ตร.ตามมา 2 ปี รวบเท้าแชร์สาวเบี้ยวเงิน ซ้ำยังหลอกขายไอโฟน

เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ตำรวจ PCT ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส. นวพรรณ (สงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงพิษณุโลก ที่ 73/2564 ลง 7 พ.ค. 64 

 

ฐานความผิด “โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง และฉ้อโกง “ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และ ป.อาญา มาตรา 341 จับกุมได้ที่บริเวณ ร้านกาแฟสตาร์บัค สาขาจุดพักรถมอเตอร์เวย์สาย 7 ขาออก ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 66 เวลา 16.00 น.

สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการที่1 PCT ได้รับข้อมูลการแจ้งเบาะแสร้องเรียนทางสื่อออนไลน์จากผู้เสียหายหลายราย ว่าย้อนไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2564 มีคนร้ายซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ค(Facebook)รายหนึ่ง มีพฤติกรรมเป็นเท้าแชร์ มีชื่อว่าบ้านแชร์วาริน ตัั้งวงแชร์จำนวนหลายวง มีลูกแชร์ร่วม 100 คน 

 

โดยพบว่าภายหลังแชร์ล้มและมีผู้ได้รับความเดือดร้อนหลายราย โดยมีการแจ้งเบาะแสอีกกว่า  คนร้ายดังกล่าวมีการเสนอขายโทรศัพท์รุ่นไอโฟนเอ็ก ในราคาถูกแต่เมื่อสั่งซื้อโอนเงินแล้วพบว่าไม่มีสินค้าจริง

ชุดปฏิบัติการจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบข้อมูลพบว่า ผู้ใช้เฟซบุคดังกล่าวคือ น.ส.นวพรรณ(สงวนสกุล) อายุ 22 ปี โดยมีผู้เสียหายที่หลงชื่อสั่งซื้อไอโฟน มีการโพสต์ขายโทรศัพท์โอโฟนเอ็กซ์ และมีผู้เสียหายหลงชื่อโอนเงินจำนวน 12,500 บาท ให้กับ น.ส.นวพรรณ ฯ​ ผ่านบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ ของ น.ส.นวพรรณ ฯ เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 64 

 

ซึ่งปรากฎว่าไม่ได้รับโทรศัพท์ไอโฟน ตามที่โพสขายไว้จริงติดตามทวงแล้วเรื่องเงียบไป จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ที่ สภ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก จนนำมาซึ่งการออกหมายจับของศาลแขวงพิษณุโลก ที่ 73/2564 ลงวันที่ 7 พ.ค. 64 

โดยหลังจากที่มีกระแสพฤติกรรมของ น.ส.นวพรรณ ฯ ถูกโจมตีในเฟสบุ๊ค น.ส.นวพรรณฯ​ ทั้งหลอกขายไอโฟนและเบี้ยวค่าแชร์ไม่มีใครติดต่อได้ จึงแจ้งเบาะแสให้ชุดสืบสวน ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT ช่วยดำเนินการสืบสวนหาตัว

 

จนกระทั่งต่อมาสืบทราบว่า น.ส.นวพรรณ ฯ มาทำงานที่ร้านกาแฟชื่อดัง สาขามอเตอร์เวย์สาย 7 อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา  จึงได้เข้าไปติดตามเฝ้าดูจบพบตัวและเข้าจับกุมไว้ได้ 

 

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT เผยว่า ชุดสืบสวนซักถามข้อมูล น.ส.นวพรรณ ฯ ซึ่งให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาและให้ข้อมูลว่า มูลเหตุการก่อคดีนั้นเกิดจาก ได้พบเห็นโทรศัพท์ไอโฟน ราคาถูกจึงเกิดไอเดียจับเสือมือเปล่า เอาไปโพสต์ขายในเฟซบุ๊คก่อนหลังจากรับเงินจากลูกค้าแล้ว จึงจะนำเงินไปซื้อของส่งให้ลูกค้าเพื่อกินส่วนต่าง 

 

แต่เมื่อมีลูกค้าโอนเงินมาแล้วกลับไม่ดำเนินการให้กับลูกค้า โดยรับว่ามีพฤติกรรมใช้จ่ายเงินเกินตัว ในส่วนของการเป็นเท้าแชร์ พบว่า น.ส.นวพรรณ ฯ​ มีพฤติกรรม ชักชวนเล่นแชร์ โดยเป็นผู้ก่อตั้งบ้านแชร์ชื่อว่า “บ้านแชร์วาริน” โดยให้ข้อมูลว่าปี 64 เคยมีลูกข่ายเกือบ 100 ราย 

แต่ด้วยพฤติกรรมใช้จ่ายเงินเกินตัวของ ไม่สามารถหมุนเงินได้ จึงทำให้แชร์ล้มเป็นหนี้ มูลค่าความเสียหาย โดยประมาณที่ตรวจสอบพบในเบื้องต้นประมาณ  100,000 บาท ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่ายังมีความเสียหายมากกว่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนและติดต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายเพื่อยืนยันความเสียหาย และหากพบการกระทำความผิดอื่นใดเพิ่มเติมจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติมต่อไป

 

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. รอง หน.ฯ, พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ รอง ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วิศรุต ละเอียดอ่อง รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ต.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สุริโย ไชยยอด สว.กก.สส.บก.ตม.3 และ พ.ต.ต.จตุรโชค เพชรคง สว.กก.สส.บก.ตม.3