4 'สาวไทย' ชาวอุบลราชธานี วอนช่วยไถ่ตัว หลังถูกหลอก ขายบริการ เขตปกครองพิเศษ

เพจ NinJa ToDay ได้โพสต์คลิปวีดีโอ 'สาวไทย' โชว์บัตรประชาชน ร่ำไห้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยกลับประเทศไทย โดยระบุข้อความว่าเป็น หญิงสาว ชาว จ.อุบลราชานี และเพื่อน รวม 4 คน ถูกหลอกไปทำงานเป็น PR ที่ ท่าขี้เหล็ก เมียนมา แต่กลับถูกหลอกไป ขายบริการ ที่เขตปกครองพิเศษเมืองป๊อก ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2566 มีการติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน มีเพียงคำตอบเดียวคือให้รอ

 

นางสาวเก๋ นามสมมุติ ชาว จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ที่ถูกหลอกไป ขายบริการ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่าตนเองและเพื่อน รวม 4 คน ทำงานเป็น PR ร้านอาหารที่กรุงเทพ ต่อมารู้จักนายหน้าหางานทางแอพพิเคชั่น TikTok รับ PR ทำงานที่จังหวัดท่าขี้เหล็กประเทศพม่า ข้ามฝั่งจากไทยประมาณ 5-10 นาที รายได้ดีพร้อมทั้งมีโปรโมชั่นฟรีค่าเดินทาง ค่าที่พัก อาหารทุกอย่าง โดยทางนายหน้าได้โอนค่าเดินทาง สำหรับ 4 คน มาก่อน 1 หมื่นบาทตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางไป

 

 

เมื่อไปถึง จ.เชียงราย มีผู้ชายมารับเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งอยู่ริมน้ำ จากนั้นก็เดินออกหลังบ้านข้ามน้ำเข้าเขตประเทศเมียนมา เมื่อตนถามว่าข้ามมาแบบนี้ผิดหรือไม่ ชายดังกล่าวบอกว่าไม่ผิดไม่ได้ไปไกลตนจึงไม่คิดอะไร จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ 4 คันมารับขับเข้าไปในตัวเมืองก่อนจะขึ้นเขาอีก 6 ชั่วโมงและมีรถมารับอีกต่อ ตอนนั้นตนรู้แล้วว่าถูกหลอกแต่ก็ไม่สามารถจะขัดขืนอะไรได้จึงจำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย จนถึงเมืองป๊อกตนเองและเพื่อนถูกแยกขังไว้ในตึก 2 คน อีก 2 คนถูกขายไปให้นายทุนจีนอีกกลุ่มให้มาค้าประเวณี

 

 

เริ่มแรกตนไม่ยอมที่จะขายบริการแต่เห็นเพื่อนคนอื่นที่มีชะตากรรมเดียวกันไม่ยอมก็จะถูกทำร้าย ให้อดข้าวกินวันละ 1 มื้อ ยึดโทรศัพท์ จึงจำใจยอมเพื่อเอาชีวิตรอด ตลอดเวลาที่รู้ว่าถูกเอามาขายบริการ ตนและเพื่อนพยายามติดต่อทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง แต่ไม่มีใครช่วยได้บอกให้รออย่างเดียว จนเจอเพจบ้านเฮียชาญ ที่พึ่งของผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นเพจของ จ.อุบลราชธานี จึงได้ขอความช่วยเหลือไป พร้อมกับเพจ Ninja Today เพจ CSI LA  เพจ thereporters จนมีการประสานงาน นักธุรกิจชาวจีนช่วยออกเงินค่าไถ่ตนเองและเพื่อนให้หลุดออกมาจากโรงแรมที่ใช้ ขายบริการ ได้อย่างปลอดภัย

 

 

 

แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็ยังไม่สามารถที่กลับมาไทยได้ เนื่องจากไม่มีเงินที่จะคืนให้กับ นักธุรกิจจีน รายนี้ จึงต้องขอทางบ้านช่วยกันหาเงินมาคืนนักธุรกิจจีนก่อน ปัจจุบันการกินอยู่ต่างๆ นักธุรกิจจีนรายนี้เป็นคนดูแลออกค่าที่พัก ให้ไม่ต้องออกไปทำงานรับแขกขายบริการ รอเพียงวันที่ทางบ้านจะหาเงินมาคืนแล้วกลับบ้าน

 

 

ขณะที่ เจ้าของเพจบ้านเฮียชาญ ได้พาญาติของนางสาวเก๋ เข้าแจ้งความและขอความช่วยเหลือกับทาง พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ ดาราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี โดย พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ หลังได้รับทราบเรื่องได้สั่งให้ลงบันทึกประจำวันไว้พร้อมทั้งนำเรื่องรายงานผู้บังคับบัญชาประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ ยังกล่าวอีกว่าในส่วนเรื่องของการช่วยเหลือต้องเป็นไปตามระบบราชการทางตนเองพร้อมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้งการจัดรถรับ-ส่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวเมื่อกลับมาถึงฝั่งไทย

 

 

สำหรับเหตุการณ์ 'หญิงไทย' ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเมียนมา มีมาอย่างต่อเนื่อง จนเพจ Royal ThaiEmbassy Yangon สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ออกประกาศเตือนคนไทย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565 อย่าหลงเชื่องาน PR เมืองป๊อก เมืองลา เล้าไก่ มูเซ ในเมียนมา อ้างรายได้หลักแสน อาจโดนหลอก ความจริงโดนบังคับขายบริการ โดนบังคับเสพยา ติดหนี้ โดนยึดพาสปอร์ต กลับไทยไม่ได้ ถูกขายต่อ

 

 

เมืองป๊อกมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งของ อ.เมืองยาง จ.เชียงตุง เมืองป๊อกถูกผนวกอย่างไม่เป็นทางการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่พิเศษหมายเลข 2 เขตปกครองตนเองชนชาติว้า ถูกปกครองอย่างเบ็ดเสร็จโดยกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army : UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองพลที่ 468 กองทัพสหรัฐว้า

 

 

ฝั่งตรงข้ามเมืองป๊อกเป็นเขตปกครองตนเองชนชาติไต ลาหู่ และว้า เมิ่งเหลียน หรือในภาษาไตเรียกว่า "เมืองแลม" ขึ้นกับจังหวัดผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน สภาพเมืองป๊อกไม่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ของชาวไตในรัฐฉาน ชาวเมืองใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย ทำการเกษตรเป็นหลัก แต่หลังจากกองทัพสหรัฐว้าเข้ามาครอบครอง มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีการก่อสร้างอาคารสูงใหญ่เกิดขึ้นหลายตึก มีนักลงทุนทั้งที่เป็นคนว้าและคนจีนเข้ามาเปิดกิจการ ส่วนมากเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ทำให้เมืองป๊อกปัจจุบัน มีสภาพที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับตัวเมืองยาง

 

 

 

โดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์