(คลิป) แม่พาลูกสาวเป็นใบ้ขอบคุณกองปราบติดตามรถคืน

          ที่กองปราบปราม(บก.ป.) เมื่อเวลา 10.30น. วันที่ 1 กันยายน น.ส.วราพร เทียมทองหลาง อายุ 47 ปี ชาวบ้านจังหวัดนครราชสีมาหอบลูกสาวเป็นใบ้ น.ส.ญาณี วงค์ใจ อายุ 19 ปีเข้าขอบคุณกับทางพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.ที่ได้ช่วยตามรถยนต์ที่ไปจำนำไว้กับคนรู้จักโดยที่ไม่มีสัญญาใดๆ ไว้ในราคา 40,000 บาท โดยทางตำรวจได้ติดตามนำรถมาคืนให้

          สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ทางผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับทางร.ต.อ.(หญิง) กัญจิรา นรสาร รองสว.(สอบสวน) ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจยย. บก.ป.(ศปจร.ป.) ว่าได้จำนำรถมาสด้า 2 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขอ 5950 นครราชสีมาไว้ในราคา 40,000บาท กับทางนายทุนคนหนึ่งโดยให้ทางผู้ใหญ่บ้านติดต่อมาอีกที จนเมื่อมีเงินไปไถ่รถคืน ปรากฏว่ากลับไม่ได้รถคืน เพราะไม่ได้ทำสัญญาจำนำเอาไว้ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องใช้รถยนต์ในการดูแลลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ก็ให้ลูกนั่งรถจักรยานยนต์จนเกิดอุบัติเหตุจึงตัดสินใจซื้อรถ เมื่อไม่ได้รถคืนจึงเดือดร้อนอย่างยิ่ง เกิดความเครียดจนตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่พลเมืองดีช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน เมื่อรักษาตัวเสร็จแล้ว ก็เดินทางมาแจ้งความกับกองปราบปราม

          ทางเจ้าหน้าที่พบว่าผู้เสียหายไม่มีหลักฐานการจำนำ เป็นการจำนำปากเปล่า จึงใช้อำนาจสืบสวนจนสามารถติดตามรถคืนมา พบว่ารถมีการขายต่อกันไปแล้วกว่า 7 ครั้ง ทั้งนี้วันที่ผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว ก็ไม่ยอมกลับเพราะเดือดร้อนมาก จะขอนอนที่กองปราบปราม อีกทั้งระหว่างที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามรถนั้น ผู้เสียหายเคยโทรศัพท์มาหาพนักงานสอบสวนเพื่อขอลาตายด้วย แต่เมื่อตำรวจติดตามรถคืนมาได้ ก็ถึงกับดีใจมากรีบนั่งรถทัวร์เดินทางมารับรถคืนในวันนี้         

          ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนทำงานเป็นหมอนวดแผนไทยโบราณ ใครเรียกให้ไปนวดก็ไป มีรายได้เฉลี่ยวันละ 400-500 บาท ที่ผ่านมาเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์มันลำบาก จึงซื้อรถยนต์ไว้เพื่อรับส่งลูก โดยปกติจะเอาลูกไว้ที่บ้าน ซึ่งมีคนใจดีให้พักฟรี ช่วงกลางวันก็ให้ลูกอยู่บ้าน ตนก็กลับมาตอนเย็น ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตนเอารถไปจำนำเพื่อหาเงินไปทำงานต่างประเทศ แต่ปรากฏว่าไปทำงานที่รัสเซียแล้วติดปัญหาเอกสารที่ตม.รัสเซียจนถูกส่งตัวกลับ ที่ผ่านมาก็หาเงินจ่ายดอกเบี้ยไป 4 เดือน พอจะไถ่คืนกลับไม่ได้รถคืน ตอนนั้นเครียดมาก จนคิดฆ่าตัวตาย ในช่วงนั้นต้องไปหาหมอ กินยารักษาอาการทางจิตเวช ตนก็ป่วย ลูกก็พิการมีปัญหาดูแลตัวเองไม่ได้ ครั้งหนึ่งลูกเคยหิวมากจนเอาหมูสามชั้นดิบมากิน ตนถึงกับตกใจ ตอนนั้นยอมรับว่าหมดที่พึ่งมาก ไปขอพี่สาวให้ช่วยไถ่รถ ก็ไม่ช่วยเหลือ ตนจึงมาที่กองปราบปราม พอได้รถคืนก็ดีใจมาก ทำให้มีแรงใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป

          เบื้องต้นทาง พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจจะขยายผลสืบสวนหาผู้กระทำผิด อยากฝากถึงประชาชนว่า อย่าทำการจำนำรถโดยที่ไม่มีสัญญา ซึ่งในวงการจำนำรถนั้น หากไม่มีการทำสัญญาก็จะขายต่อเป็นทอดๆ จึงอยากฝากถึงประชาชนให้ระวังด้วย.