ร้องกองปราบคดีลูกชายนักกีฬาจังหวัดถูกคนร้ายตีไม่คืบ

 พ่อ-แม่ร้องกองปราบคดีลูกชายนักกีฬาจังหวัดถูกคนร้ายใช้ท่อเหล็กตีดับไม่คืบ 

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 เมษายน ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พร้อมด้วย นายมรกต โพธิ์สวัสดิ์ อายุ 41 ปี บิดา น.ส.กัญญาภัค โพธิ์สวัสดิ์ อายุ 36 ปี มารดาของนายศิวกร โพธิ์สวัสดิ์ หรือปังปอนด์ อายุ 16 ปี ที่ถูกชายฉกรรจ์ 3 คน ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) เพื่อขอความเป็นธรรมและช่วยให้เร่งรัดคดีจับกุมคนร้าย

          นายรัชพล กล่าวว่า ยอมรับว่าผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์แต่งท่อเสียงดังเล็กน้อย และมีกลุ่มคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่ง 3 คน ดักทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนส่งตัวเข้ารักษาอาการที่ รพ.พระปกเกล้า 1 พบว่าสมองบอบช้ำ และใบหน้ามีบาดแผลแตก ก่อนส่งตัวมาที่ รพ.โป่งน้ำร้อน จนผู้ตายเพิ่งมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ตนมองว่า คดีนี้น่าจะมีอะไรคืบหน้าได้มากกว่านี้ โดยตำรวจแจ้งว่า ในพื้นที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งน่าจะสามารถหาจากจุดอื่นๆ ได้อีกทั้งยังไม่พบลายนิ้วมือแฝงบนท่อแป๊ปเหล็กด้วย 
 
          นายมรกต กล่าวว่า พยานซึ่งเป็นเพื่อนของลูกชายที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้วยกัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกกับเพื่อนรวม 3 คน ขี่จักรยานยนต์คนละคันไปงานวันเกิดเพื่อนที่ตลาดทับไทร และกลับกัน 2 คน เมื่อถึงที่จุดเกิดเหตุบนถนนสายทับไทร-เทพนิมิต ทางเข้าวัดคลองคาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มีคนร้ายใส่หมวกโม่งขว้างท่อเหล็กและมายืนขวางถนนดักตี ยืนยันลูกชายไม่มีปัญหากับผู้ใด ซึ่งก่อนหน้านี้ ลูกได้เรียนที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนย้ายมาอยู่ จ.จันทบุรี ไม่ถึงปี ลูกของตนเป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริงแจ่มใส รักเพื่อนๆ ทั้งยังเป็นนักกีฬาระดับจังหวัด ซ้อมกีฬาที่โรงเรียนกลับบ้าน 19.00 - 20.00น. เกือบทุกวัน จึงมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหากับใคร รวมถึงกลุ่มเพื่อนด้วยกันเองก็ไม่มีปัญหากับใคร ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้มีกลุ่มวัยรุ่นตีกันอยู่ในละแวกนั้นไม่กี่นาที ซึ่งตำรวจได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นการทำร้ายผิดตัว

          ด้าน น.ส.กัญญาภัค กล่าวว่า สาเหตุน่าจะมาจากการเข้าใจผิด เพราะในเวลาใกล้เคียงกันมีการทำร้ายวัยรุ่นคนอื่นในลักษณะเดียวกัน จากคำบอกเล่าของเพื่อนลูกชายระบุว่าคนก่อเหตุมีรูปร่างสูงใหญ่ ลักษณะน่าจะไม่ใช่วัยรุ่น แต่ตนก็ไม้รู้และไม่ได้สงสัยใคร เพราะไม่มีข้อมูลอะไร ส่วนคนที่วิจารณ์ว่าลูกเป็นเด็กแว้นนั้นไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าลูกชอบแต่งรถแต่ท่อก็ไม่ได้ดังมาก ไม่อย่างนั้นคงขับผ่านเข้าประตูโรงเรียนไม่ได้ ก่อเกิดนเหตุลูกชายก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง เขาเด็กร่าเริง ไม่เชื่อว่าจะมีศัตรูที่ไหน อีกทั้งยังเป็นเด็กกตัญญูทำงานร้านหมูกระทะ หาเงินช่วยครอบครัว

          เบื้องต้น พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหาย พร้อมสอบสวนก่อนพิจารณาเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.