ข่าว

ออกหมายจับเพิ่มบึ้มกรุง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 คดีลอบวางระเบิดกรุงเทพ แจ้งข้อหาหนัก อั้งยี่-ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์

 

               โฆษก ตร. เผย ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 คดีลอบวางระเบิดกรุงเทพ แจ้งข้อหาหนัก อั้งยี่-ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ย้ำไม่มีจับแพะ ยึดระเบียบ กฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน

 

               วันที่ 20 สิงหาคม 2562 พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อเหตุ ลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพ และพื้นที่เกี่ยวข้อง ในห้วงที่ผ่านมา ว่า ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่า

 

               วันนี้ 20 สิงหาคม 2562 ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหาเพิ่มเติม 3 ราย ในข้อหา "เป็นอั้งยี่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ทำ ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, พกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์” ซึ่งเป็นความผิดที่มีอายุความ 20 ปี และมีอัตราโทษสูง

 

               โดยในขณะนี้ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 9 ราย จากผู้ร่วมก่อเหตุหลายรายในแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ ได้แก่ นายลูไอ แซแง และ นายวิลดัน มาหะ (ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562) วันที่ 14 สิงหาคม 2562 ศาลได้อนุมัติหมายจับจำนวน 4 ราย นายอัสมี อาบูวะ , นายอุสมาน เปาะลอ , นายอุสมาน เปาะลอ , นายอัมรี มะมิง

 

               ต่อมาในวันนี้ (20 สิงหาคม 2562) ศาลได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมอีก 3 ราย คือ นายอุสมัน ลาเตะ , นายฮาซัน อาแว และ นายนัสรู มะประสิทธิ์ ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผลออกหมายจับ ผู้ที่ร่วมก่อเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

 

               พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องผ่านมายัง พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการทำงานกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เข้มข้นจริงจัง และบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

               รวมทั้งในส่วนของภาคประชาชนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องและแจ้งข้อมูลเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้ขับเคลื่อนตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา ยึดระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน เป็นสำคัญ โดยจะต้องไม่มีการจับแพะอย่างเด็ดขาด

 

               พร้อมกันนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นในทีมงานของ ผบ.ตร. และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ได้แต่งตั้งขึ้นมาทำงานไม่มีวันหยุดพักภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยให้นำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาเชื่อมโยงพิสูจน์ถึงการกระทำความผิด ยึดหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ เป็นสำคัญในการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม

 

               โดยหากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งหรือส่งข้อมูลมายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม. ในทุกพื้นที่

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ