วิชัย ชี้ปม 'สารวัตรซัว' ไม่จบตำรวจ ไม่ผิด แต่ผิดที่ กระบวนการตรวจสอบ

นับตั้งแต่การเปิดเผยของเครือข่ายการพนันออนไลน์ ขนาดใหญ่ ตามการแฉของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่เดินหน้าเปิดโปงเรื่องราวที่เป็นมุมมืด สีเทา อย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคมไทยได้รู้จัก และรับรู้ถึงการมีอยู่ของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว ที่ถูกระบุว่า เป็นนายบ่อนออนไลน์  

รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี พูดคุยกับ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อดีตผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เจ้าของฉายา "มือปราบหูดำ" ถึงประเด็นร้อน ล้างบางเครือข่าย “สารวัตรซัว” ขาใหญ่บ่อนออนไลน์ 

พล.ต.ต.วิชัย มองว่า การที่ทาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ทาง กองบัญชาการสอบสนกลางดำเนินการในการรวบรวมหลักฐาน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเขามองว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. คนปัจจุบัน มีความเอาจริงเอาจัง มีความสามารถ แม่นยำในเรื่องข้อกฎหมาย และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีเครือข่ายในการทำงาน ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่กลับไม่ดำเนินการ แม้จะไม่เอ่ยออกมาโดยตรง แต่ก็พอจะทราบกันว่าเป็นหน่วยงานใด เพราะขนาดพิธีกรในรายการยังกล่าวถึงหน่วยงานนั้น 
 

“การพนันออนไลน์มันมีเยอะเหลือเกิน แล้วใครรับผิดชอบ แล้วระหว่างคุณรับผิดชอบ คุณทำอะไรบ้าง แล้วถ้าคุณไม่ทำ คนเขาก็จะมองว่า คุณเกี่ยวข้องหรือไม่ อะไรมันเป็นเหตุให้คุณไม่ทำหรือไม่ แบบนีคุณตอบสังคมได้ไหม” พล.ต.ต.วิชัย ตั้งคำถาม

ประเด็นสำคัญที่หลาย ๆ คน ตั้งคำถาม คือ การเข้ามาเป็นตำรวจ เพราะตามข้อมูล สารวัตรซัว ไม่ได้เป็นตำรวจที่มาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พล.ต.ต.วิชัย อธิบายว่า การเป็นตำรวจ มีด้วยกระบวนการ สอบคัดเลือก นายร้อยตำรวจ นายสิบ พลตำรวจ จากนั้นก็เป็นตำรวจที่เปิดรับตามวุฒิขาดแคลน ที่เป็นวิชาชีพเฉพาะทาง ที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เข้ามาแล้วก็ส่งไปอบรม กอส. (หลักสูตรการอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร) อีกกรณี คือ บุตรหลาน ครอบครัว ของตำรวจที่เสียชีวิต เข้ารับราชการแทน 

พล.ต.ต.วิชัย อธิบายว่า การเปิดรับตำรวจ แบบที่ผ่านการปิดวุฒิขาดแคลน ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นที่กระบวนการตรวจสอบ บางครั้งอาจจะมีผู้รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ และ ในกรณี สารวัตรซัว ผู้บังคับบัญชาทำไมไม่เคยตรวจสอบ ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง พอมีประเด็นปัญหาเกิดขึ้น ถึงได้เอาเรื่องขาดเวลาราชการเกินกำหนดมาทำเรื่องคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่ทำไมไม่เคยตั้งกรรมการสอบสวน พฤติกรรม แต่คนข้างนอกกลับรับรู้รับทราบ 
 

มือปราบหูดำ มองว่า ตำรวจ เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่กลับใช้ช่องโหว่ตรงนี้ ทำผิดเสียเอง และที่น่าตกใจ ตามข้อมูลของ พล.ต.ต.วิชัย ที่กล่าวต่อไปว่า เมื่อไม่มีใครจัดการได้ ก็เลยหันมาทำลักษณะแบบนี้กัน เพราะไม่มีใครกล้ายุ่ง แถมจะมีคนคอยปกป้อง รวมทั้งยังดึงเอาตำรวจชั้นประทวน มาเปิดบัญชีม้าให้อีก และทำการหาบัญชีม้าอีกด้วย  

ทำไมที่ผ่านมา เรื่องราวของ สาวัตรซัว ถูกกล่าวถึงกันมาตลอด แต่การดำเนินการในการจัดการกลับสวนทาง กับการรับรู้ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ทำไมผู้บังคับบัญชาไม่ตรวจสอบ ขนาดคนทั่วไปยังรู้ เคยตรวจสอบ เคยถามไหม ก็ไม่ทำ ทำไมไม่ทำ เพราะถ้ามีเรื่องอะไร ก็ถึงตัวเองด้วย และที่ไม่ทำก็แสดงว่า มีอะไรไปง้าง หรือเขามีความสำคัญ คุณถึงไม่ทำเขา เขาให้ผลประโยชน์คุณหรือเปล่า เขาดูแลคุณหรือเปล่า หรือมีอิทธิพลอะไร แล้วที่ว่าผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับไหน ก็ต้องตั้งแต่ระดับสูงจนถึงผู้นำหน่วยของเขา พอไม่ถูกจัดการ คนทำแบบสารวัตรซัวก็มากขึ้น

การตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำมาเป็นหลักฐาน ในสายตาของ มือปราบหูดำ มองว่าไม่ใช่เรื่องยาก ทำการตรวจสอบบัญชีม้า เพื่อดูว่าเส้นทางการเงินไปถึงใคร แล้วก็ตรวจสอบ สารวัตรซัว ว่ารวยมาได้ยังไง คุณชี้แจงไม่ได้ ปปง. ก็ยึดทรัพย์ตามกฎหมายการฟอกเงิน รวมทั้ง ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตั้งกรรมการสอบสวนหัวหน้าของ สารวัตรซัว ด้วย เพราะภาพมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ไม่มาทำงาน ใช้ชีวิตหรูหราต่างประเทศ เรื่องการหนีราชการก็ตรวจสอบไปว่าหนีมากี่ปี 

เหตุที่พนันออนไลน์เฟื่องฟู  พล.ต.ต.วิชัย มองว่า เป็นเพราะ พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งมีโทษแค่ปรับ แต่การพนันออนไลน์ ยังไม่มีบทลงโทษใดๆ มีเพิ่มเติมเพียงกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน และเกิดจาก เจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการตามกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการให้ชัดเจน