จับตาพรุ่งนี้'ชูวิทย์'แฉกระทรวงคมนาคมทุจริตหลายหมื่นล้าน

20 ก.พ.2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดเผยภายหลังมอบเงินให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดนราธิวาส ว่าตนมีข้อมูลการทุจริตของกระทรวงคมนาคมจำนวนหลายหมื่นล้าน คิดว่าใช้เป็นทุนให้กับพรรคการเมืองบางพรรค

 

ตอนนี้ทุกพรรคการเมืองสะสมทุนเพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง เรื่องนี้จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้้ (21 ก.พ.2566) เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการทุจริตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความยุติธรรมเกี่ยวกับอัยการ และจะเปิดเผยรูปแบบพนันออนไลน์รูปแบบต่างๆ 
 

 

 

 

 

 

“คิดว่าตำรวจคงจะกวาดล้างไม่หมด แอปพลิเคชั่นเงินกู้จีน ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้  โดยภาพรวมทำได้แค่นี้ ประเทศไทยไม่ใช่ของผมคนเดียว คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ผมไปที่ไหน ผมไปขอร้องให้เขาทำตามกฎหมาย เพราะทำผิดกฎหมายผมว่าทำได้ง่ายกว่าทำถูกกฎหมายไม่รู้เป็นอะไรดูยากเย็นเหลือเกิน อย่างเรื่องหยู ซิน ฉี ทำความผิดชัดเจนเพราะอ้างว่านำของขวัญไปมอบให้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยกลับนำไปหลอกลวงคนจีนด้วยกัน ”

 

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่าข้อมูลเหล่านี้ได้นำไปให้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำไปใช้ในการอภิปราย การทำให้ทุกคนทำตามกฎหมายเป็นการขอร้องโดยทั้งสิ้น ในบางกรณีจำเป็นต้องใช้วิธีการนอกเกม เมื่อไปขอร้องดี ๆไม่ทำให้ ก็ต้องเอามาพูด ออกมาแฉให้หยุดพฤติกรรมนั้นเสีย 

“การทุจริตคอรัปชั่นไม่มีใครรู้ดีเท่าผม เพราะผมเคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ผมรู้ว่าเขารับประทานกันอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงนี้สังเกตให้ดีแล้วกัน ในการประชุม ครม.นัดสุดท้ายจะมีการทิ้งทวนหลาย ๆ เรื่อง พรุ่งนี้ผมจะดูดวงโหราศาสตร์ความเป็นไปชะตาของบ้านเมืองข้างทำเนียบรัฐบาลตรงข้ามสำนักงานก.พ.”

 

 

 

 

 

เมื่อถามว่าถ้าต่อไปมีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตจะมีการเปิดโปงต่อไปหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ถ้าจะให้พูดบ่อย ๆ สื่อก็อาจจะเบื่อขอพูดเท่าที่พูดได้  ตนมีเจตนาดี ผู้ที่ใจเป็นธรรมโดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  จึงนำเงินมาให้และยืนยันได้เต็มที่ ไม่ได้รับเคลียร์ไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ 

 

นายชูวิทย์ ยังระบุถึงกรณีที่ในสัปดาห์นี้คณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ จะเรียกมาให้ข้อมูลของนายพล จ. และสารวัตรซัว ว่าตนรู้จักกับจเรตำรวจมานานกว่า 30 ปีแล้วเป็นคนดี ซึ่งผมจะไปพบท่านอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะมีการนัดคุยกันนอกรอบก่อน เพราะเรื่องสารวัตรซัว ถือเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ให้นายบ่อนเป็นนายตำรวจ 

 

“ผมพูดจริงๆ เลยนะง่ายมาก คนไหนขับรถเฟอร์รารี คนไหนขับรถลัมโบร์กินี่ ตรวจเช็กเลยว่าประวัติที่บ้าน ตระกูลเป็นอย่างไร มันตรวจสอบได้ไม่ยาก นาฬิกาใส่เรือนละ 20 ล้าน ก็ตรวจสอบได้ ถ้าบ้านร่ำรวยหรือพ่อแม่มีเงินไม่ยาก แต่ที่พบคือไม่มี อยู่ ๆ มีขึ้นมา โดยนายซัวในอดีตไม่มีอะไร บ้านอยู่จันทบุรี เรียนโรงเรียนเก่าแก่แถวสามพราน ตั้งตนเป็นศาสดามีสาวกเรียนโรงเรียนเดียวกันมา และปล่อยให้เจริญเติบโต ผมเชื่อมือ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ท่านไม่ปล่อยแน่ เพราะที่ผ่าน ๆ มาผมไม่รู้ว่าไปเคลียร์กับใครถึงปล่อยให้เติบโตมาจนวันนี้ หวังว่ายุคนี้เป็นยุคของท่าน ผบ.ตร.เด่น ผมเชื่อว่าท่านทำงานได้เด่นสมชื่อ ผมพร้อมจะสนับสนุนท่านเท่าที่ทำได้”