ข่าว

รวบ"เจ๊เหมย" แก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด บุกทวงหนี้ "รุมตบ-ถ่ายคลิปประจาน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปอศ.บุกรวบ"เจ๊เหมย" แก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด แฉพฤติกรรมทวงหนี้ บุกรุมตบ-ถ่ายคลิปประจาน "ลูกหนี้"ทนไม่ไหวแจ้งความ ถูกรวบคาบ้านพัก

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พร้อม พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในจังหวัดขอนแก่น ก่อนจับกุมตัว น.ส.ณัฏฐนิช หรือ "เจ๊เหมย" และ นายฤกษ์ชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ"ศาลอาญา" ที่1817-1818/2565 ลงวันที่ 31 ส.ค.65 พร้อมตรวจยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์ จำนวน 12 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง, ไอแพดจำนวน 1 เครื่อง,สมุดบัญชี จำนวน 9 เล่ม,เอกสารเกี่ยวกับเงินกู้ จำนวน 40 ฉบับ,รถยนต์หรู จำนวน 2 คัน,เงินสด จำนวน 100,000 บาท,ทองรูปพรรณ 200 บาท สัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 1 ฉบับ,นามบัตรและใบปลิว จำนวน 401 แผ่น,สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ จำนวน 6 ฉบับและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 

การจับกุม สืบเนื่องจากศูนย์ป้องกันปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับ"หนี้นอกระบบ" สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดช่องทางรับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากนายทุนปล่อย"เงินกู้นอกระบบ" โดยได้รับการร้องเรียนว่า ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มีนายทุนเงินกู้ชื่อ"เจ๊เหมย" ปล่อยเงินกู้เกินกว่าที่กำหนดร้อยละ 912.5 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ซึ่งผู้เสียหายไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้ได้ และมีพฤติกรรมส่งคนมาข่มขู่หากผิดนัดชำระหนี้ จะทำร้ายร่ายกายถึงบ้าน และถ่ายคลิปประจาน ทำให้ผู้เสียหายอับอายอย่างมาก 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า "เจ๊เหมย"คือ น.ส.ณัฏฐนิช และ นายฤกษ์ชัย ซึ่งเป็นสามีของเจ๊เหมย มีพฤติการณ์ร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และเปิดเพจเฟสบุ๊คชื่อว่า แชร์บ้านเหมย ซึ่งมีการลงคลิปชักชวนให้มากู้เงิน โดยนอกจากการปล่อยเงินกู้ตามปกติแล้ว ยังมีการผ่อนทอง หรือ ผ่อนสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อต่างๆ และยังพบว่ามีการลงคลิปที่มีการทำร้ายร่างกายลูกหนี้ประจานในเพจเฟซบุ๊ก เพื่อข่มขู่ลูกหนี้รายอื่นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง นอกจาก"เจ๊เหมย"แล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ.จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ กระทั่งปิดล้อมตรวจค้นและทำการจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.ภาดล  กล่าวว่า ขบวนการนี่จะใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ค , ไลน์ ชักชวนผู้มีปัญหาทางการเงินให้ติดต่อกู้ยืมเงิน ทำให้มีผู้มากู้ยืนเงินเป็นจำนวนมาก สำหรับวิธีการเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยจะใช้วิธีการเรียกเก็บดอกเบี้ยรายวัน โดยมีการทำสัญญากู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยประมาณ ร้อยละ 2.5 ต่อวัน หรือ 912.5 ต่อปี ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน เบื้องต้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

อนุสรณ์ สาระศาลิน รายงาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ