ข่าว

8 ปีคดี โรฮิงญา จุดเปลี่ยนตำรวจน้ำดีต้องลี้ภัยสู่ส่งตัว 4 คนร้ายให้มาเลเซีย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนรอย 8 ปีคดีค้ามนุษย์ 'โรฮิงญา' จุดเปลี่ยนในชีวิตทำตำรวจน้ำดีอย่าง 'พล.ต.ต.ปวีณ' ต้องลี้ภัย สู่การส่งตัว 4 ผู้ต้องให้ทางการมาเลเซียดำเนินคดีต่อ

คดีค้ามนุษย์ "โรฮิงญา" คดีใหญ่ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศจดจำตำรวจที่ชื่อว่า พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจผู้ธรภาค 8  ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 เกิดเหตุการณ์ค้ามนุษย์ที่เรียกได้ว่าเป็นคดีใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เมื่อเจ้าหน้าพบค่ายกักกันชาว โรฮิงญา บนเทือกเขาแก้ว จ.สงขลา หนำซ้ำยังพบศพชาว "โรฮิงญา"  36 ศพ ถูกฝังกลบ โดยสาเหตุการเสียชีวิตมากจากอดอาหาร และถูกทำร้ายร่างกาย

 

 

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เข้ามาดำรงตำแหน่งหลังจากการทำรัฐประหารไปเพียง 1 ปีเท่านั้น การค้นพบค่ายกักกันโรฮิงญา กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะแคมป์ดังกล่าวตั้งอยู่กลางภูเขาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซีย และไทยกำลังจะกลายเป็นทางผ่าน จุดพักคอยของกระบวนการค้ามนุษย์อย่างเลี่ยงไม่ได้

การสืบสวนเรื่องราวของคดีค้ามนุษย์ "โรฮิงญา" ขณะนั้นเป็นไปอย่างเข้มข้น ท้ายที่สุดการสืบสาวราวเรื่องพบว่ามีนายทหารยศใหญ่เข้าไปพัวพันด้วย  เกิดการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ที่ทำให้ตำรวจน้ำดีอย่าง พล.ต.ต.ปวีณ ต้องขอลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศนานกว่า 8 ปี เรื่องราวคดีค้ามนุษย์ "โรฮิงญา" ที่เกิดขึ้นบริเวณเทือกเขาแก้ว จ.สงขลาเมื่อ 8 ปีก่อนจะเป็นอย่างไร

 

คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

1. วันที่ 1 พ.ค. 2558 ตำรวจเข้าตรวจค้นแคมป์ที่พักบนภูเขา อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าเคยเป็นสถานที่กักกันชาวโรฮิงญาและมีการคาดการณ์ว่ามีชาว "โรฮิงญา" เดินทางมาพัก ณ ค่ายแห่งนี้เพื่อเตรียมผ่านต่อไปยังประเทศที่ 3 ไม่น้อยกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ยังพบหลุมฝังศพชาวโรฮิงญากว่า 36 ศพ มีการคาดการณ์ว่าเสียชีวิตและขาดอาหารและมีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย การสืบสวนคดีนี้นำโดย พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีในขณะนั้น และจากคำให้การของชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิตบอกว่ามีการจ่ายค่านายหน้า 10,000 บาท เพื่อขึ้นเรือจากเมียนมาและเตรียมหลบหนีเข้าประเทศที่ 3

 

คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

 

2.  การพบศพชาวโรฮิงญาในแคมป์นำมาซึ่งการสอบสวนเชิงลึก และพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากกว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งข้าราชการระดับสูง นายทหารยศสูง นักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการท้องถิ่น ที่เชื่อมโยงกับนายหน้าชาวเมียนมา โดยขณะนี้มีชื่อของ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และพบหลักฐานว่ามีการโอนเงินมากถึง 140 ล้าน 

 

 

3. พล.ต.ต.ปวีณ ได้ส่งสำนวนการสอบสืบคดีค้ามนุษย์ชาว "โรฮิงญา" ทั้งหมดให้อัยการ โดยกว่าจะออกหมายจับพล.ท.มนัส ได้ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว อัลจาซีลา ว่าต้องขอหมายจับจากศาลนาทวีมากถึง 2 ครั้ง หลังจากนั้นอัยการได้มีการฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ แต่ต่อมาศาลนาทวีได้โอนคดีมายังแผนกค้ามนุษย์ของศาลอาญา เพราะถือว่าเป็นคดีร้ายแรง ศาลได้ทำการไต่สวนคดีอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนม.ค. 2559  พล.ท. มนัส เสียชีวิตระหว่างการถูกดำเนินคดีในเรือนจำคลองเปรม เมื่อปี 2564

 

คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

 

4. จุดเริ่มต้น พล.ต.ต.ปวีณ หัวหน้าคณะทำงานคดีค้ามนุษย์ชาว "โรฮิงญา" ต้องขอลี้ภัยในออสเตรเลีย ซึ่งหลังจากคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีคำสั่งย้ายพล.ต.ต.ปวีณ ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยขณะนี้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นผบ.ตร. คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ซึ่งพล.ต.ต.ปวีณได้มีการขอพบพล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อแจ้งว่าไม่สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งได้ เพราะเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิต

 

 

 

5. พล.ต.ปวีณ ตัดสินใจลาออกจากราชการ และขอลี้ภัยไปยังประเภทออสเตรเลีย โดยพล.ต.ต.ปวีณให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวอัลจาซีลา ไว้ว่า พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้ถูกย้ายไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเคยทำคดีค้ามนุษย์และรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 5 พ.ย. 2558 มีผล 6 ธ.ค. 2558 หลังจากนั้น พล.ต.ต.ปวีณ ได้รับเสนอตำแหน่งใหม่ และมีการเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อถอนใบลาอออกและทำหน้าที่รับชอบคดีค้ามนุษย์ต่อ แต่เพียงไม่นานหลังจากรับตำแหน่งใหม่ พล.ต.ต.ปวีณ ก็ได้เข้าพบกับ พล.ต.อ.จักร์ทิพย์ อีกครั้ง โดยเขาได้เล่าให้ สำนักข่าวอัลจาซีลาฟังต่อว่า ผบ.ตร.เสนอให้เข้าลาออกและใช้ชีวิตเงียบๆ จึงทำให้เข้าตัดสินใจเดินทางออกจากกรุงเทพ เพื่อลี้ภัยในออสเตรเลียจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 8 ปี แล้ว

 

คดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

 

6.กระแสของคดีค้ามนุษย์ชาว "โรฮิงญา" และเรื่องราวของพล.ต.ต.ปวีณ เงียบลงแต่กระบวนการดำเนินการในชั้นศาลยังคดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมาทางการไทยได้ส่งตัว 4 ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาให้แก่ทางการมาเลเซียตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน รายงานระบุว่า คดีนี้เกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพบศพผู้เสียชีวิตชาวโรฮิงญารวมกว่า 36 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่า บนเขาแก้ว อ.สะเดา จ.สงขลาเมื่อเดือน พ.ค. 2558 และยังขยายผลพบหลุมศพที่มีศพชาวโรฮิงญาอีก 180 ศพในพื้นที่รัฐปะลิศ ประเทศมาเลเซียด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ