ซ้อมดับเพลิงในรอบ 6 ปี ‘สถานีดับเพลิงสามเสน’ โพสต์เสียใจเหตุราชวินิตมัธยม | คมชัดลึก

สถานีดับเพลิงสามเสน ได้โพสต์เฟบุ๊กแสดงความเสียใจกับเหตุถังดับเพลิงระเบิดที่ โรงเรียนราชวินิตมัธยม หลังจากได้รับการประสานจากโรงเรียนราชวินิตให้ไปซ้อมดับเพลิงให้กับครู นักเรียนในวันที่ 23 มิ.ย. 2566 แต่แล้วกลับเกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิดจนทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก

 

คมชัดลึกตรวจสอบพบว่า ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม (นางเลิ้ง) ได้ขึ้นป้ายข้อความว่า “โรงเรียนราชวินิตมัธยม จัดกิจกรรมการซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.30 น. จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ”

 

 

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถังดับเพลิงระเบิด ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 21 ราย จากการสอบถามทราบว่าโรงเรียนราชวินิตมัธยม เชิญสถานีดับเพลิงสามเสนมาทำการฝึกซ้อมดับเพลิง ซึ่งเป็นครั้งแรกในการฝึกซ้อม 

 

โดยมีการอบรม 3 ครั้ง ครั้งแรกผ่านไปได้ แต่ครั้งที่2 เกิดเหตุ ซึ่งถังที่ระเบิดนั้น ไม่ได้เป็นถังที่ทำการฝึกซ้อม แต่เป็นถังที่วางอยู่บริเวณลานองค์พระ ห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ 10 เมตร โดยถังดังกล่าวได้ระเบิดขึ้น ก่อนที่ตัวถังจะพุ่งไปถูกตัวนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 6/7 จนเสียชีวิตทันที 

ทั้งนี้ถังดับเพลิงที่ระเบิดเป็นถังคาร์บอนไดออกไซด์ มีแรงดันสูง 800 PSI ขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากถังดับเพลิงสารเคมีที่อยู่ในชุมชนทั้งไป ที่มีแรงดันประมาณ 100 PSI แต่การซ้อมดับเพลิงครั้งนี้ เป็นการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย ไม่ใช่สารเคมีที่ใช้ดับเพลิงตามปกติ

 

อย่างไรก็ตามสาเหตุระเบิดต้องให้พนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน หาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพราะเป็นถังที่นำมาจากผู้สาธิต จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าถังที่ระเบิดมีอายุ 6 ปี และเพิ่งไปเติมคาร์บอนไดออกไซด์จากร้านย่านพัฒนาการ โดยเติม คาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เต็มความจุ เพื่อนำมาใช้ในการสาธิตเท่านั้น

 

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าของถังดับเพลิง ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของใคร เพราะมีการแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผู้ฝึกอบรม และ ถังส่วนกลาง ที่ผ่านมา กทม.มีการฝึกซ้อมดับเพลิงบ่อยครั้ง บางครั้งถังไม่เพียงพอ ทำให้ถังส่วนกลางหมุนเวียนไม่ทัน ผู้ฝึกอบรม จึงอาจจะนำถังดับเพลิงของตัวเองมาใช้

 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า กทม.พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ตามระเบียบ ขณะเดียวกันกทม.เยียวยาสภาพจิตใจนักเรียนภายในโรงเรียนด้วย โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพจิต เข้ามาดูแล พร้อมทั้งทบทวนการทำงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ปัญหาเกิดจากถังที่ไม่ได้คุณภาพหรือถังชำรุด หรือเจ้าหน้าที่ขาดความเชี่ยวชาญ อาจดูเหมือนเป็นวัวหายแล้วล้อมคอกแต่มันจำเป็นต้องทำ จริงๆแล้วการซ้อมดับเพลิงครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีแต่เมื่อ เกิดความผิดพลาดก็ต้องนำมาแก้ไขและปรับปรุงไม่ใช่ว่าจะหยุดการฝึกซ้อมลักษณะนี้เลยเป็นไปไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามปัจจุบันกทม.ได้สั่งซื้อถังดับเพลิงใหม่ จำนวน 10,000 ถังเพื่อแจกชุมชน ซึ่งต่างจากถังที่เกิดระเบิด เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ชุมชนด้วย นอกจากนี้ กทม.จะตรวจสอบความปลอดภัยของถังดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดด้วย

 

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แยกสอบปากคำครูฝึกการดับเพลิงทั้งหมด 7 คน ซึ่งมี 3 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตได้แยกตัวไปสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง

 

ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฐาน “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต” พร้อมตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสาธิตทั้งหมด เพื่อไปตรวจสอบว่าถังดังกล่าวบรรจุสารตรงตามที่ระบุหรือไม่ เป็นถังที่ถูกใช้ซ้ำหรือไม่ สามารถทนแรงดันได้หรือไม่ และบรรจุที่ไหนอย่างไร 

 

ทั้งนี้ตนขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า เจ้าหน้าที่ชุดสาธิตเองก็คงไม่ทราบว่า อุปกรณ์อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หรือไม่ นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับเพลิงด้วย

 

“นักเรียนที่เสียชีวิตไม่ใช่ผู้ที่ออกไปทำการทดลอง แต่เป็นผู้ที่นั่งอยู่ ก่อนถังดังกล่าวที่อยู่ข้างหลังจะระเบิดขึ้น และชิ้นส่วนกระเด็นเข้าช่วงหน้าอก ส่วนตอนนี้นักเรียนทั้งหมดอยู่ในความดูแลของอาจารย์ฝ่ายปกครองแล้ว” ผบช.น.ระบุ

 

 

ส่วน น.ส.ตรีนุช  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนักเรียนที่ได้สูญเสียกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเป็นห่วงอย่างมาก และได้เร่งรัดให้ศธ.เข้ามาดูแลเยียวยาเด็กและผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ 

 

เบื้องต้นจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บริหารโรงเรียน ทราบว่า เป็นการดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนและศธ. ที่เน้นในเรื่องความปลอดภัยของเด็กในทุกมิติ ซึ่งทางโรงเรียนตั้งใจให้นักเรียนเรียนรู้ เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับการดับเพลิง เท่าที่ทราบ จะแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ฟังบรรยาย และกลุ่มที่เข้าร่วมสาธิตการดับเพลิง ในส่วนของกลุ่มที่สาธิตจะต้องใช้ถังแก๊สในการนำเสนอ โดยการสาธิตยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่เนื่องจากอากาศร้อน ทำให้ถังแก๊สเกิดการระเบิด ตัวถังแก๊สกระเด็นมากระแทกโดยนักเรียนที่นั่งอยู่ในอาคาร 

ทั้งนี้หน่วยงานที่เข้ามาสาธิต มาจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สามเสน ซึ่งได้ทำการสาธิตการดับเพลิงมาหลายโรงเรียนแล้ว และยังไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น 

 

“อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนได้รายงานว่า ที่ผ่านมา ยังไม่เคยจัดกิจกรรมสาธิตการป้องกันอัคคีภัยมาก่อน ทำแต่เรื่องการช่วยเหลือชีวิตด้วยวิธีซีพีอาร์ แต่ครั้งนี้เจตนาอยากให้เด็กรู้เรื่องอัคคีภัย  จึงได้ประสานงานหน่วยงานจากปภ. เพื่อเข้ามาร่วมสาธิต เพราะเป็นหน่วยงานที่มีความรู้ และทางปภ. เองก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นการสาธิตครั้งแรกในรอบ 6 ปีของทางโรงเรียน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาสาเหตุเพราะยังไม่เคยมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ที่ทำก็เป็นเจ้าหน้าที่ของปภ. สามเสน ซึ่งยังไม่มีการสาธิต แต่ตั้งอยู่กลางแจ้ง แล้วเด็กก็อยู่ภายในอาคารเพื่อรอดูการสาธิต แต่เกิดเหตุระเบิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ศธ. จะกำชับไปยังโรงเรียน เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนให้มากยิ่งขึ้น 

กรณีนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสาเหตุ ว่าเกิดจากอาการร้อน หรือเพราะถังแก๊สเก่า เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนของนักเรียนนั้น ก็ค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศธ. จึงได้ประสานกับกรมสุขภาพจิต ดูแลเยียวยาน้อง ๆ และเด็กๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนเด็กที่เสียชีวิต ทางโรงเรียนมีประกันชีวิต และกองทุนที่จะมาเยียวยาเด็กที่เสียชีวิตต่อไป” น.ส.ตรีนุชกล่าว