อธิบดีดีเอสไอ ยันปิดคดีฆาตกรรม"กะเหรี่ยงบิลลี่"ภายใน 3 เดือน "กรวัชร์"ลงพื้นที่ให้กำลังใจลูก-เมีย เผยดีเอ็นเอไมโตรคอนเดียพิสูจน์ได้ตามสายพันธุ์ ส่งต่อแม่สู่ลูก
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 4 กันยายน 2562 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ"ดีเอ็นเอไมโตรคอนเดีย"ของชิ้นส่วนกระดูกตรงกับดีเอ็นเอของนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย
โดยบอกว่า การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญ โดยเป็นการยืนยันว่าดีเอ็นเอที่ตรวจพบตรงตามสายพันธุ์ที่สืบทอดจากแม่สู่ลูก ในชั้นสอบสวนดีเอสไอก็เชื่อว่าจะต้องมีข้อโต้แย้งเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงได้สอบสวนจนครบถ้วนสมบูรณ์ว่าแม่ของนายบิลลี่มีลูกทั้งหมดกี่คน
ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดยังมีชีวิต ยังไม่มีใครเสียชีวิต หลังจากนี้เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลจะเป็นการต่อสู้กันด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อมที่ดีเอสไอรวบรวมได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนสั่งคดีได้ ในระหว่างนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลา 1 เดือนเต็มในการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูก 20 ชิ้นที่งมขึ้นมาได้จากลำน้ำในอุทยานแห่งชาติแก่งประจาน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ (5 ก.ย.) มอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อให้กำลังใจน.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมีนอ ภรรยาของนายบิลลี่ที่บ้านโป่งลึก อ.แก่นกระจาน โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ดีเอสไอเปิดให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปรายงานข่าวได้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ภายหลังดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าวตรวจสอบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูกจากก้นลำน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยมีการจัดกลุ่มคนเข้าไปลอยอัฐิ หรือลอยอังคารภายในลำน้ำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการนำอัฐิของผู้เสียชีวิตมาลอยอังคารกันเป็นปกติ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือหลักฐานที่ดีเอสไอค้นพบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง