ตร.คุมตัว 'พุด-ลุงแจ้' ฝากขัง เจออีก รอยเลือด บนรถมอเตอร์ไซด์ คลี่ปม น้องต่อ

ความคืบหน้าการหายตัวไปของ "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ที่ดูเหมือนจะอลวนอลเวง มีความเคลือบแคลงน่าสงสัยในหลายประเด็น โดยเฉพาะ "นิ่ม" แม่ของน้องต่อ ที่ให้การกลับไปกลับมา ขณะที่ ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา พุด สามี ขายบริการทางเพศ โดยให้ภรรยาตัวเองไปขายบริการให้เพื่อนพ่อ และเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะว่าขณะนั้น นิ่มอายุ 15 ปี ส่วน "ลุงแจ้" ถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์  

โดยเมื่อเวลา 10.30 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งนายพุด และลุงแจ้ ออกจากห้องคุมขัง เพื่อเซ็นเอกสาร ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยระหว่างที่คุมตัวออกมา พ่อของนายพุด ซึ่งมีอาการป่วย ได้มาเยี่ยมลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่รู้ว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ โดยทันทีที่เจอกัน พ่อได้เข้าไปสวมกอดนายพุด พร้อมกับร้องห่มร้องไห้ กอดกันด้วยความเป็นห่วง 

ส่วนทางด้าน 'นิ่ม' ได้ขี่รถจักรยานยนต์ นำข้าวของ ทั้งเสื้อผ้า เเละเงินสด 10,000 บาท มาให้พุด โดยนิ่มได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เมื่อถามถึงเรื่องที่โกหกว่าชายใส่เสื้อสีเหลืองมาอุ้ม "น้องต่อ" ไป ว่า ในวันเกิดเหตุ 5 ก.พ. 66 เห็นลูกล่าสุดตอน 6 โมงเช้า เพราะได้ยินเสียงลูกร้องไห้ พอเปิดมุ้งครอบออก ลูกก็คลานมาหา พอหยุดร้องเลยอุ้มไปนอนที่หมอน แล้วตนก็นอนหลับต่อ ผ่านไปสักพักรู้สึกว่าหมอนขยับ แต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา พอตื่นขึ้นมาไม่เห็นลูกแล้ว เลยถามพุดว่าใครอุ้มลูกไปหรือได้ยินเสียงคนวิ่งหรือไม่ แต่พุดก็ไม่ได้ตอบ พอเดินไปรอบบ้านก็ไม่เห็นใครแล้ว  ผู้สื่อข่าวเค้นถามต่อว่า แล้วทำไมที่ผ่านมาถึงต้องโกหก นิ่มบอกว่า “ไม่รู้” ยอมรับว่า วันนี้รู้สึกเครียดที่โดนสังคมโจมตี พยายามอธิบายใครจะเชื่อหรือไม่ ตนไม่รู้เลย แต่ยืนยันว่า ไม่ได้เอาลูกไป

ด้านนายพุด ยืนยันว่า ไม่รู้ว่าลูกหายไปไหน ซึ่งตนเองก็ไม่สงสัยใครแล้ว ส่วนเหตุผลที่ 'นิ่ม' โกหก เรื่องชายเสื้อเหลืองมาอุ้มน้องต่อไป ตนเองก็ไม่รู้ รวมทั้งเรื่องคราบเลือด ที่รถมอเตอร์ไซค์ "ก็ตอบว่า ไม่รู้" เพราะในบ้านมีรถ 2 คัน เป็นของตนเอง 1 คัน และอีกคันเป็นของพี่ชาย เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งว่าคันที่นำไปตรวจสอบเป็นคันไหนกันแน่ ส่วนตัวไม่สามารถบอกได้ว่า นิ่มโกหกหรือไม่ เพราะ นิ่มอาจจะพูดความจริงก็ได้ ซึ่งตนเองก็ยังเชื่อนิ่มอยู่