"ฆาตกรต่อเนื่อง" หนีออกจากบ้าน ก่อนเข้าสู่วงจร "ค้ามนุษย์-ยาเสพติด"

จากกรณี ตำรวจกองปราบปราม จับกุม นายธนเดช หรือ รุจ อายุ 27 ปี "ฆาตกรต่อเนื่อง" ก่อเหตุลวงหญิงสาวในแอปพลิเคชันหาคู่ มากักขังทุบตีทำร้ายทรมาน จนเหยื่อเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ต.ค.65 พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ในส่วนของ"กองปราบปราม" ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน รับตัวไปดำเนินคดีกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.กมลเนตร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า ย่านบางกอกน้อย ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย น.ส.เนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี เหยื่อที่กองปราบปราม บุกช่วยเหลือออกมาได้ ทราบว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง กำลังสอบสวน พร้อมขออายัดตัวผู้ต้องหา นำตัวกลับไปดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย

พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าทางการสืบสวน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหา เข้าแจ้งความเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบให้ชัดเจน เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับประวัติของ นายธนเดช ทราบว่า หลบหนีออกจากบ้านเกิดที่ จ.ยะลา มาตั้งแต่อายุ 14 ปี หลังจาก พ่อ-แม่แยกทางกัน โดย นายธนเดช นั้น อาศัยอยู่กับแม่ แต่ทนความโมโหร้ายของแม่ไม่ได้ เพราะมักจะลงมือทำร้าย นายธนเดช ทุกครั้งที่เมาเหล้า จนต้องหนีขึ้นมาที่กรุงเทพฯ โดยไม่มีเป้าหมายว่าจะไปไหน และมีเงินติดตัวมาแค่ 100 บาท เมื่อเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็ไปเป็นเด็กเร่ร่อนอยู่ที่สนามหลวง จนสุดท้ายก็ถูกชักชวนเข้าไปอยู่ในขบวนการ"ค้ามนุษย์" และ"ยาเสพติด" เคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเหยื่อสาวที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น ทราบว่า มาจาก จ.อำนาจเจริญ เข้ามาทำงานใน กทม.กระทั่งเกิดมารู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทาง"เฟซบุ๊ก" จนสนิทสนมกัน
 

หลังจากผู้ตายแชทคุยกับผู้ต้องหาอยู่ได้ 2-3 เดือน นายธนเดช ก็ชักชวนให้มาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าเกิดเหตุ หลังจากนั้น เป็นต้นมา ผู้ตายมักถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนเพื่อนบ้านรู้สึกเอือมระอา เนื่องจากคิดว่า เป็นเรื่องของผัว-เมียทะเลาะกัน ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว สุดท้ายก็เลยทำให้ถูกทำร้ายจนถึงกับเสียชีวิต ส่วน นายธนเดช ก็หลบหนีไป จนกระทั่งมาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.เนย จนถูกจับกุมได้ดังกล่าว