ข่าว

ผบ.ตร.เตรียมสั่งโอนสำนวนคดี'แอม ไซยาไนด์' ให้กองปราบฯรับผิดชอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมสั่งโอนสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้กองปราบฯ รับผิดชอบ เพื่อการทำสำนวนรัดกุม มีเอกภาพมากขึ้น ขณะคำให้การของ รอง ผกก.อดีตสามี ระบุเข้าใจผิดปมลูกในท้อง

2 พ.ค. 2566  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่าวันนี้ได้มีการเรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดี น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ทั้งหมดในทุกพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งจากตำรวจนครบาล,ตำรวจภูธรภาค 4 ,ตำรวจภูธรภาค 7 ,กองปราบปราม,เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช รพ.ตร. โดยวันนี้จะให้คณะทำงานแต่ละชุดนำข้อมูลมารายงานตรงเพื่อรับทราบข้อมูลทั้งหมด ก่อนเริ่มการประชุมในช่วงบ่าย 

 

 

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

 

โดยการประชุมวันนี้เป็นการรวมคดีในทุกท้องที่ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและสำนวนมีความแน่นหนา เนื่องจากผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี โดย ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง และมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบคดีในภาพรวมเข้าร่วมการประชุมด้วย

 

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ในวันนี้จะมีคำสั่งให้รวมสำนวนคดีทุกพื้นที่ไว้ที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนโดยตำแหน่ง เนื่องจากกองปราบฯ อยู่ในเขตอำนาจสอบสวนของศาลอาญา จะทำให้การทำสำนวนมีความรัดกุมและเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น ส่วนการออกหมายจับคนใกล้ชิดของ น.ส.แอม ที่เป็นตำรวจนั้น ในช่วงบ่ายจะแถลงความชัดเจนอีกครั้ง  

 

 

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า จากการสอบปากคำ รอง ผกก.อดีตสามีของผู้ต้องหา ทั้ง 2 ครั้งให้การยืนยันเข้าใจผิดคิดว่าลูกในท้องของแอมเป็นลูกที่เกิดจากตน ไม่คิดว่าอดีตภรรยาจะสวมเขาให้ และจากแนวทางการสืบสวนจะพบว่าทั้งคู่นอนแยกเตียงและหย่ากันแล้วตามนิตินัย แต่อยู่บ้านเดียวกันเพื่อดูแลลูก

 

ส่วนคดีของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ในปี 2558 นั้น มีความเป็นไปได้ยากที่สุดในการตั้งข้อกล่าวหากับ น.ส.แอม เนื่องจากเป็นเพียงคดีชันสูตร แพทย์ไม่ได้ตรวจสารพิษ ทั้งยังไม่มีหลักฐานใด แม้กระทั่งภาพถ่าย ขณะที่แพทย์เฉพาะทาง 2 รายที่ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศพนั้น รายหนึ่งได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ส่วนอีกรายหนึ่งได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ยังไม่สามารถติดต่อได้

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ