ตำรวจไซเบอร์ ตามแกะรอยรวบหนุ่มอุตรดิตถ์ "แก๊งโรแมนซ์สแกม" อ้างเป็นแพทย์ทหาร NATO หลอกสาวให้รัก สร้างฝันอยากใช้ชีวิตร่วมกัน ก่อนหลอกให้โอนเงิน พบเหยื่อหลงเชื่อหลายราย
18 ก.ค. 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ จึงการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามคดีที่มีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นแพทย์ทหารชาวเวียดนาม ปฏิบัติหน้าที่ในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ซึ่งรู้จักกันผ่านอินสตาแกรม เมื่อพูดคุยกันถูกคอจึงมีการแอดไลน์และได้สนทนากันเรื่อยมาจนผู้เสียหายเกิดชอบพอและหลงรัก แต่สุดท้ายถูกหลอกให้โอนเงินไปให้หลายครั้ง
ผู้เสียหาย ซึ่งรู้จักกับมิจฉาชีพ เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2566 โดยมิจฉาชีพได้พูดจาหว่านล้อม อ้างว่า ต้องการมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับผู้เสียหายที่ประเทศไทย ซึ่งมีแค่ผู้เสียหายคนเดียวที่ช่วยเขาได้ จึงขอให้โอนเงิน จำนวน 10,000 บาท ไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ในองค์การสหประชาชาติ (UN) ในการโยกย้ายตำแหน่งมาทำงานที่ประเทศไทย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป
ช่วงเวลาต่อมา คนร้ายก็อ้างอีกว่า จำเป็นต้องให้ผู้พิพากษาช่วยในการโยกย้ายตำแหน่งอีก จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าดำเนินการ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าวอีก 25,000 บาท หลังจากนั้น มิจฉาชีพก็อ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินค่าดำเนินการไปอีกหลายครั้ง รวมทั้งสิ้น 60,000 บาท
กระทั่ง วันที่ 23 มิ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้โทรหาผู้เสียหาย เนื่องจากพบว่า เป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชีปลายทางดังกล่าวอย่างผิดปกติ โดยบัญชีดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบว่าเป็นบัญชีม้าของแก๊ง Romance Scam ที่มีผู้เสียหายคนอื่นโดนหลอกให้รักแล้วโอนเงินเช่นกัน ผู้เสียหายจึงทราบว่าตนเองถูกหลอกแล้ว จากนั้นจึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีดังกล่าว รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าว จนสามารถเข้าควบคุมตัว นายนราธิป (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน"
โดยจับกุมได้บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่การเคหะคลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง