สึกว่าผิดปกติ เพราะตรวจสอบยอดเงินทั้งหมด ที่มิจฉาชีพ 1 ที่ใช้ไลน์  "Chuthima" อ้างว่าจะโอนเงินค่่าสั่งไวน์ท้ังหมดยังไม่เข้าบัญชีตน จึงสอบถามไปยังไลน์ "Chithima" แจ้งว่าให้ติดต่อผู้จัดการฝ่ายบัญชี(มิจฉาชีพ 3 ) พร้อมให้เบอร์โทรมา ตนโทรไปไม่มีการรับสาย

มิจฉาชีพ ระบาดหนักหลอกซื้อไวน์ ร้านอาหารดังระยองสูญเงินครึ่งล้าน

 ต่อมาได้มีสายโทรเข้ามา เป็นผู้ชายบอกว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า ไม่ต้องกังวล ถ้าเงินไม่เข้าจะจ่ายเป็นเงินสดให้ แล้วยังบอกว่ากำลังจะไปที่ร้านอาหารตนโดยจะเบิกเงินสดไปให้ 

"ส่วนทางร้านไวน์ ได้โทรผ่านไลน์กลับมาแจ้งว่าต้องจ่ายค่าไวน์ที่เหลือทันที ตนจึงบอกไปว่าพนักงานอยู่ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ให้ส่งที่ตั้งร้านมาให้หน่อย ตนจะให้พนักงานเข้าไปที่ร้านไวน์จะไปรับของ สักพักสายถูกตัดและก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงติดต่อทางธนาคาร แต่ทางธนาคารให้ไปแจ้งความก่อน ทางธนาคารตรวจสอบ พบว่า เป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ให้ไปแจ้งความใหม่ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เพราะมีการโอนเงินหลายครั้ง ครั้งละ 49,999 บาท เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบใบหน้าตอนกดเงินออก หลังจากที่ทราบว่าถูกหลอกโดยกลุ่มมิจฉาชีพ ที่มีตัวละครทั้งหมด 3 คน 1.คนติดต่อชื่อไลน์  "Chuthima"  2.ไลน์ร้านขายไวน์ และ3.ผู้จัดการฝ่ายบัญชี โดยใช้วิธีการร่วมกันรับลูก โทรเข้ามาทำให้วุ่นวายกับการเปลี่ยนรายการอาหาร และ ห่อขวดไวน์เป็นของขวัญ จนทำให้ไม่มีเวลาตรวจสอบบัญชี พอรู้ตัวก็สายไปแล้ว"  ปิยะฉัตร เผย

 

ปิยะฉัตร เผยอีกว่า เป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งทราบว่าถูกมิจฉาชีพหลอกในรูปแบบเดียวกันหลายร้าน ขอตำหนิการทำงานของตำรวจ ควรจะต้องใส่ใจและฉับไวมากกว่านี้ ไม่ใช่โยนเรื่องกันไปมา ส่วนธนาคารด้วยในเมื่อรู้ว่าการเปิดบัญชีเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพ แต่กลับไม่ใส่ใจในการตรวจสอบ ควรจะมีการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่านี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ หากเห็นการโอนเงินที่ผิดปกติก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบทันที พอเกิดเรื่องกลับไม่สามารถเปิดเผยอะไรกับผู้เสียหายได้เลย ทั้งที่ต้องสูญเสียเงิน ขอฝากให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรจะต้องเร่งปราบปรามป้องกัน ไม่ใช่ปล่อยผ่านจนเกิดความเสียหายขึ้นมาตลอด นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ